กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
เผยเติบโตทั่วโลก เป็นผลพวงจากการลงทุนวิจัยและพัฒนาระดับโลก บวกกลยุทธ์พันธมิตรทั่วโลก
หัวเหว่ย-3คอม (H3C) ผู้นำโซลูชั่นด้านระบบเครือข่ายไอพีเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการดำเนินภารกิจของการเป็นหนึ่งในผู้นำโลกในฐานะผู้จำหน่ายโซลูชั่นและอุปกรณ์ด้านไอพี และในโอกาสที่บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจครบรอบ 3 ปี บริษัทฯ ได้เปิดเผยถึงรายได้ในครึ่งปีแรกว่าสูงขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 70% ด้วยกัน โดยมียอดจำหน่ายจากต่างประเทศสูงถึงหนึ่งในสามของยอดจำหน่ายทั้งหมด โดยมีรายได้สุทธิในครึ่งปีแรกของปี 2549 เป็นจำนวนสูงถึง 324 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเป็นเงินไทยเท่ากับ 11,888 ล้านบาท
การเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นผลมาจากการทุ่มทุนด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้ง อีกทั้งการเพิ่มจำนวนวิศวกรเครือข่ายขึ้นอีกสามเท่าจากในปี 2546 และการก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในประเทศจีน (ปักกิ่ง หังโจว และเซินเจิ่น) และอินเดีย (บังกาลอร์) ปัจจุบันมีบุคลากรกว่า 3,000 คน ดูแลเรื่องการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับนวัตกรรมเทคโนโลยี และสายผลิตภัณฑ์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถครองส่วนแบ่งในตลาดประเทศจีนสูงถึงกว่า 30% อีกทั้งยังสามารถขยายส่วนแบ่งตลาดในภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว ลูกค้ารายล่าสุดได้แก่ PetroChina, ICBC และ PSA Peugeot Citroen สำหรับในประเทศไทยกลุ่มลูกค้ามีในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิเช่น สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกระทรวงสาธารณสุข (หน่วยงานภาครัฐ) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยรังสิต (สถาบันการศึกษา) บริษัทเพย์เมนท์ โซลูชั่น จำกัด (ภาคการเงินและการธนาคาร) โรงพยาบาลศิริราช (ภาคการดูแลสุขภาพ หรือเฮลท์แคร์)
“นับตั้งแต่ H3C ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนวิศวกรก็เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีไม่ถึง 1,000 คน จนเกือบถึง 3,000 คน ณ วันนี้” เฮนรี่ โซ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีของ H3C กล่าว “H3C ได้มอบรายได้กว่า 15% กลับคืนไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนา เงินจำนวนดังกล่าวทำให้เราสามารถจ้างวิศวกรมีอดีที่สุด จากบุคลากรนับพันที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ในประเทศจีน มาสร้างเลือดใหม่ให้กับโปรแกรมส่วนงานนวัตกรรมด้านไอพีชั้นนำระดับโลกของเรา”
โซ กล่าวว่า หน่วยงานดังกล่าวได้รับประโยชน์จากความสามารถด้านเทคนิคของจีน และความคิดสร้างสรรค์ของทีมงานวิจัยและพัฒนาก็อยู่ในระดับที่โดดเด่นอย่างมาก “ด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลสำหรับการวิจัยและพัฒนา ทำให้ในแต่ละปี H3C สามารถพัฒนาสายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีซอฟท์แวร์ฟีทเจอร์ใหม่ๆ จำนวนนับพันฟีทเจอร์ ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการของ H3C”
โซ กล่าวว่า H3C ได้ดำเนินการจดสิทธิบัตรเพิ่มเติมกว่า 500 สิทธิบัตรด้วยกัน โดยกว่า 3,000 สิทธิบัตรที่ได้รับมาโอนมาจากรบริษัท หัวเหว่ย และเทคโนโลยีส์ จำกัด และ ทรีคอม คอร์ปอเรชั่น
นอกจากผลิตภัณฑ์เราเตอร์ และสวิตช์ ยังได้รับการพัฒนาสายผลิตภัณฑ์ขึ้นมาอีกจำนวนมาก อันเป็นผลโดยตรงมาจากการเพิ่มทรัพยากรด้านวิศวกรรมมากขึ้น “ปัจจุบันเรามีผลิตภัณฑ์ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการด้านไอพีสตอเรจ ระบบรักษาความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ระบบเสียงและวิดีโอผ่านเครือข่ายไอพี และผลิตภัณฑ์สำหรับทั้งตลาดสำนักงานขนาดเล็กและผลิตภัณฑ์สำหรับโฮมยูส” โซ กล่าว “ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ทำให้ H3C สามารถนำเสนอสายผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์และครบวงจรแก่อุตสาหกรรม และทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชั่นหลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนเฉพาะของภาคธุรกิจที่แตกต่างกันได้ เช่น ภาครัฐบาล ภาคการเงินและการธนาคาร ภาคการศึกษา และภาคการดูแลสุขภาพ หรือเฮลท์แคร์”
“คุณภาพของผลิตภัณฑ์ เป็นสิ่งที่เราคำนึงถึงเป็นอันดับแรกในเวลาที่เราวางแนวทางพัฒราสายผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเราได้จัดให้มีการตรวจตราดูแลในเรื่องคุณภาพตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่เฉพาะแต่ขั้นตอนการผลิตเท่านั้น”
หน่วยงานดังกล่าว ต้องใช้ทั้งบุคลากร และเงินลงทุนจำนวนมากเพื่อให้ได้มาซึ่งการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และซอฟต์แวร์ “ปรัชญาองค์กรที่มุ่งเน้นที่คุณภาพเป็นหลัก ยังได้หยั่งรากลึกในจิตสำนึกของวิศวกรทุกคน และการก่อตั้งศูนย์ทดสอบที่มีมูลค่าสูงยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในเรื่องคุณภาพอีกด้วย เรามองว่าคุณภาพเป็นเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิต ดังนั้นการผลิตผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในจำนวนมาก จำเป็นต้องผ่านการทดสอบและตรวจสอบว่าได้มาตรฐานก่อนสิ่งอื่นใด” H3C กำลังทำงานกับหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการทดสอบผลิตภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก เช่น Tolly Group เพื่อการันตีคุณภาพของสายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทฯ จากรายงานที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานนอก พบว่า H3C มีส่วนแบ่งตลาดระบบเครือข่ายไอพีในประเทศจีนถึงกว่า 30% พร้อมๆ กับจำนวนตัวเลขที่ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา H3C สามารถสร้างการเติบโตของยอดจำหน่ายปีต่อปีได้สูงถึง 70% โดยมียอดจำหน่ายต่างประเทศไม่รวมประเทศจีนสูงถึงหนึ่งในสามของยอดจำหน่ายทั้งหมด ซึ่งคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะสูงขึ้นอีกในปีนี้
“3 ปีที่ผ่านมา เราสามารถสร้างประสบการณ์ในการเติบโตในตลาดต่างประเทศสูงถึง 200% ในแต่ละปี ซึ่งเรายังคงมองหาโอกาสในการเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”เจสซี่ วู รองประธานกรรมการของ H3C และประธานฝ่ายการตลาดและการขายทั่วโลก กล่าว “เราประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในตลาดบ้านเรา แต่อย่างไรก็ดีตลาดต่างประเทศก็ยังคงเป็นตลาดหลักในการพัฒนาธุรกิจต่อไป เรามีความพร้อมอย่างมากในเรื่องของทีมงานฝ่ายขายและฝ่ายให้การสนับสนุน รวมถึงทีมงานฝ่ายปฏิบัติการ ทั้งในแง่ความพร้อมด้านโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ รวมถึงความพร้อมในเรื่องการสนับสนุนด้านลอจิสติกส์ เพื่อให้สอดคล้องกับคุณภาพและเงื่อนไขของสภาวะแวดล้อมในตลาดทั้งหมด กล่าวสั้นๆ ก็คือ เรามุ่งเน้นที่การนำเสนอโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทั่วโลก”
จากคำกล่าวของนางวู ผลิตภัณฑ์ของH3C ได้มีการจัดจำหน่ายในกว่า 90 ประเทศด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายตรงโดยของ H3C หรือจำหน่ายผ่านพันธมิตรธุรกิจของH3Cก็ตาม ผลิตภัณฑ์ของ H3C ได้รับการยอมรับอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก ทั้งในแง่ความเยี่ยมยอดในการผสมผสานด้านฟีทเจอร์ในการทำงาน คุณภาพด้านประสิทธิภาพการ ให้ความคุ้มค่าสูงสุดด้านมูลค่าความเป็นเจ้าของสำหรับลูกค้า เราให้คุณค่าที่หาไม่ได้จากผู้จำหน่ายรายอื่น นอกจากนี้ ถ้าคุณเป็นพันธมิตรด้านช่องทางจำหน่ายของเราแล้ว คุณจะได้รับความคุ้มค่าเหนืออื่นใด จากนโยบายวินวินแบบสามต่อ(Triple-win) ของเรา”
กลยุทธ์วินวินแบบสามต่อของเรา เป็นสิ่งที่H3C ใช้ในเวลาที่ต้องขยายความถึงกลยุทธ์ด้านพันธมิตรและด้านช่องทางจำหน่าย ในสายการธุรกิจของเรา จะประกอบไปด้วยสามสิ่งด้วยกัน ได้แก่ พันธมิตร ลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทาง และผู้จำหน่าย ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้รับคุณค่าที่เท่าเทียมกัน เพื่อเป็นการการันตีว่าทุกองค์ประกอบในสายธุรกิจจะได้รับความพอใจสูงสุดจากความร่วมมือที่ดี
“พันธมิตรธุรกิจ ถือเป็นองค์ประกอบหลักของความสำเร็จของเรา” นางวู กล่าว “ในประเทศจีน เราได้พิสูจน์ให้เห็นถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว และเราจะต้องพิสูจน์ให้ตลาดต่างประเทศทั้งหมดได้ตระหนักเช่นกัน ถ้าเราต้องการจะประสบความสำเร็จทั่วโลก”
“H3C ได้สร้างพันธมิตรธุรกิจขึ้นกว่า 1,500 รายทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันพันธมิตรด้านกลยุทธ์หลักของเราไม่ว่าจะเป็น หัวเหว่ย ซีเมนส์ ทรีคอม มาร์โคนิ และ เอ็นอีซี ทุกท่านล้วนแล้วแต่เป็นหัวใจสำคัญในการเจาะตลาดต่างประเทศ การมีพันธมิตรที่ได้รับการอบรมและผ่านการสอบรับรอง ยิ่งทำให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นให้แก่ภาคธุรกิจในตลาดเอ็นเตอร์ไพร์ซได้ดียิ่งขึ้น” นางวู กล่าว
เจสซี่ วู มีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า H3Cจะยังคงสร้างทีมงานฝ่ายขายและฝ่ายบริการในแต่ละประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสานสัมพันธภาพที่แน่นแฟ้นกับพันธมิตรธุรกิจในแต่ละประเทศทั่วโลกได้อย่างยั่งยืน
เกี่ยวกับหัวเหว่ย-3คอม
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายชั้นนำเพียงไม่กี่รายที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านระบบเครือข่ายไอพีที่ครบวงจร หัวเหว่ย-3คอม(H3C) มีเป้าหมายที่จะสร้างคุณค่าสูงสุดสำหรับลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลก ด้วยบริการที่ดีเยี่ยมและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง
สำนักงานใหญ่อยู่ที่ฮ่องกง และมีศูนย์วิจัยพัฒนาอยู่ที่ประเทศจีน (ปักกิ่ง หังโจว และเซินเจิ้น) และอินเดีย (บังกาลอร์) มีพนักงานกว่า 4,800 คน โดยพนักงานกว่าครึ่งเป็นพนักงานด้านการวิจัยและพัฒนา
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.huawei-3com.com
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทเอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด
คุณจารุณี สินชัยโรจน์กุล
02-655-6633, 081-488-8442
คุณบุษกร ศรีสงเคราะห์
02-655-6633, 081-911-0931
บริษัท หัวเหว่ย-3คอม (ประเทศไทย) จำกัด (H3C)
คุณณัฐฐิยา ตรีธารทิพย์วงศ์
02-655-8562,081-376-4224
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit