กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--ปตท .
“พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการทำประกันภัยเครื่องยนต์ของรถยนต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์ NGV” ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดย นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ กลุ่มธุรกิจสำรวจ ผลิต และก๊าซธรรมชาติ กับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)
โดย นายจารึก กังวานพณิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ การประกันภัยดังกล่าวจะช่วยสร้างความมั่นใจและ สนับสนุนให้ประชาชนติดตั้งอุปกรณ์ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมัน ในภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลก
สำหรับสาระสำคัญในบันทึกข้อตกลงมีดังนี้ ปตท. จะดำเนินการซื้อประกันภัยให้ความคุ้มครองเครื่องยนต์ของรถยนต์นั่ง 4 ล้อ เครื่อง ยนต์เบนซิน ที่ใช้งานเป็นรถส่วนบุคคล ที่เครื่องยนต์เกิดความเสียหายจากการติดตั้งระบบก๊าซ NGV จนไม่สามารถใช้งานต่อได้จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่อง ยนต์ โดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องยนต์พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ NGV ให้กับรถยนต์ที่ เครื่องยนต์เกิดความเสียหายจากกรณีดังกล่าวข้างต้น ในวงเงินความคุ้มครองไม่เกิน 60,000 บาท ระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี
สำหรับวงเงินที่เกิน ความคุ้มครองฯ ปตท. จะเป็นรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินนี้
ทั้งนี้ความคุ้มครองจะครอบคลุมเฉพาะรถยนต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์ NGV จากศูนย์ติดตั้งของ ปตท. และศูนย์ที่มีป้ายได้รับการรับรองมาตรฐานจาก ปตท. ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน นี้เป็นต้นไป
นายพานิช พงศ์พิโรดม อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. และ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ใน ครั้งนี้
จะทำให้นโยบายของรัฐบาลในการขยายการใช้ก๊าซเอ็นจีวีทดแทนการใช้น้ำมันประสบความสำเร็จ มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจะ ทำให้ประชาชนมีความมั่นใจในการนำรถยนต์เข้ารับการติดตั้งอุปกรณ์ NGV มากยิ่งขึ้น
และเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนต่อการใช้ NGV ทางกรมฯ ได้ร่วมกับ ปตท. จัดการทดสอบรถยนต์จำนวน 7 คัน เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของการใช้เชื้อเพลิง NGV ก๊าซหุงต้ม และน้ำมันเบนซิน โดยเชิญนัก วิชาการ ผู้แทนจากสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ สถาบันยานยนต์ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คุณธเนศร์ เสนีวงค์ ณ. อยุธยา และคุณพัฒนเดช อาสา สรรพกิจ ร่วมเป็นที่ปรึกษา ซึ่งได้ทดสอบการวิ่งใช้งานรถทั้งในเมือง นอกเมืองและบนทางด่วน ระยะทางรวม 5,200 กม. ผลสรุปค่าเชื้อเพลิงเฉลี่ยได้ว่า รถใช้ NGV ประมาณ 59 สตางค์ต่อกิโลเมตร รถใช้ก๊าซหุงต้ม (LPG) ประมาณ 91 สตางค์ต่อกิโลเมตร และแก๊สโซฮอล์ 2.24 บาทต่อกิโลเมตร ซึ่งจะเห็นได้ว่า การใช้ NGV จะช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้ประมาณ 74 % เมื่อเทียบกับน้ำมันเบนซิน และ 35%เมื่อเทียบกับก๊าซหุงต้ม และมีการปล่อยมลพิษ ก๊าซ ไฮโดรคาร์บอนและคาร์บอนมอนน็อกไซด์ น้อยที่สุด แต่รถใช้ NGV จะมีอัตราเร่งแซงและกำลังม้าที่รอบสูงต่ำกว่าก๊าซหุงต้มและเบนซินเล็กน้อย ซึ่งไม่ กระทบต่อการใช้งานปกติประจำวัน
เส้นทางทดสอบ
ระยะทางวิ่งทดสอบ(กม.) NGV (บาท/ กม.) LPG (บาท/ กม.) แก๊สโซฮอล์ (บาท/ กม.)
ในเมือง
1,025
0.81
1.28
3.17
นอกเมือง
2,360
0.48
0.70
1.58
ทางด่วน
1,816
0.49
0.75
1.96
ค่าเชื้อเพลิงเฉลี่ย 0.59
0.91
2.24
หมายเหตุ : ราคาเชื้อเพลิง NGV 8.50 บาท/ กก. LPG 9.35 บาท/ ลิตร แก๊สโซฮอล์ 26.84 บาท/ ลิตร
ดังนั้น จึงใคร่ขอเชิญชวนให้ประชาชนนำรถเข้าติดตั้งอุปกรณ์ NGV ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการให้บริการรับติดตั้งอุปกรณ์ NGV เพิ่มขึ้น
ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดกว่า 160 แห่ง และ ปตท. ยังคงให้การสนับสนุนเงินค่าอุปกรณ์และการติดตั้งฯ รวมเป็นเงิน 10,000 บาท สำหรับประชาชน ทั่วไป และหากติดตั้ง NGV ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะได้รับบัตรเติมก๊าซฟรี จำนวน 10 ครั้งเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ ปตท. ยังจะตรึงราคาก๊าซเอ็นจี วีไว้ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท ทุกสถานี แม้ขณะนี้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม ผู้สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูล (PTT NGV Call Center) โทรศัพท์หมายเลข 0-2217-7799
โทรศัพท์ 0-2537-3217
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจสำรวจ ผลิต และก๊าซธรรมชาติ
โทรสาร 0-2537-3211
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)