ไมนด์แชร์ (MindShare) และพัลส์ กรุ๊ป (Pulse Group) จัดทำการสำรวจ Online mPulse Survey เพื่อติดตามกระแสฟุตบอลโลก ฟีเวอร์ ในเอเชีย
ฟุตบอลโลกสู่โลกดิจิตอลในเอเชีย
นับตั้งแต่การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2002 การแผ่ขยายสื่อดิจิตอล รวมถึงอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วภูมิภาค และแฟนๆมีแนวโน้มที่จะใช้สื่อทั้งสองเพื่อติดตามการแข่งขัน มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามมีแนวโน้มที่จะเข้าชมเว็บไซต์เพื่อติดตามทีมโปรดของพวกเขา ทั้งนี้ เว็บไซต์ฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการจะมีผู้เข้าชมมากที่สุดในสิงคโปร์ (67%) มาเลเซีย (71%) ไทย (46%) และออสเตรเลีย (57%) ขณะที่แฟนฟุตบอลชาวจีนจะเข้าชมเว็บไซต์อื่นๆ (84%)
แฟนบอลชาวเอเชียจำนวนมากจนน่าแปลกใจนี้ กำลังเตรียมรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับฟุตบอลโลกทางโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใด ซึ่งคิดเป็น 32% ในจีน 14% ในสิงคโปร์และมาเลเซีย 10% ในออสเตรเลีย และ 7% ในประเทศไทย
นายเจมส์ แชดวิก ผู้อำนวยการบริษัทไมนด์แชร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "สิ่งเดียวที่แฟนบอลเอเชียคลั่งไคล้มากกว่าฟุตบอลโลกคือโทรศัพท์มือถือของพวกเขา ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เห็นว่ามีแฟนบอลจำนวนมากเริ่มติดตามข่าวสารทีมฟุตบอลที่พวกเขาชื่นชอบแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน ซึ่งถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราตระหนักได้ว่า เราต้องคิดให้ไกลนอกเหนือไปจากการตลาดและสื่อแบบเดิมๆ"
คุณไม่มีวันเดินเดียวดายในเอเชีย
แม้ว่าทีมชาติของพวกเขาอาจไม่ได้ผ่านเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในปีนี้ แต่แฟนฟุตบอลทั่วเอเชียก็มีทีมโปรดในดวงใจที่พวกเขาจะติดตามเชียร์ โดยชาวจีนจำนวนมากเชียร์ทีมเจ้าภาพเยอรมนี ชาวสิงคโปร์ชื่นชอบทีมอังกฤษ ขณะที่ชาวไทยจำนวนไม่น้อยเลือกเชียร์ทีมรองบ่อนอย่างออสเตรเลีย ส่วนแฟนบอลชาวออสเตรเลียนั้น แน่นอนว่าพวกเขาต้องสนับสนุนทีมชาติของตัวเองที่สามารถผ่านเข้าถึงรอบสุดท้ายในการแข่งขันฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี โดยแฟนบอลชาวออสเตรเลีย 80% จะเชียร์ทัพนักเตะของตน
สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
เจมี่ ลอร์ด ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัทไมนด์แชร์
โทร: +852-2280-3261
แฟกซ์: +852-2280-3270
อีเมล์: [email protected]
คิม วอง ซีเอ็มโอ พัลส์ กรุ๊ป
โทร: +60-3-8318-3573
แฟกซ์: +60-3-8318-9573
อีเมล์: [email protected]
ที่มา: ไมนด์แชร์ และ พัลส์ กรุ๊ป
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit