ซีลวาเนีย สร้างกระแสตรุษจีน ส่งบรรจุภัณฑ์มงคล "มั่ง มี ศรี สุข" สร้างปรากฏการณ์ตลาดไฟ

11 Jan 2006

กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--ซีลวาเนีย

ซีลวาเนีย เผยโฉมแคมเปญใหญ่ต้นปี 49 "มั่ง มี ศรี สุข" เพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ชูจุดขาย มอบเป็นของขวัญ ของกำนัล โดยนำหลอดไฟรุ่นใหม่ มินิ ทวิสเตอร์ บรรจุลง Package พิเศษ ช่วยเพิ่มพลังธาตุไฟ ให้ชีวิตคนไทยสว่างไสวเปี่ยมมงคล

ต้องยกให้เป็น ปรากฏการณ์ ของนวัตกรรมการตลาด สำหรับผลิตภัณฑ์หลอดไฟฟ้า และอุปกรณ์ส่องสว่างที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ทั้งนี้ทางบริษัท ซีลวาเนีย(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ชำนาญการระบบแสงสว่าง และผู้จัดจำหน่ายหลอดไฟฟ้า/อุปกรณ์ส่องสว่าง ซีลวาเนีย ได้เปิดตัว แคมเปญ ใหม่ "มั่ง มี ศรี สุข" เพื่อรับขวัญปีจอ โดยรายละเอียดเรื่องนี้ คุณปูมเทพ มาลากุล ณ อยุธยา ผู้จัดการทั่วไป กล่าวว่า

"ตลอดเวลาที่ผ่านมา นอกจากบริษัท ซีลวาเนีย(ประเทศไทย)จำกัด จะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์หลอดไฟฟ้า และอุปกรณ์ส่องสว่างภายใต้แบรนด์ ซีลวาเนีย ให้มีประสิทธิภาพสูสุด เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน และความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างภาพพจน์ความเป็นผู้ชำนาญการระบบแสงสว่าง และความมีเสน่ห์ของตราสินค้าให้เกิดขึ้น โดยการปรับปรุงรูปแบบของสินค้า และบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ให้ดูทันสมัย มีเรื่องราว และสร้างเทศกาลในการขายให้มากขึ้น โดยล่าสุด ซีลวาเนีย ได้ออกแคมเปญใหม่ เพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีนปี 2549 ใช้ชื่อว่า มั่ง มี ศรี สุข ซึ่งถือเป็นคำอวยพรยอดนิยมของคนไทยเชื้อสายจีนในช่วงเวลาแห่งความเป็นสาระมงคลนี้ ทั้งนี้ มั่ง มี ศรี สุข จะเป็นการผสมผสานระหว่าง ความเชื่อในศาสตร์ของฮวงจุ้ย ให้เข้ากับความเป็นเหตุเป็นผลในเชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อนำมาซึ่งการพัฒนาปรับปรุงบ้านเรือนที่อยู่อาศัย และสถานที่ทำมาหากิน ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลโดยตรงต่อการดำรงชีวิตของผู้บริโภค และเป็นที่มาของความสุขสบาย ความเจริญรุ่งเรือง ตลอดจนความก้าวหน้าในชีวิต"

สำหรับแคมเปญ "มั่ง มี ศรี สุข" นี้ ถือเป็นการคิดนอกกรอบเพื่อสร้างความแตกต่างพร้อมทั้งเปิดโอกาสในการขายใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกับซีลวาเนีย ซึ่งโดยปกติแล้วหลอดไฟจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้มีความหวือหวาทางด้านของเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องเท่าไรนัก ถ้าติดตามดูถึงกระบวนการผลิตแล้วก็จะพบว่า หลอดไฟทุกยี่ห้อต่างใช้ตำราการผลิตที่อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าจุดขายของสินค้าประเภทนี้ที่ผ่านมา จะวนเวียนอยู่ที่เรื่องของความคงทน และอายุการใช้งานเป็นเวลาหลายทศวรรษ และด้วยความที่หลอดไฟฟ้าถือเป็นสินค้ากึ่งบริโภค ที่ผู้บริโภคไม่ได้สนใจที่จะซื้อเป็นจำนวนมากในแต่ละครั้งของการซื้อ และจะซื้อก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นที่ต้องใช้ จะซื้อก็ต่อเมื่อเวลาที่หลอดไฟฟ้าที่ใช้อยู่ขาดเท่านั้น ความพยายามในการสร้างพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในช่วงเทศกาล จึงถือเป็นปรากฏการณ์ ที่ทาง บริษัท ซีลวาเนีย(ประเทศไทย)จำกัด จะต้องใช้ทั้งความพิถีพิถันในการวางแผนผลิตภัณฑ์ ความใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดของการจัดทำ และกลยุทธ์การสื่อสารที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้บริโภคหันมาซื้อหลอดไฟ ซีลวาเนีย ชุด "มั่ง มี ศรี สุข" นี้ไปเป็นของขวัญของมงคล เพื่อมอบให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน หรือเมื่อมีการมอบของขวัญในโอกาสพิเศษอื่นๆ เพื่อนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล แก่บุคคลอันเป็นที่เคารพรัก ญาติสนิท และมิตรที่นับถือ

สำหรับที่มาของ แคมเปญ "มั่ง มี ศรี สุข" นี้เริ่มต้นขึ้นมาจากการมองหาพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค ที่สามารถนำมาพัฒนาเป็นโอกาสใหม่ๆ ในการขายหลอดไฟให้เกิดขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้ว สิ่งที่คนไทยเชื้อสายจีนมักจะนิยมทำกันในช่วงตรุษจีนจะมีอยู่ 2 อย่างด้วยกันคือ การปรับปรุงทำความสะอาดบ้านเรือนที่อยู่อาศัย อะไรเสียก็ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนใหม่ และการนำของขวัญของมงคลไปมอบให้แก่กันในช่วงเวลาพิเศษนี้ โดยมีเหตุผลเพื่อการเตรียมตัวต้อนรับสิ่งใหม่ๆ ดีๆ ที่กำลังจะก้าวเข้ามาในชีวิต และเนื่องจากแสงสว่างเองก็เป็นเสมือนตัวแทนของไฟ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ธาตุแห่งพลังชีวิตอยู่แล้ว การให้เหตุผลที่ดีที่สุดเพื่อชักจูงให้ผู้บริโภคเกิดพฤติกรรมการซื้อหลอดไฟในช่วงเทศกาลตรุษจีน จึงถูกสรุปออกมาในลักษณะของการนำเสนอความเชื่อในเรื่องของการจัดปรับปรุงแสงสว่างของที่อยู่อาศัยว่า หากมีการนำ หลอดไฟซีลวาเนีย ชุด "มั่ง มี ศรี สุข" นี้ ไปติดตั้งไว้ในที่เหมาะสมก็จะนำมาซึ่ง ความมั่งคั่งร่ำรวย อำนาจบารมี สง่าราศรี และสุขภาพดีแก่ผู้ใช้ โดยทางซีลวาเนียเองก็ได้ให้คำแนะนำในการติดตั้งแสงสว่างที่เหมาะสมกับการใช้งานในห้องหลัก 4 ห้อง ซึ่งถือเป็นห้องที่มีความสำคัญในการอยู่อาศัยที่ทุกบ้านต้องมีดังนี้

  • ห้องอาหาร ควรใช้โคมไฟรูปทรงกลมเพื่อแทนสัญลักษณ์ของสวรรค์ และถ้าเพิ่ม ฮก ลก ซิ่ว ในห้องนี้ จะยิ่งรวยนาน
  • ห้องทำงาน ควรวางโคมไฟไว้ด้านซ้ายของโต๊ะทำงาน และไม่ควรนั่งบังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะจะทำให้อำนาจการป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ ลดลง
  • ห้องนอน ควรติดตั้งในโคมไฟ 2 ดวง แยกซ้าย-ขวา พร้อมทั้งติดรูปพระอาทิตย์ บนผนังเหนือหัวนอน เพราะจะทำให้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสว่างสดใสในชีวิต
  • ห้องน้ำ หรือห้องเก็บของ เป็นที่อันทึบ จึงควรเปิดไฟทิ้งไว้อย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง เป็นการใช้ความสว่างช่วยขับไล่พลังเหยิน เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในบ้าน

และเพื่อเป็นการให้เหตุผลกับการที่ต้องซื้อหลอดไฟถึง 4 หลอด กับผู้บริโภคมากขึ้น นอกจากหลอดไฟซีลวาเนียชุด "มั่ง มี ศรี สุข" จะถูกจัดทำขึ้นเป็นพิเศษด้วยประณีต พิถีพิถันแล้ว การออกแบบบรรจุภัณฑ์ยังคำนึงถึง การออกแบบให้ตั้งอยู่บนรากฐานของ 8 องค์ประกอบ มงคลคือ

1. สีหลักที่ใช้ในการออกแบบคือสีแดง และสีทอง ซึ่งถือเป็นสีมงคลของคนจีน

2. ใช้ถ้อยคำอวยพร "มั่ง มี ศรี สุข" ทั้งภาษาไทย และภาษาจีน เป็นชื่อบรรจุภัณฑ์มงคล

3. ข้อความมงคลจากเพื่อนแท้ เพื่อความมั่นคั่งร่ำรวย อำนาจบารมี สง่าราศี และสุขภาพที่ดี ของผู้ใช้ และผู้ได้รับ

4. รูปฮก ลก ซิ่ว และไฉ่ซิงเอี๊ย(เทพเจ้าแห่งโชคลาภ)บนจุดสูงสุดของกล่อง

5. รูปค้างคาวเหินหาว(เปียนฝู)สัญลักษณ์แห่งความสุขสวัสดี จำนวน 8 ตัว/หลอด

6. รูปเจ้าแม่กวนอิม ปางดวงจันทร์ ประทานพร เพื่อความสว่างที่ร่มเย็นในชีวิต

7. สัญสักษณ์เหรียญทองคำ 4 เหรียญเพื่อความร่ำรวยตลอดทั้งปี

8. จำนวนวัตต์รวม(11 วัตต์ x 4 หลอด) 44 วัตต์ ที่ราคาขายปลีก 484 บาท/กล่อง

และเพื่อให้สมกับการเป็น ปรากฏการณ์ สำหรับผลิตภัณฑ์แสงสว่าง ทางซีลวาเนีย ยังได้นำหลอดไฟทรงเกลียวรุ่นใหม่ล่าสุดชื่อ มินิ ทวิสเตอร์ ซึ่งก็เป็นนวัตกรรมของหลอดประหยัดไฟที่มีขนาดเล็กที่สุดในปัจจุบัน มาเพิ่มความขลังให้กับบรรจุภัณฑ์ "มั่ง มี ศรี สุข" นี้อีกด้วยสำหรับมินิ ทวิสเตอร์ เป็นหลอดประหยัดไฟทรงเกลียวที่ให้ความสว่างกว่าหลอดตะเกียบแบบเดิมๆ ถึง 10% และกินไฟน้อยกว่าหลอดไส้ 80% ทั้งนี้จากการพัฒนาแท่งแก้วให้มีลักษณะผอมเพรียวขึ้น ตัวหลอดไฟจึงสามารถขดเป็นรูปทรงเกลียวสวยงาม ทำให้ตัวหลอดมีขนาดสั้นลง สามารถใส่ได้พอดีแม้กับโคมไฟขนาดเล็ก นอกจากนี้แท่งหลอดทรงเกลียวยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการกระจายแสงที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รวมทั้งมีความปลอดภัยในการใช้งานเนื่องจากแท่งหลอดที่ไม่โผล่พ้นโคม แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 8,000 ชั่วโมง

พร้อมกันนี้ทางบริษัทฯ ยังได้ถือโอกาสเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด "มั่ง มี ศรี สุข" นี้ไปพร้อมกันด้วย โดยเนื้อหาของโฆษณาทางโทรทัศน์ชุดนี้ต้องการสื่อให้เห็นว่า ในทุกช่วงจังหวะชีวิตของคนเรานั้น มักจะมีความชั่วร้ายพยายามแฝงกายอยู่เสมอ แต่แสงสว่างของหลอดไฟ ซีลวาเนีย ชุด "มั่ง มี ศรี สุข" จะช่วยปัดเป่า ความชั่วร้ายเหล่านั้นออกไป ให้คงเหลือไว้แต่ความเป็นมงคลแก่ชีวิต และเนื่องจาก "มั่ง มี ศรี สุข" นี้ถือเป็น Brand Campaing ดังนั้นการสื่อสารรับผู้บริโภคจึงมีสื่อ และกิจกรรมสนับสนุนอื่นๆ ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นสิ่งสื่อพิมพ์ วัสดุโฆษณา รวมทั้ง การจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ต่างๆ เช่น การออกบูธประชาสัมพันธ์ที่ห้างสรรพสินค้า Hyper Stores และ DIY & Hardware Stores ในสาขาสำคัญหลักๆ รวมงบในการทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมการตลาดครั้งนี้ กว่า 15 ล้านบาท ส่วนเรื่องการตั้งเป้าการขาย และการคาดหวังถึงผลที่ได้รับนั้น ทางบริษัทฯ ไม่ได้หวังว่าหลอดไฟซีลวาเนีย ชุด "มั่ง มี ศรี สุข" นี้ จะสามารถสร้างยอดขายให้อย่างถล่มทลาย เนื่องจากปีนี้เป็นปีแรกที่ผู้บริโภคจะได้สัมผัสกับมิติใหม่ของการใช้หลอดไฟ แต่สิ่งที่จะได้รับจากการทำแคมเปญนี้ จะเป็นเรื่องของการสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับซีลวาเนีย ในฐานะทีเป็นผู้นำในการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ในช่วงเทศกาลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนไทย รวมทั้งการให้ผู้คนรู้จักใช้แสงสว่างให้เหมาะสม เพื่อนำมาซึ่งประสิทธิภาพสูงสุด และก่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง โดยบริษัทฯ หวังภาพรวมของ แบรนด์ ซีลวาเนีย ว่าจะเป็นสินค้ายี่ห้อแรกที่ผู้บริโภคนึกถึงเมื่อถึงเวลาที่ต้องซื้อหลอดไฟในครั้งต่อไป ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์แสงสว่างของซีลวาเนีย ถือได้ว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในขั้นที่เรียกว่าเกินความพอใจ ซึ่งส่งผลให้ยอดขายในส่วนของ Retail เพิ่มขึ้นถึง 20% ในปีที่ผ่านมา โดยในปัจจุบันซีลวาเนียจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดหลอดไฟอยู่ที่ 15% ในขณะที่โคมไฟมีอยู่ 20%

ทั้งนี้ คุณปูมเทพ ยังกล่าวถึงอนาคตของซีลวาเนียในวันหน้าว่า จะเน้นในเรื่องของ Customer Centered มากขึ้น โดยจะทำการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าว่าเขาจะซื้ออะไร บ่อยแค่ไหน วิธีการในการตัดสินใจเลือกซื้อ ชอบซื้อที่ไหน และข้อมูลที่ลูกค้าต้องการทราบ สำหรับการพัฒนาบริการหลังการขาย ให้นำมาสู่การปรับปรุงที่มีประสิทธิภาพในการบริการลูกค้าให้ตรงจุด รวมทั้งการพัฒนาและผลิตสินค้าใหม่ให้ตรงกับความต้องการกับลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯ จะยึดกลยุทธการตลาดที่เน้นความสำญกับมุมของลูกค้า(Customer View Point) มากขึ้น เพื่อขยายจาก 4Ps มาเป็น 4Cs ดังนี้

Product

มาเป็น Customer Value

Price

มาเป็น Cost to Customer

Place

มาเป็น Convencience

Promotion มาเป็น Communication

ในส่วนของ Product นั้น ก็ต้องรักษาสินค้าของเราให้มี Better Quality หรือคุณภาพที่ดีขึ้น เช่น อายุการใช้งานที่นานกว่า ขนาดกะทัดรัดกว่า ประสิทธิภาพดีกว่า และเน้นการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดูสะดุดตา และให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้ามากขึ้นชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าของ ซีลวาเนีย มี Value มากกว่ายี่ห้ออื่น

ในเรื่องของ Price เราเน้นในการเสนอราคาขายที่ Competitive และ Reasonable เป็นหลัก โดยเราจะไม่ใช้กลักการเดิมๆ คือ Cost-based pricing แต่จะมาใช้ Value-based pricing แทน โดยคำนึงถึงลูกค้าว่า ราคาไหนเป็นราคาที่ลูกค้ารู้สึกว่าสมเหตุสมผล และสามารถยอมรับได้ต่อการซื้อสินค้านั้นๆ

สำหรับเรื่อง Place หรือการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคนั้น จะเห็นว่า ซีลวาเนีย เน้นการกระจายสินค้าไปสู่ Retail outlets มากที่สุดในระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา เพราะเราต้องการให้ลูกค้าสามารถหาซื้อสินค้าได้สะดวกมากขึ้น ในขณะที่คู่แข่งขันอาจจะยังเน้นการกระจายสินค้าในปริมาณมากๆ ไปสู่ Wholesaler หรือผู้ค้าส่งมากกว่า

ส่วนเรื่อง Promotion ทาง ซีลวาเนีย ก็พยายามที่จะสื่อสารกับผู้บริโภคมากขึ้น นอกจากการทำโฆษณา ในรูปแบบของสื่อสารต่างๆ แล้ว เรายังเน้นการทำการส่งเสริมการขาย และการประชาสัมพันธ์มากขึ้น เพื่อให้เป็นการสื่อสารเชิงบูรณาการ(Integrated Marketing Communication) อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ทาง ซีลวาเนีย กำลังจัดตั้ง Call Center และปรับปรุง Web-site เพื่อให้บริการ และข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า รวมทั้งบริการหลังการขาย การรับประกันคุณภาพ และการเคลมสินค้า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคอีกด้วย

สำหรับการจัดงานเปิดตัว แคมเปญชุด "มั่ง มี ศรี สุข" อย่างเป็นทางการ บริษัทได้จัดงานแสดงวิวัฒนาการของหลอดไฟตั้งแต่ อดีต เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2473 จนมาถึงปัจจุบันปี พ.ศ.2549 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่นำเสนอประวัติของหลอดไฟได้ครบถ้วนขนาดนี้ และยังมีการตกแต่งบริเวณให้เข้าเทศกาลตรุษจีน มีการแสดงเชิดสิงโต และละครแบบ Sitcom เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับ ศาสตร์แห่งความเชื่อในการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เกิดสิริมงคลสูงสุด โดยมีนักแสดงชื่อดังมาร่วมแสดงละครอย่างคับคั่ง อาทิ "บุ๋ม-ปนัดดา", "เชอรี่ ผุงประเสริฐ", "กิ๊ก-มยุริญ ผ่องผุดพันธ์" และ "กิ๊ฟ-วรรฒนะ" รวมถึงอาจารย์วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ ก็ยังมาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน และ ศาสตร์แห่งความเชื่อเกี่ยวกับเรื่อง ของการตกแต่งบ้านให้เกิดสิริมงคล อันมีผลต่อการดำเนินชีวิตให้รุ่งเรืองด้วย

หลอดไฟซีลวาเนียชุด "มั่ง มี ศรี สุข" นี้ถือเป็นบรรจุภัณฑ์มงคล ที่ถูกจัดทำขึ้นอย่างพิถีพิถัน ตามหลักของการออกแบบเพื่อความเป็นมงคล โดย 1 แพ็คจะบรรจุหลอดประหยัดไฟ มินิทวิสเตอร์ ขนาด 11 วัตต์(ให้ความสว่างเท่ากับ หลอดไส้ขนาด 60 วัตต์) จำนวน 4 หลอด ในราคาขาย 848 บาท (เฉลี่ยหลอดละ 121 บาท ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าหลอดเดี่ยวเมื่อวางจำหน่ายในท้องตลาด) มีให้เลือกทั้งสีเดย์ไลท์ (แสงขาว) สำหรับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความกระฉับกระเฉง และสีวอร์มไวท์(แสงเหลือง) เมื่อต้องการสร้างบรรยากาศอบอุ่นนุ่มนวล โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม นี้เป็นต้นไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

จีรนันท์ ลิมประภาส

01-8508837

ศรีนวล ทรัพย์ประเสริฐ 09-1436385

สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--