กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--ไมนด์ ทัช
ทำสัญญา “โค๊ดแชร์” กับการบินไทย./p>
สายการบินกัลฟ์แอร์ประกาศแผนการการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ทั้งในด้านเครือข่าย เส้นทางบิน ฝูงการบิน และการจัดสรรทรัพยากร ประเดิมต้นปีด้วยการทำสัญญาโค๊ดแชร์กับการบินไทย พร้อมเตรียมปรับโฉมชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งของฝูงบินแอร์บัส เอ340 ที่บินระหว่างกรุงเทพฯ-ฮ่องกง และบาห์เรน
มร. จอห์น อีวานส์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย กัมพูชา เวียดนาม และเมียนมาร์ เปิดเผยว่า สายการบินกัลฟ์แอร์ได้เซ็นสัญญากับการบินไทยเพื่อร่วมดำเนินการบินร่วมเที่ยวบินด้วยกัน (code share) ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารจากตะวันออกกลาง และประเทศไทย ในการเพิ่มทางในการเดินทางสู่จุดหมายปลายทางซึ่งเป็นที่นิยมทั้งในประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน โอมาน และบาห์เรนในตะวันออกกลาง โดยสายการบินกัลฟ์แอร์จะร่วมแชร์โค๊ดกับการบินไทยในเส้นทางการบินระหว่างกรุงเทพฯ-มัสกัต กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-กรุงเทพฯ และกรุงเทพฯ-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ และการบินไทยจะแชร์โค๊ดกับกัลฟ์แอร์ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-บาห์เรน และกรุงเทพฯ-มัสกัต
มร. อีวานส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การทำสัญญาร่วมกับการบินไทยในครั้งนี้นับเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เรามีแผนที่จะขยายสัญญาครอบคลุมเส้นทางการบินอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคให้มากขึ้นเพื่อเป็นให้การบริการแก่ลูกค้าของเรา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ในการขยายตัวของกัลฟ์แอร์ ที่เน้นการสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่าย และขยายการดำเนินการโดยความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีต่อกัน”
ด้านนายวสิงห์ กิตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการพาณิชย์ บมจ. การบินไทย ได้ให้ความเห็นถึงการร่วมเป็นพันธมิตรกับกัลฟ์แอร์ในครั้งนี้ว่า การทำสัญญาโค๊ดแชร์ร่วมกันในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการเพิ่มจำนวนผู้โดยสารซึ่งโดยสารจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปยัง ตะวันออกกลาง หรือจากตะวันออกกลาง มาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทางการบินไทยมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ทำสัญญาร่วมเที่ยวบิน กับกัลฟ์แอร์ และมั่นใจว่าการร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งสำหรับทั้งสองสายการบิน
นอกจากนี้ ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ ได้อนุมัติวงเงินกู้แก่สายการบินกัลฟ์แอร์จำนวนเงิน 75 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3000 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการลงทุน และเพื่อการขยายตัวทางธุรกิจตลอดปีพ.ศ. 2549 ซึ่งส่วนหนึ่งของสินเชื่อจะนำไปใช้ในการติดตั้งที่นั่งใหม่ในเครื่องบินชั้นหนึ่ง และชั้นธุรกิจ อีกทั้งจะนำไปใช้เพื่อการตกแต่งภายในใหม่ของเครื่องบินรุ่น Airbus A340 ที่ใช้บินระหว่างประเทศไทย ฮ่องกง และบาห์เรน รวมไปถึงการติดตั้งระบบสันทนาการต่างๆ ภายในเครื่องบินใหม่
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและ ผู้บริหารสูงสุดสายการบินกัลฟ์แอร์ เปิดเผยว่าวงเงินสินเชื่อ 75 ล้านเหรียญสหรัฐจะถูกนำไปใช้ในการปรับโครงสร้างเพื่อช่วยรักษาอัตราการเติบโตซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ระยะ 10 ปี ต่อเนื่องจากแผนปรับโครงสร้างฟอลคอน 3 ปีซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง
มร. โฮแกน กล่าวเพิ่มเติมว่า “การถอนตัวของ อาบู ดาบี จากการเป็นผู้ถือหุ้นนั้น ทำให้เราต้องมาคิดกลยุทธ์ที่จะจัดการกับศูนย์กลางการบินสองแห่งขึ้นใหม่ ซึ่งส่งผลให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเครือข่าย เส้นทาง ฝูงเครื่องบินของสายการบิน และการจัดสรรทรัพยากร ซึ่งหมายความว่าเรายังคงต้องลงทุนในกลุ่มธุรกิจหลัก และอาจจะต้องนำวิธีการควบรวมธุรกิจและลดต้นทุนมาใช้ อย่างไรก็ดีในทางปฏิบัตินั้นเรามีความมั่นใจว่าเราสามารถพัฒนาบนรากฐานความสำเร็จที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ ทั้งนี้จะต้องมีกลยุทธ์ที่มีความชัดเจน และมีพัฒนาการที่ดี ผสานกับการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญด้วย”
“แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งในด้านราคาน้ำมันและการแข่งขัน แต่เรามั่นใจว่าธุรกิจของเราจะเติบโตได้ตามเป้า และการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี” มร. โฮแกนกล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
เวอร์โก 68 พับบลิค รีเลชั่นส์ - ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
แฮรี เจมส์ โทร. (+852) 92633343
หรือ บริษัท ไมนด์ ทัช จำกัด – ตัวแทนที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ในประเทศไทย
สาวิตรี ปึงเจริญกุล 01 816 4598 หรือ ชัชสรัล (ป้อม) เทียมวัน 09 443 6886--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit