กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ฯรับอีกสองบริษัทเข้าซื้อขาย โดย บมจ. ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องเล่นอิเลคทรอนิคส์ส่งออก ซื้อขายในหมวดบันเทิง และบมจ.ไทยยูนีคคอยล์ เซ็นเตอร์ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เข้าซื้อขายในหมวดวัสดุก่อสร้าง
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับหลักทรัพย์ของบริษัท ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อขายในกลุ่มบริการ หมวดบันเทิงและสันทนาการ ชื่อย่อ “MME”
และบริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดวัสดุก่อสร้าง ชื่อย่อ “TUCC” เริ่มซื้อขายพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2548 เป็นต้นไป
“ทั้ง TUCC และ MME ต่างก็เห็นประโยชน์ของการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่นเดียวกันกับบริษัทอื่นๆ ที่กำลังทยอยเข้ามาจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ตลอดเดือนนี้ เนื่องจากไม่ต้องการที่จะเสียโอกาสทางธุรกิจในการรับรับส่วนลดภาษีนิติบุคคลอีกร้อยละ 5 เป็นเวลาติดต่อกัน 5 ปี”
MME ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องเล่นปาเป้าอิเลคทรอนิค และโปรแกรมต่าง ๆ ของเครื่องเล่นปาเป้า ภายใต้ชื่อตราสินค้า “Medalist” ซึ่งเป็นเครื่องเล่นที่กำลังได้รับความนิยมตามสถานบันเทิงทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึงร้อยละ 95 ของจำนวนเครื่องทั้งหมด
MME มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วรวม 240 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิมจำนวน 200 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 40 ล้านหุ้น ราคาที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในระหว่างวันที่ 28 - 29 พฤศจิกายน 2548 ได้มีการเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 60 ล้านหุ้น ซึ่งประกอบด้วยหุ้นสามัญใหม่ 40 ล้านหุ้น และหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม 20 ล้านบาท ให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 20 ล้านหุ้น นักลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้มีอุปการคุณจำนวน 40 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 8 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ณ ระดับราคาไอพีโอ อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) อยู่ที่
14.11 เท่า เปรียบเทียบบริษัทในหมวดเดียวกันซึ่งอยู่ที่ระดับ 20 เท่า โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในอัตราร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองตามกกฎหมาย
ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอ MME ผู้ถือหุ้นใหญ่โดย Medalist Marketing Corporation ในอัตราร้อยละ 26.25
สำหรับ TUCC มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วรวม 253 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 168ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 85 ล้านหุ้น ราคาที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งในระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2548 ที่ผ่านมา บริษัทได้จำหน่ายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) จำนวน 85 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.70 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ อินเทลวิชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ทั้งนี้ TUCC ณ ระดับราคาไอพีโออัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) อยู่ที่ 5.51 เท่า เปรียบเทียบบริษัทในหมวดเดียวกันซึ่งอยู่ที่ระดับ 8.38 เท่า บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้จะจ่ายเงินปันผลได้หลังจากไม่มีการขาดทุนสะสมแล้ว
TUCC ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสแตนเลสในรูปวัตถุดิบที่ยังไม่ได้แปรรูปและแปรรูปแล้ว ทั้งในรูปม้วนสแตนเลสและท่อสแตนเลส เป็นต้น พร้อมทั้งเปิดศูนย์ให้บริการโลหะเพื่อบริการตัดแผ่นและม้วนสแตนเลสและสังกะสี นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ผลิตออกมาภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง และมีกลุ่มลูกค้าหลายอุตสาหกรรม ทั้งในและนอกประเทศอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบมจ.ไทยยูนีคอยล์เซ็นเตอร์ในปัจจุบัน ถือหุ้นโดยนายยงยุทธ งามไกวัล ในสัดส่วนร้อยละ 64.41 ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วหลังไอพีโอ
สำหรับผู้สนใจข้อมูลของบมจ.ไมด้า-เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเมนท์ และบมจ. ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์
สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.mmeplc.co.th และ www.tuccplc.com และเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th และเว็บไซต์ของบริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ที่ www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 – 2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 – 2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 – 2049
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229 – 2797--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit