กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าของประเทศไทย พร้อมบริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด (บริษัทย่อย) ผู้ดำเนินกิจการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ สรุปรายได้รวมงวด 9 เดือน ปี 48 กว่า 1,075.59 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นกว่า 7.29 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2547 ด้วยกำไรสุทธิ 128.61 ล้านบาท เผยเป็นผลจากการขยายตัวของรายได้ในส่วนของงานบริการพลังงานและการรับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์เอกรัฐโซล่าร์ พร้อมย้ำปี 48 โตตามเป้าแน่ 30 เปอร์เซ็นต์
นายเกียรติพงศ์ น้อยใจบุญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาส 3 ประจำปี 2548 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 429.47 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.89 เปอร์เซ็นต์ จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 383.82 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 60.22ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ยอดรายได้รวมของบริษัทฯ งวด 9 เดือน (ม.ค. – ก.ย.) ปี 48 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1,075.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนกว่า 7.29 เปอร์เซ็นต์ ด้วยกำไรสุทธิ 128.61 ล้านบาท
“จากผลประกอบการที่ผ่านมา ถือว่าบริษัทฯ สามารถขยายตัวได้ตามเป้าที่วางไว้ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และความตื่นตัวในการบริหารจัดการพลังงานในหน่วยงานและภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งล้วนส่งผลดีต่อธุรกิจและรายได้รวมของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ ที่เป็นโครงการต่อเนื่อง อาทิ งานบริการรับจ้างเหมาโครงการสถานีไฟฟ้าย่อย และงานธุรกิจพลังงานในโครงการ Solar Home ของ กฟภ.และกระทรวงพลังงาน เป็นต้น โดยถือเป็นการรับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์เป็นงวดแรก” นายเกียรติพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ จากผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปี 2548 ธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าเอกรัฐ ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลักที่ครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ทำรายได้สูงสุดถึง 335.48 ล้านบาท ธุรกิจงานบริการทำรายได้ 46.02 ล้านบาท ธุรกิจงานพลังงานทำรายได้ 34.90 ล้านบาท และธุรกิจผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์เอกรัฐโซล่าร์ 7.26 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนของความคืบหน้าในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีบริษัท ฟาร์อีสท์ แคปปิตอลแอ็ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยบริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 182 ล้านหุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประมาณไตรมาส 1 ปี 2549
“บริษัทฯ มีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าผลประกอบการปี 2548 จะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า ธุรกิจผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ และธุรกิจในการบริการเชิงพลังงานครบวงจรของบริษัทฯ อาทิ การให้บริการซ่อม บำรุง ติดตั้ง และงานที่ปรึกษาด้านระบบบริหารจัดการพลังงาน ทั้งนี้เป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อีกทั้งความตื่นตัวในการใช้ทรัพยากรพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบัน ประกอบกับล่าสุดบริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อหม้อแปลงไฟฟ้าและการทำบริการสัญญาติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าระบบกำลังให้กับลูกค้าภาคเอกชนรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้ภาพรวมรายได้ในปี 2548 เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ไม่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์” นายเกียรติพงษ์ กล่าว
อนึ่ง บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยกำลังการผลิต 3,000 เมกะโวลต์แอมแปร์ต่อปี พร้อมด้วยธุรกิจต่อยอดในรูปแบบการบริการในเชิงพลังงานครบวงจร อาทิ งานซ่อมบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าทุกระบบ มอเตอร์ไฟฟ้าอุตสาหกรรม และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า งานออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรมทั้งระบบ Medium และ Low Voltage งานที่ปรึกษาด้านระบบบริหารจัดการทั้งระบบบริหารคุณภาพ การจัดการสิ่งแวดล้อม การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เป็นต้น พร้อมด้วย บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ผู้ดำเนินกิจการประกอบแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ทั้งชนิดผลึกเดี่ยวซิลิคอนและชนิดผลึกโพลีซิลิคอน พร้อมด้วยโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์แห่งแรกในประเทศไทยและภูมิภาค ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2550
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
พรพรรณ ฉวีวรรณ
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)
โทร 0-2662-2266
www.124comm.com--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit