กระทรวงพาณิชย์จัดงานใหญ่ประจำปี “ทศวรรษแห่งความแข็งแกร่งของสถาบันการค้าไทย” แจกรางวัลสมาคมการค้าดีเด่นครั้งแรก 9 ก.ย.นี้

31 Aug 2005

กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาใหญ่ “ทศวรรษแห่งความแข็งแกร่งของสถาบันการค้าไทย” พร้อมจัดพิธีมอบรางวัลสมาคมการค้าดีเด่นเป็นครั้งแรก 9 กันยายนนี้ ที่อิมแพ็คคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เมืองทองธานี รมช.พาณิชย์เผย เป็นการรวมงานใหญ่ 5 งาน มาไว้ในงานเดียวกัน หวังกระตุ้นให้สมาคมการค้ารวมตัวเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจไทย

นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จะจัดสัมมนาใหญ่ประจำปีในหัวข้อ “ทศวรรษแห่งความแข็งแกร่งของสถาบันการค้าไทย” ในวันศุกร์ที่ 9 กันยายน 2548 ที่อิมแพ็คคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เมืองทองธานี ซึ่งงานนี้ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะเป็นการรวม 5 กิจกรรมใหญ่ๆ มาไว้ในงานเดียวกัน คือ 1.การให้แนวคิดและนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมทั้งให้แนวทางการดำเนินงานกับสถาบันการค้าเพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาล 2.การมอบรางวัลสมาคมการค้าดีเด่น ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก 3.การลงนามของกลุ่มสมาคมการค้าเพื่อจัดตั้งเป็นเครือข่ายธุรกิจ (Cluster) 4.การบรรยายให้ความรู้ในเรื่องที่จะช่วยพัฒนาธุรกิจการค้า และ 5.นิทรรศการด้านการส่งเสริมสถาบันการค้าของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สำหรับนโยบายของรัฐบาลนั้น ได้เรียนเชิญ ฯพณฯนายกรัฐมนตรีมาแสดงปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “บทบาทสถาบันการค้าในยุคเศรษฐกิจใหม่และทิศทางนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมพัฒนาสถาบันการค้า” ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ที่สุดของงาน ส่วนการพิจารณามอบรางวัลสำหรับสมาคมการค้าดีเด่น ก็เพื่อเป็นการส่งเสริมให้มีการพัฒนาสมาคมการค้าและการบริหารจัดการของสมาคมการค้าที่เป็นมาตรฐานสากล อันจะเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับสมาชิกทั้งหมดต่อไป

“การจัดงานครั้งนี้ต้องการมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบธุรกิจการค้าเกิดความตระหนักและตื่นตัว โดยเฉพาะเรื่องของธรรมาภิบาลหรือการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะในโลกธุรกิจการค้าทุกวันนี้ ต้องการเห็นความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค ผู้ถือหุ้น หรือกับพนักงาน” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว

นางสาวอรจิต สิงคาลวณิช อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แม้ว่าการจัดประกวดสมาคมการค้าดีเด่นนี้ เพิ่งจะจัดเป็นครั้งแรก แต่ก็มีผู้เข้าร่วมประกวดถึง 32 สมาคม โดยได้ใช้เกณฑ์ในการประเมินตามหลัก Balanced Score Card ซึ่งจะประเมินสมาคมการค้าใน 4 มิติ คือ มิติที่ 1 ประสิทธิผลตามพันธกิจ มิติที่ 2 ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน มิติที่ 3 คุณภาพในการให้บริการ มิติที่ 4 การพัฒนาองค์กร โดยจะมีการมอบรางวัลจำนวน 5 รางวัล ได้แก่ รางวัลคะแนนรวมสูงสุด 1 รางวัล อีก 4 รางวัลเป็นรางวัลคะแนนสูงสุดในแต่ละด้าน (มิติ) ด้านละ 1 รางวัล

ในงานดังกล่าวยังจะมีพิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่างประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมการพิมพ์ กับประธานเครือข่าย OTOP ระดับประเทศ ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้า OTOP และหลังจากนั้นก็จะมีการบรรยายเรื่อง “การพัฒนาคลัสเตอร์ทางการค้า (Trading Cluster) เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจไทย” โดย ดร.วิชัย พยัคฆโส ประธานสหภัณฑ์อุตสาหกรรมการพิมพ์

นอกจากนี้ยังจะมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “กลุ่มเครือข่ายธุรกิจ (Cluster) เพื่อรองรับ FTA” โดย ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งท่านจะกล่าวถึงสภาพเศรษฐกิจและการค้าในยุคเศรษฐกิจใหม่ ไทยควรจะวางยุทธ์ศาสตร์ทางการค้าอย่างไร เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน อีกด้วย

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในงานนี้ นายคมสัน โอภาสถาวร กรรมการนายทะเบียนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย จะบรรยายเรื่อง “การสร้างความเข้มแข็งระหว่างสถาบันการค้า” และยังจะมีการเชิญนายกสมาคมการค้าที่ได้รับรางวัลสมาคมการค้าดีเด่น ขึ้นแนะนำสมาคมและบอกเล่าถึงเคล็ดลับในการดำเนินงาน ที่ทำให้ประสบผลสำเร็จจนและได้รับรางวัลในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ การจัดงานในครั้งนี้นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคธุรกิจการค้าต่างๆ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา และต้องปรับตัวให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งหากแต่ละธุรกิจเดินไปอย่างโดดเดี่ยว คงจะไม่สามารถพัฒนาได้มากนัก จึงต้องแสวงหาพันธมิตรทางการค้า เพื่อร่วมคิดร่วมกันดำเนินธุรกิจให้มีความเจริญอย่างยั่งยืน และเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งมั่นคงในการดำเนินธุรกิจการค้า ซึ่งในปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูง ทั้งการแข่งขันภายในประเทศและการแข่งขันกับต่างประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงทำให้ข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจส่งถึงกันอย่างรวดเร็ว--จบ--