เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง พร้อมเดินหน้าเข้าตลาดหุ้น เคาะราคาจองที่ 8.90 บาท ต่อหุ้น

16 Aug 2005

กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่น

เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง ชูจุดเด่นบริการสินเชื่อเช่าซื้อครบวงจร ขายหุ้นไอพีโอ 23 ล้านหุ้น พร้อมกรีนชู 3.45 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 16-18 ส.ค. 48 โดยแต่งตั้ง บล.เคจีไอ เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น นักวิเคราะห์หลักทรัพย์คาดราคาดังกล่าว คิดเป็น พีอีเรโช ปัจจุบันเพียงประมาณ 7.3 เท่า เทียบกับบริษัทที่มีธุรกิจใกล้เคียงกัน เทรดที่ พีอี 9-12 เท่า

นายเจมส์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (ASK) ผู้ดำเนินธุรกิจสินเชื่อครบวงจร ทั้งสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และ แฟคตอริ่ง เปิดเผยว่า บริษัททำการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไป(ไอพีโอ) จำนวน 23 ล้านหุ้น รวมทั้งจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (กรีนชู) จำนวน 3.45 ล้านหุ้น รวมทั้งสิ้น 26.45 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 8.90 บาท ราคาพาร์ 5 บาท คิดเป็นร้อยละ 20 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ซึ่งภายหลังการเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทุนจดทะเบียนของบริษัทอยู่ที่ 575 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ได้ระหว่างวันที่ 16 – 18 สิงหาคม 2548 โดยมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 4 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) , บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน)

“เงินที่ได้รับจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้รวมมูลค่า 204.70 ล้านบาท จะจัดสรรเพื่อ เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจการให้บริการสินเชื่อจำนวน 154.70 ล้านบาท และพัฒนาระบบสารสนเทศจำนวน 50 ล้านบาท “นายเจมส์ โล กล่าว

นายเจมส์ โล กล่าวถึงผลการดำเนินงานของบริษัทว่า ผลจากการที่บริษัทฯกำหนดตำแหน่งที่ชัดเจนในตลาดเช่าซื้อรถยนต์ โดยมุ่งไปที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ร้อยละ 80 และความโดดเด่นของธุรกิจแฟคตอริ่ง ในบริษัท กรุงเทพ แกรนด์ แปซิฟิคลีส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย รวมถึงบริการสินเชื่ออื่นที่สนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ส่งให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ไตรมาสล่าสุด 1/48 มีรายได้รวม 167.89 ล้านบาท กำไรสุทธิ 33.81 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 6,545.72 ล้านบาท โดยมีโครงสร้างรายได้มาจากสินเชื่อเช่าซื้อร้อยละ 67.66 สินเชื่อลีสซิ่งร้อยละ 11.24 สินเชื่อแฟคตอริ่งร้อยละ 3.34 รายได้อื่นๆ ร้อยละ 17.76

ทั้งนี้ บริษัทฯมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 และไม่เกินร้อยละ 70 ของกำไรสุทธิ โดยภายหลังการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป กลุ่มคู จะเหลือสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 63.72 จากเดิมที่มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 79.65 กลุ่มธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เหลือสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 10.06 จากเดิมที่สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 12.58 อื่นๆ ร้อยละ 1.12 จากเดิมที่เคยถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 1.40 และ ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ถือหุ้นร้อยละ 5.10

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะแกนนำในการจัดจำหน่ายของบริษัท ASK กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนการนำเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ASK ในครั้งนี้ จะเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันจำนวนประมาณ 9.2 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 40 จากจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ และบุคคลทั่วไปจำนวน ประมาณ 13.80 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็นร้อยละ 60 จากจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ และมีหุ้นจัดสรรสำหรับกรีนชูอีก 3.45 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 15 จากจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ สำหรับราคาจองที่ 8.90 บาท คิดเป็น พีอีเรโช ประมาณ 7.3 เท่า ซึ่งเทรดที่ พีอี ประมาณ 9-12 เท่า โดยมีส่วนลดให้กับนักลงทุนในระดับที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทที่มีอุตสาหกรรมเดียวกัน

โดย เคจีไอ คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เนื่องจาก ASK มีการทำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อครบวงจร และมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีผู้ถือหุ้นหลักคือ กลุ่มคู และกลุ่มธนาคารกรุงเทพ นอกจากนี้ที่ผ่านมา พอร์ตสินเชื่อของบริษัทมีคุณภาพสูง ทำให้มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระดับต่ำมาก เมื่อเทียบกับในอุตสาหกรรมเดียวกัน

สำหรับความคิดเห็นของนักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่างๆ ซึ่งเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของ ASK พบว่าราคาเป้าหมายอยู่ในช่วงประมาณ 9-14 บาท โดยราคาจองอยู่ที่ 8.90 บาท ซึ่งราคาจองดังกล่าวมีส่วนลดให้กับนักลงทุนเพื่อให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

อนึ่ง บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดในปี 2527 และได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2546 ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 575 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 460 ล้านบาท กลุ่มบริษัทประกอบด้วย บริษัทและบริษัทย่อย 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท กรุงเทพ แกรนด์ แปซิฟิคลีส จำกัด (มหาชน) บริษัทและบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจหลัก 4 ประเภท ได้แก่ 1)ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และเครื่องจักร ดำเนินงานโดยบริษัทและบริษัทย่อย โดยบริษัทจะเน้นการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่เป็นรถยนต์ใหม่และรถยนต์ใช้แล้วแก่บุคคลธรรมดาเป็นหลักและบริษัทย่อยจะเน้นการให้สินเชื่อเครื่องจักรแก่นิติบุคคลเป็นหลัก 2) ธุรกิจสินเชื่อลีสซิ่งประเภทเครื่องจักรและยานพาหนะ ดำเนินงานโดยบริษัทย่อย ซึ่งจะเน้นการให้สินเชื่อลีสซิ่งเครื่องจักรที่เป็นเครื่องจักรใหม่และเครื่องจักรใช้แล้วประเภทสัญญาเช่าการเงินเป็นหลัก 3) ธุรกิจแฟคตอริ่งทั้งที่เป็นแฟคตอริ่งภายในประเทศและแฟคตอริ่งระหว่างประเทศ ดำเนินงานโดยบริษัทย่อย และ 4)บริการอื่นๆ ได้แก่ การให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อแก่ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ นอกจากนี้ บริษัทและบริษัทย่อยยังให้บริการอื่นๆ เช่น บริการรับจดทะเบียนรถยนต์ การต่อภาษี และบริการเกี่ยวกับการประกันภัย เป็นต้น

รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

อินทิรา ใจอ่อนน้อม

ม.ล. ฉัตรามณี เกษมศรี

ดรรชนี นวลเขียว

บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)

โทร. 02 662 2266--จบ--