กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
นายปานชัย พิพัฒนสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) (TMT) ผู้ดำเนินธุรกิจหลักเป็นศูนย์บริการเหล็กครบวงจร โดยให้บริการการผลิต แปรรูป ปรึกษา และจัดหาผลิตภัณฑ์เหล็กเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสสองปี 2548 ว่า บริษัทมีรายได้ 1,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.79 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2547 และมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอยู่ร้อยละ 6.77
“กำไรของบริษัทเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ แม้ว่าลูกค้าจะชะลอการตัดสินใจการสั่งซื้อบ้าง อันเนื่องมาจากสถานการณ์เหล็กในปัจจุบันที่มีราคาต่ำลง และราคาน้ำมันที่สูง แต่เมื่อมองในภาพรวมของตลาดแล้วถือว่าน่าพอใจ โดยสถานะของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 บริษัทมีทรัพย์สินรวม 2,678 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,574 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 1,104 ล้านบาท มีสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.43 เท่า และมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 163 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 133 ล้านบาท” นายปานชัยกล่าว
นายปานชัย กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังของปี 2548 ว่า บริษัทเน้นการขยายตลาดในกลุ่มลูกค้าประเภทต่างๆมากขึ้น และมีนโยบายการเก็บรักษาสินค้าคงคลังในระยะสั้นคือประมาณ 1 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาเหล็กที่ค่อนข้างผันผวนซึ่งแม้ว่าการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทโดยรวมก็ตาม ทั้งนี้บริษัทคาดการณ์ว่าแนวโน้มของอุตสาหกรรมเหล็กในครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก
อนึ่งบริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนก่อตั้งเป็นบริษัทจำกัดเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2535 ภายใต้ชื่อ “บริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด” ซึ่งก่อตั้งโดยกลุ่มครอบครัว ธรสารสมบัติ เพื่อดำเนินธุรกิจหลักเป็นศูนย์บริการเหล็กครบวงจร โดยมีลักษณะการให้บริการการผลิต แปรรูป ปรึกษา และจัดหาผลิตภัณฑ์เหล็ก ด้วยการจัดรูปแบบของสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า โดยมีธุรกิจหลักได้แก่
1. การเป็นตัวกลางในการจัดจำหน่าย (Trading and Warehousing) เป็นการซื้อสินค้ามาและขายไป ทั้งนี้บริษัทมีคลังสินค้าและมีการบริหารจัดการสินค้าในคลังอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีส่วนช่วยในการประหยัดต้นทุนการจัดเก็บ และบริหารจัดการสินค้าคงคลังของลูกค้า เช่น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ (Shape Steel) และเหล็กแผ่นหนา (Plate)
2. การผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก (Steel Processing) ทั้งนี้บริษัทมีเครื่องจักรที่ทันสมัยเพื่อใช้ผลิตเพื่อใช้ผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้ออกมาตรงตามความต้องการของลูกค้า เช่น เหล็กตัดแผ่นตามขนาด (Sheet) เหล็กแถบม้วน (Slit Coil) ท่อเหล็กดำ (Steel Pipe) และเหล็กโครงสร้างรูปตัวซี (C-Channel)
3. การบริการรับจ้างแปรรูป (Toiling and Servicing) ซึ่งเป็นการรับจ้างแปรรูปสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าเช่นเดียวกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก (Steel Processing) ต่างกันที่ลูกค้าจะเป็นผู้นำวัตถุดิบมาให้แล้วบริษัทก็จะดำเนินการตามที่ลูกค้าต้องการเพื่อส่งงานตามลักษณะชิ้นงานที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า เช่น บริการรับจ้างตัด-พับขึ้นรูป ” นายปานชัยกล่าว
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
อินทิรา ใจอ่อนน้อม
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด
โทร. 0-2662-2266--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit