กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
กระทรวงการคลัง แต่งตั้งธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้จำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ 30,000 ล้านบาท แต่เพียงผู้เดียว โดยเป็นพันธบัตรอายุ 5 ปี และ 7 ปี ทยอยออกตั้งแต่ ส.ค.48-ก.ค.49 เชื่อดอกเบี้ยอิงผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลบวกส่วนต่างไม่เกิน 15% ของผลตอบแทน จะจูงใจให้ลงทุน เริ่มขายรุ่นแรก 15 ส.ค.48 นี้ ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2548 ที่ห้องสุขสามัคคี ธนาคารกสิกรไทย อาคารสาขาสำนักพหลโยธิน ได้มีการลงนามบันทึกข้อตก ลงในการแต่งตั้งธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้จัดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ระหว่างนายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย นายประกอบ ตันติยาพงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง และนางจิตติมา ดุริยะพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้คัดเลือกให้ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้จัดจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2548 – พ.ศ.2549 วงเงิน 30,000 ล้านบาท แต่เพียงผู้เดียว
พันธบัตรดังกล่าว มี อายุ 5 ปี และ 7 ปี จะทยอยออกจำหน่ายสลับกันเดือนละ 1 รุ่น ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2548 ถึง กรกฎาคม 2549 รวม 12 เดือน โดยในเดือนสิงหาคมจะเริ่มจำหน่ายพันธบัตรรุ่นแรก อายุ 7 ปี วงเงิน 5,000 ล้านบาท ส่วนในเดือนกันยายนจะเป็นพันธบัตรรุ่นอายุ 5 ปี วงเงิน 5,000 ล้านบาท หลังจากนั้นจะออกเดือนละ 2,000 ล้านบาท
สำหรับผ มีสิทธิซื้อต้องเป็นบุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทยหรือที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย มูลนิธิ สภากาชาดไทย และสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วงเงินซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท และวงเงินซื้อขั้นสูงไม่เกิน 500,000 บาท พันธบัตรแต่ละรุ่นจะเปิดให้จองซื้อประมาณช่วงกลางเดือนของแต่ละเดือน โดยรุ่นแรกในเดือนสิงหาคมจะเปิดจำหน่ายในวันที่ 15-24 สิงหาคม ที่ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ผู้ที่จองและชำระเงินก่อนมีสิทธิได้รับการจัดสรรก่อน
การชำระเงินค่าจองซื้อพันธบัตรสามารถเลือกชำระได้ 3 วิธี คือ ชำระเป็นเช็คส่วนตัว/แคชเชียร์ เช็ค หรือชำระเป็นเงินสดในวันที่ซื้อ หรือสามารถหักบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โ ดยวันที่เริ่มคำนวณดอกเบี้ยจะเป็นวันที่กระทรวงการคลังได้รับเงินจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่ลงในพันธบัตร ส่วนอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรออมทรัพย์ในแต่ละรุ่น กระทรวงการคลังจะประกาศอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 2 วันทำการ ก่อนวันจำหน่ายวันแรกของพันธบัตรแต่ละรุ่น โดยใช้อัตราเฉลี่ยของอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 5 วันทำการก่อนวัน ปร กาศกำหนดอัตราดอกเบี้ยเป็นฐานในการกำหนดอัตราอัตราดอกเบี้ยบวกด้วยส่วนต่างไม่เกิน 15% ของอัตราผลตอบแทน
ทั้งนี้สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากหนังสือชี้ชวนการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2548-2549 ซึ่งขอรับได้ที่ธนาคารกสิกรไทย หรือดูได้ที่ www.kasikornbank.com และwww.pdmo.mof.go.th/
นายบัณฑูร กล่าวในตอนท้ายว่า กระทรวงการคลังมีเป้าหมายส่งเสริมการออมทรัพย์ของประชาชน การออกพันธบัตรออมทรัพย์ในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีให้แก่ประชาชน และพัฒนาตลาดตราสารหนี้ของประเทศให้เป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญในระยะยาว คาดว่าประชาชนจะให้ความสนใจลงทุนในพันธบัตรครั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี และ 7 ปี อยู่ที่ประมาณ 4.32% และ 4.63% เมื่อบวกส่วนต่างไม่เกินร้อยละ 15 ของอัตราผลตอบแทน จะทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนที่ถือครองพันธบัตรครบ 1 ปี แล้วสามารถโอนหรือขายต่อให้สถาบันการเงินและบุคคลอื่นตามราคาที่ตกลงกันได้
รังษี บูรณประภาพงศ์
ฝ่ายสื่อสารและส่งเสริมงานบริหารองค์การ ธนาคารกสิกรไทย
โทรศัพท์ 0 2470 2655 โทรสาร 0 2470 2746
e-mail: [email protected]
www.KASIKORNBANK.com--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit