เด็กซ์เดินหน้ารุกขายลิขสิทธิ์ไอ้มดแดงเวอร์ชั่นล่าสุด “มาสไรเดอร์ไฟซ์” ที่กำลังฮอตสุดในญี่ปุ่น หลังสินค้าค่ายยักษ์ใหญ่แห่ซื้อเพื่อเกาะกระแสดันยอดขายในปี 49

07 Oct 2005

กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น

เด็กซ์บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ไอ้มดแดงเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดมาสไรเดอร์ไฟซ์ (Masked Rider Faiz) สบช่องเกาะกระแสความนิยมที่หยุดไม่อยู่จากญี่ปุ่น สร้างความดังในเมืองไทย วางหมากรุกขายลิขสิทธิ์แก่สินค้าชั้นนำแบบเต็มสูบ หลังร่วมมือ ไอทีวี การ์ตูน คลับ นำหนังออกฉายทุกวันเสาร์ เวลา 08.00 น. พร้อมเชิญพระเอก “ทาคูมิ” มาสร้างกระแสเพิ่ม หวังสร้างความนิยมแก่กลุ่มเป้าหมายในเมืองไทย เพื่อกระตุ้นให้ค่ายสินค้ายักษ์ใหญ่สนใจซื้อลิขสิทธิ์เพิ่มมากยิ่งขึ้นตลอดปี 49 ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้กว่า 10 ล้านบาท

นายกฤษณ์ สกุลพานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดรีม เอกซ์เพรส (เดกซ์) จำกัด ผู้ดูแลลิขสิทธิ์มาสไรเดอร์ไฟซ์ (Masked Rider Faiz) หรือไอ้มดแดงเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดแต่เพียงผู้เดียว ในเมืองไทย กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของ มาสไรเดอร์ไฟซ์ (Masked Rider Faiz) ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในปัจจุบันจากหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง มาสไรเดอร์ไฟซ์ (Masked Rider Faiz) ถือเป็นภาพยนตร์ฮีโร่ที่ปรับรูปแบบเนื้อหาให้เปลี่ยนไปจากเดิมเพื่อให้เข้ากับการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบัน มีการสร้างให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย ถ่ายทอดชีวิตจริง ความรู้สึกนึกคิดที่เป็นคนจริงๆ พร้อมให้คติสอนใจที่สามารถนำมาใช้ได้ เป็นเหตุให้เกิดการขยายกลุ่มเป้าหมายจากกลุ่มเด็กไปสู่กลุ่มวัยรุ่นและครอบครัวมากขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลให้สินค้าที่ใช้สัญลักษณ์หรือสินค้าที่แสดงความเป็น Masked Rider ในทั่วทุกมุมโลกสามารถสร้างยอดขายได้อย่างน่าจับตามอง อาทิ เข็มขัดที่ใช้แปลงร่างของมาสไรเดอร์ไฟซ์ (Masked Rider Faiz) ซึ่งถือเป็นของเล่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด สามารถจำหน่ายได้ 2,000,000 เส้น สร้างยอดขายได้กว่า 3,700 ล้านบาท และด้วยศักยภาพดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้ติดต่อไปยังบริษัทโตเอะเจ้าของลิขสิทธิ์หลักในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเจรจาขอซื้อลิขสิทธิ์มาสไรเดอร์ไฟซ์ (Masked Rider Faiz) เข้ามาขายแก่เจ้าของสินค้าหรือบริการในเมืองไทย โดยได้เริ่มทำตลาดไปตั้งแต่เดือน สิงหาคม ศกนี้ ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทผู้ซื้อลิขสิทธิ์ไปทั้งสิ้น 4 บริษัท ประกอบด้วย BERLI JUCKER FOOD, B.BOON INTERNATIONAL, BKL CO.,LTD., PROMEDIA GIFT CO.,LTD. ณ วันนี้ได้สร้างรายได้แล้วกว่า 4.2 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ยังคงสานต่อการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยได้ตั้งเป้ารายได้จากการขายลิขสิทธิ์จนถึงปลายปี 49 ไว้ที่ 10 ล้านบาท

“ทางบริษัท . เจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศญี่ปุ่น ได้ให้ความร่วมมือในการทำตลาดในเมืองไทยกับเราอย่างดี โดยล่าสุดระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม ศกนี้ ได้ส่ง MR.HANDA KENTO หรือผู้รับบทเป็น “ทาคูมิ” พระเอกในเรื่อง มาสไรเดอร์ไฟซ์ (Masked Rider Faiz) เดินทางมาโชว์ตัวในประเทศไทย เพื่อเอาใจแฟนคลับ และกระตุ้นกระแสความนิยมให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้นในเมืองไทย นอกจากนี้ เรายังจัดกิจกรรม Road Show ไปตามแหล่งที่กลุ่มเป้าหมายอยู่ เพื่อทำกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย ซึ่งจากการทำกิจกรรมเชิงรุกดังกล่าว เชื่อว่าจะสามารถสร้างกระแสความนิยมได้อย่างแน่นอน” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดรีม เอ็กซ์เพรส (เด็กซ์) จำกัด กล่าว

ทั้งนี้ ภาพยนตร์เรื่อง มาสไรเดอร์ไฟซ์ (Masked Rider Faiz) หรือไอ้มดแดงเวอร์ชั่นล่าสุด เป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ กลุ่มวัยรุ่นที่มีความฝันอยากเห็นโลกมีแต่สิ่งที่ดี กลับอีกกลุ่มหนึ่งที่ฝันสลายมีประสบการณ์ที่เลวร้าย ทั้งสองกลุ่มได้มาผูกพันธ์กัน ต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ในขณะที่พระเอกเป็นตัวแทนของวัยรุ่นบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจในชีวิต ไม่มีฝัน ไม่มั่นใจในอนาคต จนกระทั่งได้พบพลังของตัวเองในการแปลงกายเป็นมาสไรเดอร์ไฟซ์ จึงได้ตั้งมั่นว่าจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ พิทักษ์คุณธรรมและปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่าจนถึงที่สุด โดยได้เริ่มฉายในเมืองไทยไปแล้วตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ทุกวันเสาร์ เวลา 08.00 น. และเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บริษัท ดรีม เอ็กซ์เพรส จำกัด หรือ เด็กซ์ ค่อนข้างมั่นใจว่า มาสไรเดอร์ไฟซ์ (Masked Rider Fiaz) จะกลายเป็นฮีโร่คนใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในเมืองไทย และด้วยศักยภาพดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงความสนใจของธุรกิจและบริการยักษ์ใหญ่ต่างๆ เข้ามาติดต่อซื้อลิขสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 4 ราย และอยู่ในระหว่างการเจรจาอีกกว่า 5 ราย “เราจะมีการจัดกิจกรรมในการสร้างกระแสความนิยมในตัว มาสไรเดอร์ไฟซ์( Masked Rider Faiz) อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างให้ มาสไรเดอร์ไฟซ์( Masked Rider Faiz) เป็นฮีโร่ในดวงใจ ซึ่งเชื่อว่าทำได้ไม่ยาก เพราะไอ้มดแดงถือเป็นฮีโร่ที่ได้รับความนิยมจากทุกมุมโลกอยู่แล้ว และยิ่งมีการปรับเนื้อหาให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างยิ่งขึ้น ยิ่งเป็นสัญญาณบอกถึงการขยายตัวของผู้นิยมอย่างเห็นได้ชัด” นายกฤษณ์ สกุลพานิชกล่าวสรุป

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--