ปตท. – ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ลงนามในโครงการผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นด้วยก๊าซธรรมชาติ

14 Oct 2005

กรุงเทพฯ--14 ต.ค.--ปตท..

วันนี้ (14 ตุลาคม 2548) เวลา 14.00 น. ณ ห้องทิวลิป โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ นายไพจิตร เทียนไพฑูรย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีลงนามในข้อตกลงการร่วมพัฒนาโครงการ (Project Development Agreement) ในโครงการผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น (Gas District Cooling and Cogeneration, GDC&Cogen) สำหรับศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ระหว่างบริษัท ปตท. จำกัด มหาชน (ปตท.) โดย นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. และ บริษัท รังสิต พลาซ่า จำกัด (ฟิวเจอร์พาร์ค) โดย นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ สำหรับสาระในข้อตกลงดังกล่าว ปตท. จะเป็นผู้ลงทุนโครงการโดยจะรับผิดชอบในการให้บริการแปลงพลังงานจากก๊าซธรรมชาติเป็นไฟฟ้าและน้ำเย็นตามความต้องการของฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ทั้งนี้ ปตท. จะดำเนินการพัฒนาโครงการและจัดทำรายละเอียด, ออกแบบ, จัดหาเครื่องจักรอุปกรณ์ และก่อสร้างโครงการ ตลอดจนดำเนินงานผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นตลอดอายุสัญญา 16 ปี รวมทั้งติดตั้งระบบ GDC & Cogen รวมเข้ากับระบบทำความเย็นปัจจุบันของฟิวเจอร์พาร์ค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับระบบไฟฟ้าและระบบปรับอากาศ โดย ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต จะรับผิดชอบในการจัดหาก๊าซธรรมชาติและน้ำสำหรับใช้ในกระบวนการผลิตให้แก่โครงการฯ ตามปริมาณความต้องการใช้จริงตลอดอายุสัญญา พร้อมทั้งจัดหาพื้นที่ตั้งโครงการฯ

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า โครงการผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นด้วยก๊าซธรรมชาติ ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต เป็นการขยายการใช้ก๊าซธรรมชาติในลักษณะ Gas District Cooling และ Cogeneration (GDC & Cogen) ไปสู่ลูกค้าในภาค Commercial Building เพื่อให้มีการใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติในการผลิตพลังงานความเย็นและไฟฟ้าใช้ภายในอาคาร ซึ่งในปัจจุบันมีความต้องการใช้พลังงานดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองนโยบายประหยัดพลังงานของประเทศในปัจจุบัน โดยจะลดปริมาณความต้องการไฟฟ้าสูงสุด, ลดการลงทุนในระบบสายส่ง และลดการสูญเสียพลังงานจากระบบสายส่ง (Transmission loss)

ทั้งนี้ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต นับว่าเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศในการนำระบบผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นด้วยก๊าซธรรมชาติมาใช้ในอาคาร และเป็นลำดับที่สองต่อจากสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะช่วยให้สามารถประหยัดค่าพลังงาน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับก๊าซธรรมชาติ และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของการใช้พลังงานของประเทศ

สำหรับรายละเอียดของโครงการฯ นั้น จะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 182 ล้านบาท ในระยะแรกจะมีกำลังการผลิตความเย็น 2,150 ตัน (RT) และกำลังผลิตไฟฟ้า 4.9 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งจะใช้ก๊าซธรรมชาติประมาณ 8 แสนลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และสามารถขยายการใช้งานเพื่อรองรับโครงการในอนาคตของฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต จากโครงการดังกล่าวจะทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานหรือก๊าซธรรมชาติโดยรวมประมาณ 80% ส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าและพลังงานโดยรวม

นางสาวพิมพ์ผกา หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการบริษัทรังสิตพลาซ่า จำกัด กล่าวว่า ศูนย์การค้า ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีปริมาณลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละประมาณ 130,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี บริษัทฯ จึงหาแนวทางนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้งานภายในอาคาร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อผู้เข้ามาใช้บริการและศูนย์การค้า ฯ มากที่สุด รวมทั้งต้องไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่ด้วย

ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้คือ ลดความต้องการไฟฟ้าสูงสุดจาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคประมาณ 6.9 เมกะวัตต์ ลดการลงทุนการเปลี่ยนเครื่องผลิตน้ำเย็นแบบใช้ไฟฟ้าในอนาคตและเพิ่มความเชื่อมั่น (Reliability) ให้กับระบบไฟฟ้าและน้ำเย็นได้ เนื่องจากศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ล้วนเป็นหน่วยงานที่มีปริมาณการใช้งานของกระแสไฟฟ้ามากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ซึ่งหากการดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ นอกจากจะช่วยประหยัดค่าพลังงานให้กับผู้ใช้แล้ว ยังเป็นการสนองนโยบายของภาครัฐบาลในการช่วยกันประหยัดพลังงาน ท่ามกลางสภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น นับเป็นพลังงานทางเลือกที่เหมาะสมในปัจจุบัน ซึ่ง ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต รู้สึกภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของโครงการประหยัดพลังงานของประเทศอีกด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ

โทรศัพท์ 0-2537-3217

โทรสาร 0-2537-3211

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)--จบ--