กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ชายหาดหนึ่งที่ครองใจคนตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คุณย่า จนถึงลูกและหลาน คงไม่พ้นหัวหินสถานที่แห่งความทรงจำ และความประทับใจมิรู้ลืม ซึ่งนำมาเล่าขานกันในงานเปิดตัวโครงการโบ๊ทเฮาส์ – หัวหิน ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และคอนโดมิเนียม ซึ่งสรรค์สร้างภายใต้คอนเซ้ปต์ “Feel Like Living in Paradise” บนพื้นที่กว่า 73 ไร่ ก่อนถึงตลาดหัวหินเพียง 7 กม. ติดทะเลหัวหินในอ่าวไทย ซึ่งปลอดภัยจากสึนามิ โดยมี
หม่อมหลวงตรีทศยุทธ เทวกุล เป็นสถาปนิกออกแบบโครงการ และนำทีมบริหารโครงการโดย ประไพสิทธิ์ ตัณฑ์เกยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทเฮาส์ หัวหิน จำกัด
หม่อมหลวงตรีทศยุทธ เทวกุล เล่าถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบโครงการนี้ว่า “ตนรักหัวหินมาก ซึ่งจะไปทุกหน้าร้อน หัวหินเป็นความทรงจำดีๆ ตั้งแต่เด็ก ปกติในวัยนั้นมักจะลืมไปแล้ว แต่ตนยังจำได้อยู่ สำหรับโครงการโบ๊ทเฮาส์ตอนนี้ยังสร้างไม่เสร็จ แต่ว่าทุกอย่างได้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้วในสมองของผม โดยจะสร้างให้เป็นที่ที่รวมของญาติพี่น้อง บรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ความสนุกสนาน ในลักษณะที่เป็นแบบครอบครัวมากที่สุด สร้างความสุขให้กับคนที่เข้ามาอยู่ ในบรรยากาศที่ยังคงเป็นเดิม ๆ ของหัวหิน”
ส่วนหม่อมหลวงลักษสุภา กฤดากร ได้เล่าถึงความประทับใจ และความทรงจำดี ๆ ของหัวหินว่า “ตนผูกพันกับหัวหินมาตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ ไปพักผ่อนกันทั้งครอบครัวในช่วงหน้าร้อนถือเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานและมีความสุขที่สุด ด้วยบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติและทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว เช่น ขี่ม้า ซึ่งในสมัยเด็กตนจะชอบเก็บเม็ดมะกล่ำตาหนูซึ่งเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งมาเล่นกับพี่น้อง แล้วก็จะชอบเก็บดอกลั่นทมที่มีอยู่ในรั้วบ้านมาร้อยเป็นพวงมาลัย หัวหินในอดีตและปัจจุบันก็ไม่ต่างกันมากนักเพราะยังคงความสวยงามและมีม้าให้ขี่อยู่ แม่ค้าที่ขายของหาบเร่ก็ยังจำกันได้เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยก่อน พอมาถึงรุ่นลูกก็จะพาพวกเขามาพักผ่อนที่นี่เป็นประจำโดยกิจกรรมที่ทำร่วมกันก็ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ที่หัวหินเดี๋ยวนี้มีร้านอาหารเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังคงกลิ่นอายของความเป็นหัวหินอยู่ กลับมาที่นี่ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปก็ยังคงความรู้สึกเหมือนเก่า” สำหรับคุณแม่ อาภา กฤดากร กล่าวว่า “สมัยก่อนตอนเด็ก ๆ ท่านพ่อ กับท่านแม่จะพาไปเที่ยวหัวหินเป็นประจำ คิดว่าหัวหินเป็นเมืองที่เงียบสงบ ไปแล้วจะมีรอยยิ้มแห่งความสุขทุกครั้ง เป็นที่ที่มีความสดใส หาดทรายสะอาด ที่สำคัญเหมือนเป็นสถานที่รวมกลุ่มพบปะของญาติพี่น้อง เพราะทุกคนไปแล้วมีความสุข”
สำหรับ อัจฉรา เตชะไพบูลย์ กล่าวว่า ”สมัยก่อนหัวหินเป็นเมืองเงียบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ซึ่งในปัจจุบันแม้ว่าคน และสิ่งก่อสร้างต่างๆ จะมากขึ้นก็ตาม สภาพแวดล้อมก็ยังดีอยู่ ต้นไม้ใหญ่สวยงาม การเดินทางก็สะดวกมากขึ้น เมื่อก่อนต้องเดินทางโดยรถไฟใช้เวลานานมาก แต่ก็สนุกดี ประทับใจหัวหินตรงที่มีหาดสวย และเป็นที่ที่คนรุ่นเก่า ๆ เค้านิยมไปกัน สิ่งหนึ่งที่ชอบไปเที่ยวที่หัวหิน ก็เป็นเพราะเพื่อน ๆ จะมีบ้านพักที่นั่นเยอะ ทำให้เป็นที่สังสรรค์ ที่สำคัญปัจจุบันยังมีตลาดโต้รุ่งเหมือนในสมัยก่อน เป็นแม่ค้าคนเดิม ๆ ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ทำให้ได้บรรยากาศเก่า ๆ”
ในขณะที่ เรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์ กล่าวว่า “จำได้ว่าไปหัวหินตั้งแต่อายุประมาณ 5 – 6 ขวบ ซึ่งคิดว่าในวัยนั้นไม่น่าจะจำได้ นอกจากว่าเป็นสิ่งที่น่าจดจำจริง ๆ ซึ่งถ้ามีความคิดว่าอยากไปพักผ่อน ตากอากาศจะนึกถึงหัวหินเป็นที่แรก เพราะมีหาดทรายที่สะอาด และในปัจจุบันมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังมีตลาดโต้รุ่ง ที่ยังคงไว้เหมือนสมัยก่อนเป็นสิ่งที่ดีมากที่อนุรักษ์ไว้ หัวหินเป็นที่ที่เราไปกับครอบครัวในอดีตเราไปกับคุณพ่อ คุณแม่ ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นแบบนั้น”
คนรุ่นใหม่อย่าง ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา กล่าวว่า “เมื่อพูดถึงหัวหินจะนึกถึงชายหาดที่สะอาด ความน่าอยู่ บรรยากาศความอบอุ่นของครอบครัว แค่ชื่อของหัวหินก็มีมนต์เส่นห์แล้ว ซึ่งตอนเด็ก ๆ เวลาปิดเทอมหน้าร้อนคุณแม่จะพาไปหัวหินทุกครั้ง ถ้าหากต้องการความสงบ หัวหินจะเป็นทางเลือกที่หนึ่ง สมัยก่อนคุณยายเคยเล่าให้ฟังว่าหัวหินเป็นที่พบปะของหนุ่มสาว นิยมไปเที่ยวกันมาก ทำให้รู้สึกถึงมนต์เสน่ห์ของหัวหินตั้งแต่อดีตแล้ว”
สุทิน จิรมณีกุล กล่าวว่า “หากพูดถึงหัวหินจะนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ความมีเสน่ห์ ซึ่งปัจจุบันก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากนัก ไม่เหมือนบางแห่ง หัวหินเป็นสถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนจริง ๆ ในอดีตจะมีบรรยากาศที่มีคนขี่จักรยานริมชายหาด วิ่งเล่นกันริมทะเล ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ มีความเป็นธรรมชาติ เงียบ สงบ ซึ่งเวลาไปทุกครั้งจะนึกถึงความทรงจำเก่า ๆ “
วาสันตี ฮุนตระกูล กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อหัวหินว่า “ชอบทุกอย่างที่เป็นหัวหิน ซึ่งครอบครัวของเราจะมีบ้านอยู่ที่นั่นชื่อ ทรัพย์ศฤงคาร 2476 เป็นบ้านที่เก่าแก่ โดยส่วนใหญ่เวลาที่ไปก็จะเป็นช่วงที่มีวันหยุดหลายวันซึ่งก็จะไปพร้อมกันครบทีมทั้งครอบครัว เพราะที่หัวหินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ค่อนข้างสงบ และยังคงไว้ซึ่งหาดทรายที่ขาวสะอาด โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ที่ทำร่วมกันก็จะเป็นการถีบจักรยาน, เดินเล่นตามชายหาด ลูก ๆ ก็จะพายเรือพายัค ส่วนสามีก็จะตีเทนนิส และถึงแม้ว่าในปัจจุบันหัวหินจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตรงที่มีผู้คนอาศัยกันอยู่เยอะ และไม่ค่อยเงียบเหมือนอดีต แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศที่สวยงามและร้านอาหารที่เก่าแก่ โดยเวลาที่ไปทานอาหารกันคุณแม่ของสามีก็จะเล่าถึงเหตุการณ์ในวัยเด็กของสามีให้ฟัง ซึ่งก็สื่อถึงความอบอุ่นและความทรงจำที่ดีที่เกิดขึ้นในครอบครัว”
เห็นได้ว่าหัวหินเป็นเมืองความทรงจำดีๆ และความประทับใจมากมายแก่บุคคลที่ได้ไปสัมผัส ตั้งแต่อดีตจนมาถึงในยุคปัจจุบัน เป็นสถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนจริง ๆ
คำบรรยายภาพ
1. ม.ล.ตรีทศยุทธ เทวกุล กับโมเดลโครงการโบ๊ทเฮาส์ – หัวหิน
2. ศรัยฉัตร กุญชร ณ อยุธยา กับโมเดลโครงการโบ๊ทเฮาส์ – หัวหิน
3. ทีมผู้บริหาร จากซ้าย 1. สมชาติ ชินธรรมมิตร์ 2. ประไพสิทธิ์ ตัณฑ์เกยูร
กรรมการผู้จัดการ บริษัท โบ๊ทเฮาส์ หัวหิน จำกัด 3. สมเกียรติ ชินธรรมมิตร์
4. สาธิณี ชินธรรมมิตร์ 5. สมภพ ชินธรรมมิตร์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา,คุณเนาวรักษ์
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit