เกียรตินาคินลงทุน 500 ล้าน เอาท์ซอร์สระบบ Core Banking รองรับพร้อมเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ ปลายปี 48 นี้

16 Jun 2005

กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย

เกียรตินาคินพร้อมให้บริการประชาชนปลายปี 48 นี้ ในฐานะธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบด้วยระบบ คอร์แบงกิ้ง พร้อมยกระดับสำนักอำนวยสินเชื่อทั้ง 15 แห่งเป็นสาขาอย่างเต็มรูปแบบ

นายประวิทย์ วรุตบางกูร กรรมการและประธานสายงานบริหารกลาง บริษัท เงินทุนเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลังจากที่เกียรตินาคินได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังให้ยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์สิ่งที่ปฏิบัติหลักๆ คือ การสร้างระบบ Core Banking และปรับปรุงสำนักงานใหญ่และสาขาอีก 15 แห่ง ซึ่งขณะนี้แล้วเสร็จไปแล้วกว่า 50% คาดว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะประมาณอยู่ที่ 500 ล้านบาท เป็นการตัดจ่ายใน 5 ปี ๆ ละ 100 ล้านบาท เพื่อให้บริการกับลูกค้าสำหรับการทำธุรกรรมของธนาคารพาณิชย์ได้อย่างครบถ้วน ได้แก่ การรับฝาก-ถอนเงินสด ระบบเข้าเช็ค-ออกเช็ค ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปีนี้ โดยได้เลือกบริษัทไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้บริหารโครงการและดูแลระบบคอร์แบงกิ้ง”

พร้อมยกระดับสำนักอำนวยสินเชื่อทั้ง 15 แห่งเป็นสาขาของธนาคารเกียรตินาคินอย่างเต็มรูปแบบ เน้นธุรกิจที่มีความชำนาญต่อเนื่องจากการเป็นบริษัทเงินทุน คือ สินเชื่ออุปโภคบริโภค สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและสินเชื่อพาณิชย์กรรมและอุตสาหกรรม ในบางธุรกิจเช่น ธุรกิจขนส่ง บรรจุภัณฑ์ และสิ่งพิมพ์เป็นต้น ด้านบริการต่างๆ ที่จะเสริมให้ลูกค้าในระยะ 3 ปีแรก จะมีบริการหลักเช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์อื่น โดยปีแรกจะมีบริการเงินฝากประเภทออมทรัพย์ กระแสรายวัน และเงินฝากประจำให้กับลูกค้าเดิมและลูกค้าทั่วไป หลังจากเปิดดำเนินการ 6 เดือนจะขยายให้บริการด้านเงินตราต่างประเทศ และการค้าระหว่างประเทศ โดยบริการที่จะขยายเพิ่มจากการรับฝากเงินนั้นจะพิจารณาตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก คุณประวิทย์ กล่าวเสริม

นางสาวศุภจี สุธรรมพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ไอบีเอ็มมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เกียรตินาคินมอบหมายให้ไอบีเอ็ม ดูแลระบบคอร์ แบงค์กิ้ง หรือ ระบบธุรกรรมหลักธนาคารโดยครอบคลุมงานหลัก 3 ส่วนด้วยกันคือ ส่วนแรกการบริหารโครงการระบบธุรกรรมหลักธนาคารโดยที่ปรึกษาของไอบีเอ็ม เข้ามาบริหารโครงการในการดำเนินการจัดทำและดำเนินงานระบบธุรกรรมหลัก วางโครงสร้างสถาปัตยกรรมไอที รวมถึงการวิเคราะห์การดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมธนาคารในปัจจุบัน เพื่อให้ธนาคารมีข้อมูลตัดสินใจ และวางแผนงานในการสร้างความแตกต่างด้านบริการจากธนาคารอื่นๆ ส่วนที่สองได้แก่วางระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีโดยให้บริการนับตั้งแต่การวางระบบเซิร์ฟเวอร์ ระบบกู้คืนและสำรองข้อมูล ณ ศูนย์สำรองของไอบีเอ็ม และบริการดาต้าเซ็นเตอร์ ที่ไอบีเอ็มเป็นผู้ติดตั้ง และดูแลรักษาระบบอย่างอย่างมีเสถียรภาพ รวมถึงการกู้ระบบอย่างทันทีทันใดและอยู่ภายในระยะเวลาที่ตกลงกับทางเกียรตินาคินไว้ในกรณีที่ระบบล่ม และส่วนที่สามคือ การให้บริการโฮสติ้งซึ่งระบบดังกล่าวจะตั้งอยู่ที่อาคารไอบีเอ็ม และมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้ให้บริการจัดการ และดูแลระบบ ไอทีของเกียรตินาคิน ให้ทำงานได้ตลอดเวลา การวางระบบครั้งนี้ รองรับการเติบโตของเกียรตินาคิน ในอีก 5 ปีข้างหน้าในการขยายสาขา และรองรับกับเทคโนโลยีใหม่ในอนาคตได้”

พร้อมกันนี้ การเลือกเอาท์ซอร์สระบบธุรกรรมหลัก ช่วยให้เกียรตินาคินดำเนินธุรกิจแบบ ออนดีมานด์ คือ ธนาคารให้บริการได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการของตลาด และดำเนินงานอย่างมั่นใจ และ สร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้บริการธนาคารในการให้บริการโดยระบบไม่หยุดชะงัก สามารถวางแผนงบประมาณการลงทุนไอทีระยะยาวได้ รวมถึงประหยัดงบประมาณในการลงทุนทั้งระบบและบุคลากร จากการทำเอาท์ซอร์สซิ่งในช่วง 5 ปี และที่สำคัญ คือ ทำให้ เกียรนาคินมุ่งเน้นต่อแผนการพัฒนาและดำเนินธุรกิจธนาคารอย่างเต็มที่

Note to Editor

บริษัทเงินทุนเกียรตินาคิน ได้รับความเห็นชอบให้เป็นธนาคารพาณิชย์แบบเต็มรูปแบบ (Commercial Bank) จากกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2547 โดยจะมุ่งเน้นธุรกิจที่มีความชำนาญต่อเนื่องจากการเป็นบริษัทเงินทุน คือ สินเชื่ออุปโภคบริโภค สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและสินเชื่อพาณิชย์กรรมและอุตสาหกรรมในบางธุรกิจเช่น ธุรกิจขนส่ง บรรจุภัณฑ์ และสิ่งพิมพ์เป็นต้น นอกจากนั้นยังจะเสริมบริการหลักเช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์อื่นในระยะ 3 ปีแรก พร้อมทั้งยกระดับสำนักอำนวยสินเชื่อ 15 แห่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศให้เป็นสาขาของธนาคารเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ ขณะนี้บริษัทเงินทุน เกียรตินาคิน มีสินทรัพย์ประมาณ 6 หมื่นล้านบาทและมีเป้าหมายที่จะขยายเป็น 1 แสนล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า

ไอบีเอ็ม โกลบอล เซอร์วิส เป็น หน่วยงานให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและให้บริการที่ปรึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไอบีเอ็ม โกลบอล เซอร์วิส มีบุคลากรมืออาชีพกว่า 190,000 คน จาก 160 ประเทศ ช่วยเหลือลูกค้าให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เริ่มจากการปรับกระบวนการทางธุรกิจ และความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจอย่างลึกจาก ไอบีเอ็ม บิสิเนส คอนซัลติ้ง เซอร์วิส โดยให้บริการเริ่มตั้งแต่ โฮสต์ติ้ง การวางระบบ การออกแบบเทคโนโลยีและธุรกิจการฝึกอบรม และบริการไร้สาย บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2495

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

คุณธัชกร ลิมปสุรัติ

โทร. 02 257 0300 ต่อ 331 หรือ [email protected]

บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด

คุณชูจิตต์ วัฒนล้ำเลิศ

โทร. 02 273 4306 eMail : [email protected]

คุณบุษกร ศรีสงเคราะห์

โทร 02 273 4164

eMail : [email protected]จบ--