กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ซับเวย์ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีสาขามากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของอเมริกาและเป็นอันดับ 2 ของโลก เตรียมเจาะตลาดฟาสต์ฟู้ดไทยเพิ่มขึ้น โดยชูความสดใหม่ และการเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีคุณภาพ ดีต่อสุขภาพ เน้นกลุ่มวัยทำงาน ครอบครัว ชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทยและนักท่องเที่ยว ตั้งเป้าเปิดให้ครบ 140 สาขา ภายในปี 2553
มิสคาเรน อิดส์วิก ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชีย บริษัท แซนด์วิช ซับเวย์ จำกัด กล่าวว่า “ซับเวย์ (Subway) เล็งเห็นศักยภาพทางการตลาดฟาสต์ฟู้ดในไทย จึงเตรียมขยายสาขาเพิ่มเติมโดยใช้ระบบแฟรนไชส์ ด้วยอัตราค่าแฟรนไชส์แรกเข้า 10,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา โดยให้สิทธิ์ในการใช้ตราสินค้า แนวคิดทางธุรกิจ การตลาด และระบบการดำเนินงานรวมถึงทรัพย์สินทางปัญญา หากแฟรนไชส์ซีสามารถเปิดดำเนินธุรกิจได้ภายใน 1 ปีหลังจากได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์แล้ว ทางซับเวย์จะคืนทุนให้ 50% จากอัตราค่าแฟรนไชส์แรกเข้า ส่วนการลงทุนโดยรวมถึงร้านค้า, การตกแต่ง, อุปกรณ์และ ค่าปฎิบัติการต่างๆ จะตกประมาณ 3.5 – 5 ล้านบาทสำหรับร้านค้าเนื้อที่ 60 -100 ตารางเมตร โดยคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้ภายใน 2 ปีหลังจากเปิดดำเนินกิจการ หากแฟรนไชส์ซีจะเปิดร้านที่ 2 จะได้รับส่วนลดแรกเข้าถึง 75% ซึ่งจะมีอายุสิ้นสุดสำหรับ แฟรนไชส์ซีก่อนวันที่ 30 กันยายนที่จะถึงนี้ สำหรับประเทศไทยนั้นแฟรนไชส์ซับเวย์แห่งแรกได้เปิดให้บริการในปี 2546 ที่สีลม ต่อมามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันซับเวย์ ในประเทศไทยมี 12 สาขา คือในกรุงเทพฯและปริมณฑล 7 แห่ง, พัทยา 2 แห่ง, ภูเก็ต 2 แห่ง และเชียงใหม่ 1 แห่ง ซึ่งภายในสิ้นปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 9 แห่ง โดยมีเป้าหมายที่จะขยายสาขา ให้ครบ 140 สาขาภายใน ปี 2553 ซึ่งจะเน้นการเป็นอาหารจานด่วนที่สดใหม่ ดีต่อสุขภาพ โดยมอบหมายให้ มร.ไมเคิล เจมส์ อัลลัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อัลลัน แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด ที่ได้รับลิขสิทธิ์ซับเวย์ แฟรนไชส์เป็นรายแรกในไทย ให้เป็นผู้พัฒนา ซับเวย์แฟรนไชส์ ประจำประเทศไทย โดยทำงานร่วมกับซับเวย์ภาคพื้นเอเชีย ซึ่งที่ผ่านมา ผลการตอบรับของลูกค้าถือว่าเป็นที่น่าพอใจ โดยคาดว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า จะมีสัดส่วนลูกค้าชาวไทยอย่างน้อย 80% จากที่ปัจจุบันมีเพียง 20%เท่านั้น”
มิสคาเรน อิดส์วิก ยังกล่าวเสริมว่า “ปัจจุบัน ซับเวย์มีสาขาทั้งสิ้น 23,413 สาขาใน 82 ประเทศ ซึ่งจากการสำรวจของ Quick Service Restaurant (QSR) Tracker Report ผลปรากฎว่า ผู้บริโภคถึง 87% ลงความเห็นว่า ซับเวย์เป็นอาหารจานด่วนที่มีคุณภาพ ดีต่อสุขภาพ เมื่อเทียบกับฟาสต์ฟู้ดอื่นๆ และได้รับการคัดเลือกว่าเป็นแฟรนไชส์ที่น่าลงทุนเป็นอันดับหนึ่งจากนิตยสาร Entrepreneurs Franchise 500 ถึง 12 ครั้ง ภายใน 16 ปี ซึ่งไม่เคยมีแฟรนไชส์ใดๆ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นอันดับหนึ่งในหลายๆ ปีมากถึงขนาดนี้ และในอนาคตอันใกล้นี้จะเพิ่มเมนูใหม่อีก 7 รายการที่มีไขมันต่ำกว่า 6 กรัม ตามโปรแกรมที่เรียกว่าเซเว่นอันเดอร์ซิกซ์ (7 under 6) เพื่อเพิ่มทางเลือกและสร้างคุณค่าให้แก่ผู้บริโภค พร้อมจะมีขนมปังแซนด์วิชประเภทอบกรอบนุ่มออกมาให้บริการ”
นอกเหนือจากคุณภาพของอาหารและการบริหารงานแล้ว แซนด์วิช ซับเวย์ ยังมีการพัฒนา
ศักยภาพของบุคลากรอีกด้วย อาทิ การฝึกอบรมบุคลากรและพนักงานทำแซนด์วิชเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยใช้เวลาอย่างน้อย 70 ชั่วโมงก่อนการเข้าทำงานจริง อีกทั้งยังมีการจัดแข่งขันการประกอบแซนด์วิชเป็นประจำทุกๆ 2 ปีจากทั่วโลก โดยในปีนี้ประเทศไทยได้จัดการแข่งขันระหว่างพนักงานทำแซนด์วิช (Sandwich Artist) จำนวน 150 คน จาก 12 สาขา โดยผู้ชนะเลิศ ได้แก่ คุณถาวร จันทร์เทศ จากสาขาซับเวย์ทิพพลาซ่า พัทยา เป็นตัวแทนของซับเวย์ ประเทศไทย ไปร่วมแข่งขันในระดับนานาชาติ Subway Global Sub Jammers Competition ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ที่ฮาวาย คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ฮอโนลูลู, ฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณสลิลทิพย์ ทิพย์ธรานุกูล ร้านซับเวย์ สีลม 64 โทร.0-2237-5460
คุณนพวรรณ จุงสกุล บริษัท แอด แคมเปญ จำกัด โทร.0-2234-6303
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit