กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพิกถอนบริษัทรอยเนท จำกัด (มหาชน) (ROYNET) จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (mai) ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2548 เป็นต้นไป โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 171 (4) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เนื่องจากบริษัทฝ่าฝืนไม่นำส่งงบการเงินภายในกำหนดเวลา ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืน ละเลย ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์อย่างร้ายแรง โดยจะอนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 4 มีนาคม 2548 ก่อนสิ้นสภาพจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2546 ตลาดหลักทรัพย์ได้ประกาศให้ ROYNET เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนอันเนื่องมาจากบริษัทไม่นำส่งงบการเงินประจำปี 2545 ซึ่งล่าช้าเกินกว่า 180 วัน อีกทั้งยังไม่นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 และ 2 ปี 2546 โดยกำหนดให้บริษัทนำส่งงบการเงินที่ล่าช้าทั้งหมดภายในวันที่ 1 มีนาคม 2547 มิฉะนั้นตลาดหลักทรัพย์อาจพิจารณาเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท แต่บริษัทไม่สามารถนำส่งงบการเงินดังกล่าวได้ คณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์จึงได้ผ่อนผันระยะเวลาให้ 2 ครั้ง คือให้นำส่งภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2547 และครั้งสุดท้ายผ่อนผันให้นำส่งงบการเงินประจำปี 2545 งบการเงินรายไตรมาสและประจำปี 2546 รวมทั้งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2547 ภายในวันที่ 15 กันยายน 2547 ตามที่บริษัทร้องขอ ทั้งนี้ งบการเงินที่บริษัทนำส่งต้องไม่ปรากฏว่ารายงานของผู้สอบบัญชีเข้าลักษณะประเภทใดประเภทหนึ่งดังต่อไปนี้
1. ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นแบบมีเงื่อนไขเกี่ยวกับข้อบกพร่องในระบบควบคุมภายในหรือระบบบัญชีไม่สมบูรณ์ หรือบริษัทไม่ปฏิบัติตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป หรือ
2. ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน หรือ
3. ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2547 บริษัทได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2545 และ 2546 ฉบับที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแล้ว โดยรายงานความเห็นของผู้สอบบัญชี เป็นแบบไม่มีเงื่อนไขแต่มีข้อสังเกตที่อาจมีผลกระทบอย่างเป็นสาระสำคัญอย่างมากต่องบการเงิน แต่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไม่รับงบการเงินดังกล่าว และแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ได้สั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินดังกล่าว เนื่องจากงบการเงินของบริษัทไม่เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และสำนักงานได้ขอให้ผู้สอบบัญชีของบริษัทชี้แจงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งแจ้งให้บริษัทแก้ไขงบการเงินดังกล่าวให้ถูกต้อง นอกจากนี้บริษัทยังมิได้นำส่งงบรายไตรมาส 1 และ 2 ปี 46 ซึ่งล่าช้ากว่า 360 วัน คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์จึงสั่งเพิกถอน ROYNET จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (mai) ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2547 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ยื่นหนังสือขออุทธรณ์การเพิกถอนหลักทรัพย์มายังตลาดหลักทรัพย์โดยให้คำรับรองต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าบริษัทจะจัดทำและนำส่งงบการเงินที่ถูกต้องและครบถ้วนและจะนำส่งแผนธุรกิจที่มีสาระสำคัญในการเพิ่มทุนใหม่และธุรกิจใหม่ที่สามารถปฏิบัติได้ทันทีให้กับตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 3 เดือนนับจากวันที่ 6 ตุลาคม 2547 โดยหากบริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ถูกต้องและครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนดทางบริษัทยินดีและยินยอมรับตามคำสั่งเพิกถอนหลักทรัพย์ ในระหว่างการพิจารณาคำขอตามหนังสือของบริษัท ตลาดหลักทรัพย์จึงได้เลื่อนกำหนดการเพิกถอนหลักทรัพย์ออกไปก่อน
เมื่อวันที่ 8 ถึง 9 ธันวาคม 2547 บริษัทนำส่งงบการเงินประจำปี 2545 และ 2546 ฉบับแก้ไขตามคำสั่งของสำนักงาน ก.ล.ต.และนำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 2 และ 3 ปี 2546 และ 2547 โดยผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข แต่ยังคงมีข้อสังเกตบางประการ จากงบการเงินฉบับแก้ไขตามคำสั่งของสำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อเปรียบเทียบกับฉบับก่อนแก้ไขปรากฏว่า
รายการบัญชีที่สำคัญที่ถูกสั่งการให้แก้ไขได้แก่ กรณีที่บริษัทบันทึกรายการสินทรัพย์ถาวรที่สูญหายไปจากทะเบียนและรายการค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจและไม่มีเอกสารประกอบ ให้เป็นลูกหนี้กรรมการ (ชุดเดิม) ทั้งที่ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะใช้สิทธิเรียกร้องให้อดีตกรรมการชดใช้ความเสียหายดังกล่าวได้หรือไม่ ส่วนผู้สอบบัญชีของบริษัทคือนายอนุรักษ์ ลีลาปิยมิตรสังกัดบริษัท บีดีโอ ริชฟิลด์ จำกัด นั้น สำนักงาน ก.ล.ต. อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดการปฏิบัติงาน และจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2548 ครบกำหนด 3 เดือนตามที่บริษัทร้องขอผลปรากฎว่าบริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ถูกต้องครบถ้วนตามที่ได้ให้คำรับรองไว้ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวคือ บริษัทได้นำส่งข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดในการปรับปรุงการดำเนินงาน แต่แผนการเพิ่มทุนที่แจ้งไว้ยังไม่มีกรอบเวลาชัดเจนในการดำเนินการและไม่มีข้อมูลที่แสดงว่าจะมีความเป็นไปได้จริง ไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการเข้าร่วมทุนของผู้ร่วมทุนใหม่ นอกจากนี้ ธุรกิจใหม่ของบริษัทที่นำเสนอตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นและยังไม่สามารถปฏิบัติได้ทันที อีกทั้งไม่มีกำหนดการในการดำเนินการ จึงไม่อาจถือได้ว่าบริษัทได้จัดทำแผนธุรกิจที่มีสาระสำคัญในการเพิ่มทุนใหม่และธุรกิจใหม่ที่สามารถปฏิบัติได้ทันทีตามเงื่อนไขที่ได้แจ้งไว้ ตลาดหลักทรัพย์จึงยังคงเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท รอยเนท จำกัด (มหาชน) จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่(mai) โดยมีกำหนดการดังนี้
1. ประกาศสั่งเพิกถอนหลักทรัพย์ ROYNET ระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2548
2. อนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 4 มีนาคม 2548
3. หลักทรัพย์ของบริษัทจะสิ้นสภาพจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2548 เป็นต้นไป
พร้อมนี้ ตลาดหลักทรัพย์ขอให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปได้ใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท เนื่องจากตามข้อมูลที่ปรากฏในงบการเงินของบริษัทฉบับที่แก้ไขตามคำสั่งของสำนักงาน ก.ล.ต. แสดงว่า ณ 30 กันยายน 2547 บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจนติดลบถึง 59.34 ล้านบาท และมีผลการดำเนินงานขาดทุนอย่างต่อเนื่องในระดับที่มีนัยสำคัญ มีภาระหนี้สินเป็นจำนวนมาก บริษัทอยู่ระหว่างแก้ไขการ ดำเนินงาน และไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจของบริษัทซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัท การตัดสินใจลงทุน และการเปลี่ยนแปลงในราคาหลักทรัพย์ของบริษัท
เนื่องจากกรณีดังกล่าวนี้อาจส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ได้ ดังนั้น เพื่อให้หลักทรัพย์ดังกล่าวสามารถมีการซื้อขายต่อไปได้ตามสภาพความเป็นจริงตลาดหลักทรัพย์ จึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 24(3) และ (6) แห่งข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับการซื้อขาย การชำระราคา และการส่งมอบหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ.2542 กำหนดให้ราคาซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทดัง กล่าวบนกระดานหลักในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2548 ไม่มีกำหนดราคาสูงสุดและต่ำสุด
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร :
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 - 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037 /
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 - 2049--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit