อีสเทิร์นไวร์ได้รับการปลดเครื่องหมาย SP เตรียมยื่นขอกลับเข้าเทรดในหมวดปกติ

23 Aug 2004

กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--สยามพีอาร์ คอนซัลแทนท์

อีสเทิร์นไวร์ได้รับการปลดเครื่องหมาย SP เตรียมยื่นขอกลับเข้าเทรดในหมวดปกติ พร้อมประกาศผลประกอบการรอบ 6 เดือน มียอดขาย 357 ล้านบาท กำไรกว่า 116 ล้านบาท

อีสเทิร์นไวร์ ได้รับการประกาศจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ปลดเครื่องหมาย SP ในวันนี้ (23 ส.ค. 47) พร้อมเตรียมยื่นขออนุมัติกลับเข้าเทรดในหมวดปกติในวันที่ 1 กันยายน 2547 ยืนยันศักยภาพขององค์กรด้วยตัวเลขผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนของปีนี้ที่มียอดขายกว่า 356.88 ล้านบาท กำไรกว่า 116 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 8,000% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พร้อมเตรียมโรดโชว์กับนักลงทุนในงาน Opportunity Day ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นายภิรมย์ ปริยวัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ EWC ผู้ผลิตและจำหน่ายลวดเหล็กแรงดึงสูงที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมก่อสร้าง ลวดขอบล้อยางซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และลวดเชื่อมไฟฟ้าซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเชื่อมโลหะ เปิดเผยว่า ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนมาก โดยมียอดขายทั้งสิ้น 356.88 ล้านบาท จาก 269.16 ล้านบาทในปี 2546 คิดเป็นอัตราการเติบโตทั้งสิ้น 32.59% หากคิดเฉพาะในไตรมาส 2/2547 บริษัทมียอดขายทั้งสิ้น 187.83 ล้านบาท กำไรสุทธิในไตรมาส 2 ทั้งสิ้น 50 ล้านบาท ส่วนรอบ 6 เดือนกำไรทั้งสิ้น 116 ล้านบาท เติบโตกว่า 8,000% ทั้งนี้เป็นผลมาจากการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ตลอดจนการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง ทำให้บริษัทได้รับผลดีจากการเติบโตดังกล่าว ผนวกกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นและการบริหารงานใหม่ ทำให้การบริหารกิจการเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทฯ จึงได้ยืนคำร้องขอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการขออนุมัติปลดเครื่องหมาย “SP” และทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีคำสั่งอนุมัติให้ย้ายกลับเข้าสู่หมวดวัสดุก่อสร้างและปลดเครื่องหมาย “SP” ของบริษัทแล้วในวันนี้ (23 สิงหาคม) พร้อมกับเตรียมกลับเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในหมวดวัสดุก่อสร้างในวันที่ 1 กันยายน 2547 โดยบริษัทฯ ได้เตรียมนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนในงาน Opportunity Day ในวันอังคารที่ 31 สิงหาคมศกนี้ ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เวลา 10.00-11.30 น.

อนึ่ง บริษัท อีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) มีลักษณะเป็น Holding Company โดยมีบริษัทย่อยคือ บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (RWI) ประกอบธุรกิจลวดเหล็กแรงดึงสูงชนิดเส้นเดี่ยว (PC-wire) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตเสาเข็ม เสาไฟฟ้า แผ่นพื้นสำเร็จรูป ลวดเหล็กแรงดึงสูงชนิดตีเกลียว (PC-Strand) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น คานสะพาน เสาเข็มขนาดใหญ่ ลวดขอบล้อยาง (Tyre Bead Wire) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และ ลวดเชื่อมไฟฟ้า (Welding Wire) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเชื่อมโลหะ ทั้งนี้ บริษัท มีนโยบายและแผนงานที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับวัสดุก่อสร้าง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและครบวงจร ในขณะเดียวกันก็จะลงทุนในอุตสาหกรรมประเภทอื่นที่มีแนวโน้มในการเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ และยังเป็นการทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้น ทั้งนี้ในการบริหารกิจการ บริษัทฯ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นหลัก

สำหรับการดำเนินแผนงานด้านการตลาดทุกผลิตภัณฑ์ในเครือโดยใช้ กลยุทธ์การตลาด ดังนี้คือ

1. สินค้าทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001 : 2000 และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ของกระทรวงอุตสาหกรรม และผลิตตามมาตรฐานสากลทั่วไป เช่น มาตรฐาน ASTM, BS, AS จึงให้ความมั่นใจด้านคุณภาพได้เป็นอย่างดี

2. หาช่องทางธุรกิจใหม่ ๆ

3. เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าหลายชนิด และเป็นผู้ผลิตลวดขอบล้อยางเพียงรายเดียวในประเทศไทย โดยมีประสบการณ์การผลิตมามากกว่า 10 ปี

4. นโยบายการตั้งราคาใกล้เคียงกับคู่แข่ง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมของบริษัท และส่วนแบ่งตลาด

5. เน้นการบริการหลังการขาย โดยการติดตามและดูแลผลิตภัณฑ์ที่ได้จำหน่ายไปแล้ว พร้อมให้บริการด้านการสอบเทียบเครื่องมือวัดต่าง ๆ ตลอดจนการสอบถามปัญหาการใช้ผลิตภัณฑ์และการบริการของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงานให้ความลูกค้าเกิดความพึงพอใจในคุณภาพของสินค้าและการบริการของบริษัทยิ่งขึ้น

6. เพิ่มกำลังการผลิต PC-Wire โดยลงทุนในเครื่องจักรเพิ่มเติม

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

จิดาภา ประมวลทรัพย์, ประกาศิต นันป้อ

บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด

โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 32, 33, 0-1817-7153, 0-6339-0404

โทรสาร 0-2276-8552, 0-2693-6920--จบ--

--อินโฟเควสท์ (นห)--