กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค
คิวคอน เดินหน้าเต็มสูบ รุกสร้างโรงงาน 3 แห่งรวด มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ตั้งเป้ากำลังการผลิต 12 ล้านตารางเมตรภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 รองรับตลาดอสังหาฯ ขยายตัว พร้อมรุกเปิดตลาดต่างประเทศตลาดปี 47 ตลาดรวมเติบโตอีก 50% เผยปัจจุบันมุ่งสร้างความเข้าใจ คุณสมบัติของคอนกรีตมวลเบาให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบ ด้านยอดขายไตรมาสที่ 1 มีกำไรสุทธิแล้ว 63 ล้านบาท
นายพยนต์ ศักดิ์เดชยนต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Q-CON ผู้นำในด้านการผลิตและจำหน่ายคอนกรีตมวลเบา เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา โดยเฉพาะตัวเลขที่อยู่อาศัยจดทะเบียนที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งในส่วนของที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงที่อยู่อาศัยโดยรวมทั่วประเทศ ส่งผล ให้กลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างได้รับผลดีจากยอดสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ดังนั้น ในส่วนของบริษัทฯ จึงวางแผนขยายฐานการผลิตคอนกรีตมวลเบาเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวจาก 3 ล้านตารางเมตต่อปี เป็น 12 ล้านตารางเมตร ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2548 โดยการจัดสร้างโรงงานอีก 3 แห่ง ซึ่งประกอบไปด้วย โรงงานที่ 2 และ 3 ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทฯ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มูลค่าการลงทุนโรงละ 650 ล้านบาท มีกำลังการผลิตโรงละ 3 ล้านตารางเมตรต่อปี โดยโรงงานที่ 2 ได้เริ่มดำเนินการผลิตตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2547 ขณะที่โรงงานแห่งที่ 3 จะเริ่มทำการผลิตได้ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2548 ขณะที่โรงงานแห่งที่ 4 จะดำเนินการโดยบริษัท คิวคอนอีสเทอร์น จำกัด ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง มูลค่าการลงทุน 800 ล้านบาทมีกำลังการผลิตอีก 3 ล้านตารางเมตรต่อปี คาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตได้ภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2548 และกำลังดำเนินการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
“ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้ปริมาณการใช้วัสดุก่อสร้างก็ปรับตัวขึ้นตาม ซึ่งจากกำลังการผลิตจากโรงงานที่ 1 ในปัจจุบันไม่สามารถที่จะรองรับการขยายตัวของตลาดได้ ทำให้ต้องลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด ขณะที่ในปัจจุบันผู้บริโภคและผู้ประกอบการมีความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น ทำให้ตลาดในส่วนนี้น่าจะสามารถขยายตัวได้อีกมาก โดยในปี 2547 ตลาดของคอนกรีตมวลเบาน่าจะขยายตัวราว 50% นายพยนต์ กล่าว
นายพยนต์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันลูกค้าเป้าหมายของบริษัทฯ จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทรับสร้างบ้านและกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งบริษัทฯ มีนโยบายในการเร่งสร้างความเข้าใจในคุณสมบัติของคอนกรีตมวลเบาให้กับกลุ่มเป้าหมายได้รับทราบ
นอกจากนี้ยังหันมาเร่งในส่วนของการเปิดตลาดใหม่ๆ มากขึ้น อาทิ โครงการบ้านจัดสรร ซึ่งยังมีอีกหลายโครงการที่ยังไม่ได้ใช้คอนกรีตมวลเบา รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยคุณสมบัติหลักของคอนกรีตมวลจะประกอบไปด้วย การเป็นฉนวนกันความร้อน น้ำหนักเบา ทนทาน แข็งแรง และกันไฟ
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2546 มียอดขายรวม 744 ล้านบาท มีกำไรสุทธิรวม 260 ล้านบาท เทียบกับปี 2545 ที่มีรายได้รวม 528 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 101 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ของปี 2547 มีรายได้รวม 188 ล้านบาท มีกำไรสุทธิรวม 63 ล้านบาท
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค จำกัด คุณภัทธิรา บุรี / คุณฤดี ธรรมเทียร
โทร. 02-937-4735 แฟ็กซ์.02-937-4596
อีเมล์ . [email protected]จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit