เงินทุนธนชาติ โชว์ผลกำไร ไตรมาส 2 เท่ากับ 801 ล้านบาท งวด 6 เดือน เท่ากับ 1,390 ล้านบาท

21 Jul 2004

กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--ธนชาติ

บริษัทเงินทุน ธนชาติ ประกาศผลการดำเนินงาน ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2547 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 801 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.3 กำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกเท่ากับ 1,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นดังกล่าวมาจากการที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทขยายตัวอย่างมากถึงร้อยละ 62.7 และผลประกอบการของบริษัทย่อยบริษัทร่วมส่วนใหญ่ยังมีผลกำไรที่ดี

นายปิยะพงศ์ อาจมังกร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน บริษัทเงินทุน

ธนชาติ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัท ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม เท่ากับ 178,476 ล้านบาท สำหรับกำไรสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อย เท่ากับ 801 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 40 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ยังผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี 2547 เท่ากับ 1,390 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 1.04 บาท โดยสาเหตุที่ทำให้กำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี 2547 เพิ่มขึ้นดังกล่าวมาจากการที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทขยายตัวอย่างมากถึงร้อยละ 62.7 อันทำให้รายได้จากการให้เช่าซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 64.3

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยบริษัทร่วมมีผลประกอบการดังนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิ 251.2 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.3 จากงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิ 197.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 233.2 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาติ จำกัด มีกำไรสุทธิ 36.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 91.9 บริษัท ธนชาติประกันภัย จำกัด มีกำไรสุทธิ 34.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 197.4 สำหรับบริษัทบริหารสินทรัพย์ทั้ง เอ็นเอฟเอส และ แม๊กซ์ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 302.3 ล้านบาท และ 6.9 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนบริษัท ธนชาติซูริคประกันชีวิต จำกัด มีผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 2.3 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 108.9

นายปิยะพงศ์ ยังเปิดเผยถึงธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทว่า ณ สิ้น ไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 ยอดลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อมีจำนวน 76,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 64.1 ของยอดเงินให้กู้ยืมทั้งหมด และเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่เท่ากับ 47,082 ล้านบาท ยอดลูกหนี้สินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 62.7 สำหรับยอดสินเชื่อเช่าซื้อที่ปล่อยใหม่ในไตรมาสที่ 2 ปี 2547 มีจำนวนสูงถึง 13,470 ล้านบาท เปรียบเทียบกับจำนวน 11,315 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.1 และยอดรวมจำนวนรถยนต์ที่บริษัทให้สินเชื่อเช่าซื้อ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2547 มีจำนวนถึง 243,974 คัน โดยเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้ว 54,344 คัน และเพิ่มจากสิ้นไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 106,211 คัน--จบ--

--อินโฟเควสท์ (นท)--