DE หุ้นน้องใหม่กลุ่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมขาย 9-10 กันยายนนี้ กำหนดราคาเสนอขายที่ 4.30 บาท

07 Sep 2004

กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์

DE หุ้นน้องใหม่ ของบริษัท ดี อี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ผู้นำในการประกอบการธุรกิจเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าไดสตาร์” เตรียมเข้าเทรดในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมขายในวันที่ 9-10 กันยายนศกนี้ โดยกำหนดราคาเสนอขายไว้ที่ 4.30 บาท คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนกันยายนนี้

นายวัฒน ตรีคันธา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี อี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท ดี อี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจขายเช่าซื้อสินค้ายี่ห้อ “ไดสตาร์” ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เครื่องใช้สำนักงาน รถจักรยานยนต์ และอื่นๆ พร้อมบริการก่อนและหลังการขายถึงบ้าน อาทิ บริการจัดส่งสินค้า ตรวจสอบข้อมูลผู้ขอเช่าซื้อ และเก็บค่างวดเช่าซื้อ ให้แก่กลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่างที่อาศัยอยู่นอกเขตเทศบาลในจังหวัดต่างๆ โดยซื้อสินค้าจากผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเพียงรายเดียว คือ บมจ. ไดสตาร์ อิเลคทริก คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯในสัดส่วนร้อยละ 28.22 เพื่อนำมาขายเช่าซื้อให้แก่ผู้บริโภคด้วยนโยบายการขายเข่าซื้อแบบเข้าถึงตัวลูกค้า ผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย 2 รูปแบบ คือ 1) การขายเช่าซื้อผ่านสาขา ซึ่งพนักงานบริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการขายเช่าซื้อให้แก่ผู้บริโภค และ 2) การขายเช่าซื้อผ่านตัวแทนขายเช่าซื้อ โดยบริษัทจะขายเช่าซื้อให้แก่ตัวแทนฯ และให้สิทธิในการนำสินค้าไปจำหน่ายต่อทั้งในรูปแบบการขายสดและเช่าซื้อ ทั้งนี้ ผู้บริโภคจะได้รับสินค้าและบริการในราคาและรูปแบบเดียวกันทั้งจากสาขาและตัวแทนฯ ณ 30 มิถุนายน 2547 กลุ่มบริษัทฯมีสาขาและตัวแทนฯ 70 แห่งและ 329 รายใน 74 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

บริษัทฯ มีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ ในการเป็นหนึ่งในผู้นำในภาคธุรกิจขายเช่าซื้อภายในประเทศ รวมถึงรักษาสถานะผู้นำการขายเช่าซื้อด้วยยอดขายอันดับ 1 ในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีแผนการพัฒนาการขายเช่าซื้อในระบบอื่น ๆ นอกเหนือจากระบบการขายเช่าซื้อผ่านสาขาและผ่านตัวแทนฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนการขยายพื้นที่การขายสู่ภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อให้มีเครือข่ายสาขาและตัวแทนฯ ที่ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายการขยายสาขาจำนวน 80 สาขา รวมเป็น 150 สาขาในปี 2550 และขยายเครือข่ายตัวแทนขายเช่าซื้อจาก 315 ราย เป็น 600 รายภายในช่วงระยะ 2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบายการดำเนินธุรกิจด้านการบริหารบัญชีลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ที่มีปัญหา (Distressed Assets Management) ของสถาบันการเงินซึ่งได้ปิดดำเนินกิจการไปในปี 2540 โดยปัจจุบันได้ประมูลซื้อสิทธิเรียกร้องลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระบบสถาบันการเงินเพื่อนำมาบริหารการเก็บเงินจำนวนรวม 1,119 ราย อีกทั้งกำลังอยู่ในขั้นตอนการประมูลซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวเพิ่มเติม

ปัจจุบัน บริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 480 ล้านบาท เรียกชำระแล้ว 370 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 370 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ บริษัทฯได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่กรรมการและพนักงานในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้รวม 10 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 2.08 ของทุนจดทะเบียน บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชน (IPO) จำนวน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 22.92 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “DE” และจะเปิดให้ประชาชนจองซื้อได้วันที่ 9-10 กันยายนนี้ รวมจำนวนที่นำหุ้นออกเสนอขายทั้งสิ้น 110 ล้านหุ้น โดยเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบัน 33 ล้านหุ้น ให้กับบุคคลทั่วไป 77 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายไว้ที่ 4.30 บาท ซึ่งเงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้จำนวน 473 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จาการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ไปใช้เพื่อชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท สำหรับการขยายธุรกิจต่อไป

ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปของบริษัท ดีอีแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (IPO) ทั้งสิ้นจำนวน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 22.92 ของทุนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน มีบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และมีบริษัทหลักทรัพย์อื่น ๆ ร่วมจัดจำหน่ายอีก 6 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ อินเทลวิชั่น จำกัด(มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด โดยเชื่อมั่นว่า หุ้นของ ดี อี แคปปิตอล จะเป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจของนักลงทุน และคาดการณ์ว่า จะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ภายในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :

จิดาภา ประมวลทรัพย์, วรรณารี ศิลปงาม

บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด

โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 32, 34, 0-1817-7153

โทรสาร 0-2693-6919-20

E-mail: [email protected]จบ--

--อินโฟเควสท์ (นท)--