กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย)
“ถ้ามีความศรัทธา มนุษย์สามารถทำได้ทุกอย่าง” แธ็ตเชอร์ผู้ยากจนกล่าวกับบุตรชายเอาไว้เช่นนั้น “มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมได้” แต่ในยุโรป ยุคศตวรรษที่ 14 ชะตากรรมมิอาจกำหนด เพราะชะตากรรมมนุษย์ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
สำหรับวิลเลี่ยม บุตรชายของแธ็ตเชอร์ผู้ยากไร้ ผู้มีชาติกำเนิดแสนต่ำต้อย มันดูเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจที่เขาจะทำใจรับได้ว่าความฝันที่จะได้เป็นอัศวินนั้นเป็นเพียงความฝันลมๆแล้งๆในวัยเด็ก ในยุคสมัยที่การเลื่อนสถานะยังไม่ใช่แนวคิดที่ผู้คนยอมรับได้ ชะตากรรมจึงมิอาจเปลี่ยนแปลงในชั่วข้ามคืน ผู้คนต้องตายไปในสถานะเดิมกับเมื่อถือกำเนิดมา นั่นคือข้อกำหนดแห่งธรรมชาติ
แต่แล้ววันหนึ่ง ในการแข่งขันต่อสู้ด้วยทวนที่เหล่าอัศวินต้องควบม้าโรมรันเข้าหากัน เพื่อทดสอบทักษะ ประสาทรับรู้ และเสียงเพลง We will rock you ของวงควีน ได้กระตุ้นความเร้าใจของการแข่งขันด้วยเนื้อร้องดลใจที่ว่า สักวันจะต้องเป็นใหญ่ โชคชะตาได้เปิดโอกาสให้วิลเลี่ยมได้ลงสนาม เขาได้แปลงสภาพตัวเองให้กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ตระกูลสูง อัลริช วอน ลิชเทนสตีน แห่งเจลเดอร์แลนด์ ผู้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเสียงควบของฝีเท้าม้าที่ดังราวอัสนี เสียงร้องกึกก้องของเหล่าประชา และความร้อนแรงของดนตรีร่วมสมัย
A Knight’s Tale ซึ่งผสมผสานระหว่างเรื่องราวการเดินทางผจญภัย เรื่องรัก และฉากแอ็คชั่น เมื่อชายหนุ่มผู้หนึ่งตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเอง เอาชนะหัวใจของหญิงสาวแสนสวย และจัดการเขย่าโลกยุคกลางของเหล่าอัศวิน
A Knight’s Tale ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่อง "The Canterbury Tales" ของ Chaucer นำแสดงโดย Heath Ledger (จากเรื่อง The Patriot, Monster’s Ball) Shannyn Sossamon (จากเรื่อง 40 Days, 40 Nights) และ Mark Addy (จากเรื่อง The Full Monty)--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit