สนต. เตรียมระดมสถาบันการศึกษาทั่วโลกอีกครั้ง ในงานนิทรรศการศึกษาต่อต่างประเทศ 20 - 21 มีนาคม นี้

09 Mar 2004

กรุงเทพฯ--9 มี.ค.--คิท แอนด์ คิน

สมาคมไทยแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ (สนต.) ดึงสถาบันการศึกษาจากทั่วโลกเข้าร่วมงานนิทรรศการศึกษาต่อต่างประเทศ ครั้งที่ 12 ชี้ธุรกิจบริการด้านการศึกษามีแนวโน้มเติบโต หลังเศรษฐกิจกระเตื้อง

นายอุดม ดิษฐสำเริง นายกสมาคมไทยแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ (สนต.) กล่าวว่า สมาคมฯ ได้ทำการติดต่อกับสถาบันการศึกษาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อเข้าร่วมในนิทรรศการศึกษาต่อต่างประเทศ ที่ทางสมาคมฯ ร่วมกับศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ทั้ง 30 แห่ง ได้จัดให้มีขึ้นเป็นครั้งที่ 12 โดยมีสถาบันการศึกษาทั้งจากภาครัฐบาลและเอกชนของประเทศสำคัญๆ กว่า 13 ประเทศ เข้าร่วมงานเช่นเดียวกับทุกครั้งที่ผ่านมา อาทิ อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมัน เป็นต้น และมีหลักสูตรต่างๆ ทั้งภาษาอังกฤษ มัธยมศึกษา ปริญญาตรี/โท/เอก หลักสูตร IT, Art, Design, Business, Marketing, Hotel Management, Engineering, Science และอื่นๆ อีกมากมาย

ภายในงานจะได้พบกับตัวแทนจากสถาบันการศึกษาทุกระดับของแต่ละประเทศ ที่จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนการสอน การรับสมัคร รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ร่วมฟังการบรรยายเกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศ แหล่งทุน การสมัครเรียน ความเป็นอยู่ ค่าใช้จ่าย การขอวีซ่า รวมทั้ง เปรียบเทียบการเรียน MBA ระหว่างอังกฤษ อเมริกา และออสเตรเลีย การสอบ TOEFL / GMAT / GRE และ IELTS รวมทั้งรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับทุนการศึกษา โดยเจ้าหน้าที่จากส่วนการศึกษาและฝึกอบรมในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) พร้อมทั้งมีสิทธิ์ลุ้นรับทุนการศึกษาจำนวนมากจากสถาบันที่เข้าร่วมงาน และชิงรางวัลตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-สิงคโปร์ และกรุงเทพฯ-เชียงใหม่

นายอุดมกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระแสความต้องการในการเรียนต่อต่างประเทศของคนไทยมีเพิ่มมากขึ้น โดยจากการสอบถามผู้ที่สนใจเข้าชมนิทรรศการศึกษาต่อต่างประเทศ ครั้งที่ 11 ซึ่งทางสมาคมฯ ได้จัดให้มีขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 ที่ผ่านมา นั้นพบว่า จากจำนวนผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้นประมาณ 8,000 คน พบว่า ตัวเลขจำนวนผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อต่างประเทศนั้น มีจำนวนสูงขึ้น

เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากสภาพทางเศรษฐกิจของประเทศที่กระเตื้องขึ้น โดยประเทศที่มีผู้สนใจเดินทางไปศึกษาต่อมากที่สุด ยังคงเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งคิดเป็น 21% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ตามมาด้วยออสเตรเลีย อังกฤษ และนิวซีแลนด์ ซึ่งคิดเป็น 19%, 16% และ 10% ตามลำดับ

"จากผลสำรวจพบว่า 39% ของผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อต่างประเทศนั้น ต้องการไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ในขณะที่ 24% ต้องการไปศึกษาภาษาอังกฤษ และ 8% ต้องการศึกษาในระดับปริญญาเอก ส่วนการศึกษาในระดับอื่น ๆนั้นมีเปอร์เซ็นต์อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน" นายอุดมกล่าว

ผู้สนใจสามารถเข้าชมงานได้พร้อมรับคู่มือศึกษาต่อต่างประเทศ ปี 2004 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ระหว่างวันที่ 20 - 21 มีนาคม 2547 นี้ ระหว่างเวลา 11.00 - 17.30 น. ณ ชั้น 6 โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท ประตูน้ำ

รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

อาภาภรณ์ กุหลาบศรี โทร. 0-2663-3226 ต่อ 39 หรือ 0-9788-4868--จบ--

-นห-