ธนูลักษณ์เปิดเกมรุกตลาดผ้าผืน อวดโฉมนวัตกรรมล่าสุด Cotta Zilk ผ้าไหมไทยสายพันธุ์ใหม่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่มุ่งสร้างแบรนด์ไทย หวังขยายตลาดอินเตอร์

09 Jun 2004

กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--ลักขณา คอมมิวนิเคชั่นส์

บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด(มหาชน) บริษัทในเครือสหพัฒน์ เจาะเซ็คเม็นท์ใหม่ ผลิตผ้าผืน CottaZilk...ผ้าไหมไทยสายพันธุ์ใหม่สนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ กลุ่มบน ชูจุดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาดหลังสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์จนเกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ของโลกอุตสาหกรรมผ้า ที่ผสมผสานเส้นใยไหมและใยฝ้ายคุณภาพเข้าด้วยกันจนได้ผ้าคุณสมบัติเด่นทียังคงความมันวาวหรูหราแบบผ้าไหม แต่ใส่สบายและดูแลง่ายแบบผ้าฝ้ายมีความทันสมัย ใส่ได้ทุกเพศทุกวัน และทุกโอกาสมั่นใจสามารถขยายตลาดไปสู่คนรุ่นใหม่วัยทำงาน หลังแบรนด์ดังอย่าง ARROW, EXCELLENCY, GUY LAROCHE, BSC, DAKS นำไปผลิตเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูป และพร้อมขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศในปีหน้า

คุณบิณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานสหกรุ๊ป เปิดเผยว่าภายหลังจากการที่บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสหพัฒน์ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งในธุรกิจอุตสาหกรรมเสื้อผ้า เนื่องจากมีผลประกอบการเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งในปี 2546 ที่ผ่านมาบริษัทฯมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปและเครื่องหนังทั้งในประเทศและต่างประเทศประมาณร้อยละ 58 และ 42 ตามลำดับ โดยมีรายได้จากการขายภายในประเทศ 908.20 ล้านบาท และต่างประเทศ 660.16 ล้านบาท รวมเป็นเงินรายได้ทั้งสิ้น 1,568.36 ล้านบาท

ผลประกอบการที่ดีเช่นนี้ทำให้บริษัทฯ ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าให้มีคุณภาพเพื่อที่จะขยายตลาดให้กว้างขวางมากขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น เพราะจากการพิจารณาถึงภาวะของการแข่งขันของอุตสาหกรรมผ้าในตลาดโลกจะมีแนวโน้มการแข่งขันที่สูงขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ทำให้ผู้ผลิตผ้าในประเทศไทยสามารถแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศได้คือ การพัฒนาคุณภาพของผ้าทั้งในด้านรูปแบบดีไซน์ รวมถึงการสร้างจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้เหนือกว่าคู่แข่ง

ล่าสุดบริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ผ้า CottaZilk ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ของอุตสาหกรรมผ้าของโลก เป็นผ้าที่มีส่วนผสมของเส้นใยไหมและเส้นใยฝ้าย ที่มีคุณสมบัติเด่นพิเศษ คือ คงความมันวาวหรูหราแบบผ้าไหมแต่ใส่สบายและดูแลรักษาง่ายแบบผ้าฝ้าย ใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย และทุกโอกาสซึ่งจะทำให้ตลาดทำผ้าไหมของประเทศไทยมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น และถือเป็นการต่อยอดอุตสาหกรรมปลายน้ำในเชิงพาณิชย์ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้ส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองแฟชั่นอีกทางหนึ่ง

คุณวารินทร์ ลีลานุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า CottaZilk เป็นผ้าที่มีส่วนผสมของเส้นไยใหม และเส้นใยฝ้าย ดังนั้นตราสินค้าคำว่า CottaZilk จึงเกิดจากการรวมคำว่า Cotton-Silk ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความจดจำและเข้าใจในตัวสินค้าได้ง่ายขึ้น

"เส้นไหมไทยมีความโดดเด่น สวยงาม ไม่เหมือนกับเส้นไหมของประเทศต่างๆ ในโลก เพราะให้ความรู้สึกนุ่มนวล มีความมันเงางาม ดูหรูหรา จนได้รับสมญานามว่า The Queen Of Silk จุดนี้เองที่ทำให้กลายเป็นข้อจำกัดการเติบโตของตลาดผ้าไหม เพราะผ้าไหมจะเหมาะกับการสวมใส่ไปในงานมงคล หรืองานที่มีพิธีการเท่านั้น และวัยของผู้สวมใส่ผ้าไหมนั้นก็ถูกจำกัดอยู่แค่ผู้ใหญ่ ภาพของผ้าไหมถูกมองว่าไม่ทันสมัยบวกกับการดูแลรักษาที่ยุ่งยาก ตลาดของผ้าไหมไทยจึงไม่มีการขยายตัว ถูกจำกัดอยู่ในวงแคบเท่านั้น ดังนั้นเราจึงต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สามารถตอบสนองกับกลุ่มลูกค้าได้ "คุณวารินทร์ กล่าว

คุณวารินทร์ กล่าวต่อว่า บริษัท ธนูลักษณ์ฯ จึงได้ทุ่มเทใช้เวลากว่า 3 ปี ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ซึ่ง"เส้นด้าย" ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาผ้าให้มีคุณภาพ บริษัทฯ จึงได้เริ่มเข้าไปส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอย่างจริงจัง ตั้งแต่การส่งเสิรมให้ชาวบ้านได้พัฒนาการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม พัฒนากระบวนการสาวเส้นให้มีคุณภาพ เพื่อให้ได้เส้นไหมที่สม่ำเสมอจนสามารถคตัดแยกเส้นไหมที่มีปุ่มปมมากและปุ่มปมน้อยออกจากกัน ซึ่งจะทำให้ได้เส้นไหมที่มีปุ่มหรือปมลดลงจนหลายเป็นไหมที่มีคุณภาพดี

หลังจากนั้นบริษัท ธนูลักษณ์ฯ จึงได้นำเส้นไหมดังกล่าวมาวิจัยและพัฒนาปรับปรุงด้วยเทคนิคอันทันสมัย และได้นำเส้นด้ายฝ้ายคุณภาพพิเศษที่เป็นด้ายชนิดใยยาว (Combed cotton yarn) มีความเรียบ แข็งแรง และเงามันสูงกว่าเส้นด้านทั่วไป นำมาทอผสานกันด้วยเทคนิคการทอด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่ของโรงงานอุตสาหกรรมที่ทันสมัย มีรอบความเร็วสูงกว่าการทอในระบบเดิม รวมถึงการตกแต่งเนื้อผ้าด้วยสูตรพิเศษจนได้ผ้า CottaZilk ที่มีคุณภาพ จนถือได้ว่าเป็นนวตกรรมล่าสุดในวงการอุตสาหกรรมผ้ารายแรกของโลกเลยทีเดียว ปัจจุบันนี้เรามีกำลังการผลิต 500,000 หลา ต่อปี

ผ้า CottaZilk เป็นผ้าที่รวมเอาจุดเด่นของเส้นใยฝ้ายและเส้นใยไหมเข้าด้วยกัน คือความสวยงามโดดเด่นเช่นผ้าไหม แต่มีความนุ่มนวงเหมือนผ้าฝ้าย เพราะมีผิวสัมผัสที่เรียบลื่น ผิวสัมผัสไม่แห้ง มีความมันเงางามพอดี ดูดซับความชื้นและระบายอากาศได้ดี ทำให้สวมใส่สบาย สามารถปรับสภาพได้ตามสภาวะอากาศ สวมใส่แล้วจะรู้สึกเย็นสบายในสภาพอากาศที่ร้อนและรู้สึกอบอุ่นในสภาพอากาศที่เย็น เนื้อผ้าไม่แนบตัว บางเบา แต่มีน้ำหนักพอดี คงรูป สามารถจับจีบได้ดี ง่ายในการดูแลรักษา การทำความสะอาดสามารถซักได้ด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า ซึ่งเป็นการดูแลรักษาที่ง่าย และสะดวกกว่าการดูแลรักษาเนื้อผ้าไหม 100%

คุณวารินทร์ กล่าวว่า ด้วยคุณสมบัติเด่นของผ้า CottoZilk จึงเชื่อมั่นว่าผ้า "CottoZilk" จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันผ้า CottoZilk ได้ถูกนำมาผลิตเป็นเสื้อเชิ้ตภายใต้แบรนด์เสื้อเชิ้ตของบริษัทฯ ที่เป็นผู้นำทางการตลาดในประเทศไทย เช่น ARROW, EXCELLENCY, GUY LAROCHE, BSC, DAKS ซึ่งสามารถสวมใส่ไปทำงานหรือใส่ได้ในโอกาสต่างๆ ได้

สำหรับเป้าหมายทางการตลาดในปลายปี 2547 นี้ เราจะขยายการขายผ้า "คอตต้า ซิลค์" กับ แบรนด์ชั้นนำในตลาดและนำเสนอเนื้อผ้าให้เหมาะสมกับความต้องการทั้งผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าผู้หญิงผู้ชาย และเสื้อเด็กรวมทั้งห้องเสื้อชั้นนำต่างๆ และคาดว่า ผ้า CottoZilk จะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคภายในประเทศสูงขึ้น เนื่องจากการนำเสนอจุดยืนที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ซึ่งไม่มีเวลาและต้องการความสะดวกสบาย ทั้งนี้จะส่งผลดีด้านการผลิตที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น และเป็นผลพวงที่ดีแก่กลุ่มชาวบ้าน เกษตรกร ผู้ปลูกหม่อน ผู้ผลิตไข่ ผู้เลี้ยงไหม ผู้สาวไหม และผู้ปั่นด้ายซึ่งถือว่าเป็นต้นน้ำของสายการผลิตผ้า CottoZilk เลยทีเดียว

"ผ้า คอตต้า ซิลค์" เราคงไม่แข่งในตลาดผ้าไหม 100% แต่เรามองที่ตลาดผ้าไหมผสมที่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศมากกว่า ซึ่ง ณ วันนี้ยังมีไม่มาก อีกส่วนหนึ่งเราต้องการตอบสนองความต้องการของลูกค้าระดับบน ที่อยากได้ผ้าดีๆ มาใช้ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีจำนวนมากพอสมควร" คุณวารินทร์ กล่าว

คุณวารินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดต่างประเทศมีหลายประเทศได้ให้ความสนใจ CottoZilk เป็นอย่างมาก ซึ่ง บริษัท ธนูลักษณ์ฯ ได้วางแผนที่จะเดินหน้าในเรื่องการส่งออกไปยังต่างประเทศในแถบยุโรปและอเมริกาเพื่อเพิ่มยอดขายให้สูงมากยิ่งขึ้น และคาดว่าอนาคตการส่งออกผ้าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นมาก ซึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดของธนูลักษณ์จะเน้นไปที่การทำอย่างไรที่จะให้ผู้บริโภคได้รู้จัก "คอตต้า ซิลค์" โดยการใช้การสื่อสารทางการตลาดภายในประเทศ จะมุ่งไปที่การจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น เน้นการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่อง ผ้าไหมไทยสายพันธุ์ใหม่ ที่หรู และง่ายต่อการดูแล ใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเวลา และทุกโอกาส อีกทั้งเร่งปลุกกระแสความภาคภูมิใจสินค้าไทย ในกลุ่มคนไทยรุ่นใหม่ ให้หันมาสนใจใช้ผลิตภัณฑ์ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ้าไหมไทยพันธุ์ใหม่...CottoZilk ซึ่งจะเอื้อประโยชน์โดยรวม ไปถึงธุรกิจแฟชั่น และอุตสาหกรรมสิ่งทอแบบครบวงจร

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ลักขณา คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (แอลคอม) โทร. 02-377 0127-8 02-375 2674-5, 02-375 2677 โทรสาร 02-375 2670 Email : [email protected] กรรมการผู้จัดการ ลักขณา จำปาฝ่ายประชาสัมพันธ์ : นิภาพร ดวงกุลสา, มาลี จิระเรืองฤทธิ์--จบ--

-ดพ/อพ-