กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--กบข.
นายสิงหะ นิกรพันธุ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ กบข.ชี้แจงถึงความพร้อมในการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดสินวัฒนาว่า ขณะนี้ กองทุนดังกล่าวพร้อมที่จะเสนอขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนที่เป็นข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจทั้งที่เกษียณและยังไม่ได้เกษียณอายุราชการ โดยกำหนดวันที่จะเริ่มเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกหรือ IPO ในระหว่างวันที่ 22 – 30 ธ.ค. ศกนี้ ในราคาหน่วยลงทุนละ 10 บาท โดยที่มูลค่าการซื้อในแต่ละครั้งจะต้องมีมูลค่าขั้นต่ำ ครั้งละ 5,000 บาท ส่วนการขายหน่วยลงทุนจะต้องมีมูลค่าขั้นต่ำครั้งละ 1,000 บาท โดยที่มูลค่าหน่วยลงทุนคงเหลือในบัญชีต้องไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท ดังนั้นผู้ลงทุนท่านใดที่สนใจสอบถามรายละเอียดไปได้ที่ บลจ.กสิกรไทย หมายเลข 0-2276-2233 หรือที่ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ
เรื่องราวน่ารู้จาก กบข.
สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจาก กบข. และวิธีการขอรับเงินคืนจาก กบข. กรณีสมาชิก ออกจากราชการตามโครงการในปี 2547
เมื่อสมาชิก กบข. ออกจากราชการจะต้องยื่นเรื่องขอรับเงินคืนจาก กบข. โดยติดต่อผ่านหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อกรอกแบบขอรับเงินคืน กบข. 008/1/2543 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
กรณีสมาชิกมีสิทธิและเลือกรับบำนาญ
สมาชิก กบข. ที่รับราชการก่อนวันที่ 27 มี.ค.2540 จะมีสิทธิได้รับบำนาญจากภาครัฐ และได้รับเงินประเดิม เงินสะสม เงินสมทบ เงินชดเชย และผลประโยชน์ตอบแทนของเงินดังกล่าว จาก กบข.
สมาชิก กบข. ที่รับราชการภายหลังวันที่ 27 มี.ค.2540 จะมีสิทธิได้รับบำนาญจากภาครัฐและ ได้รับเงินสะสม เงินสมทบ เงินชดเชย และผลประโยชน์ตอบแทนของเงินดังกล่าว จาก กบข.
มีเอกสารประกอบ ดังนี้
กรณีมีสิทธิและเลือกรับบำเหน็จ จะมีสิทธิได้รับบำเหน็จจากภาครัฐและเงินสะสม เงินสมทบ และ ผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวจาก กบข.
กรณีไม่มีสิทธิรับบำเหน็จบำนาญ สมาชิกจะได้รับเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวจาก กบข.
กรณีรับบำเหน็จ และไม่มีสิทธิรับบำเหน็จบำนาญ มีเอกสารประกอบ ดังนี้
ทั้งนี้ กรณีที่ออกจากราชการตามโครงการในปี 2547 จะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเงินก้อนจากทางราชการ และรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวจะดำเนินการโดย สำนักงาน กพ. ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงที่สำนักงาน กพ. หมายเลขโทรศัพท์ 0 2281 3333 ต่อ 2142-3 และ 0 2280 0896 หรือ WWW.OCSC.GO.TH
เก็บมาฝากสมาชิก กบข.
จ่ายน้อย แต่ออมมาก
ปัจจุบันเศรษฐกิจดีขึ้น เงินทองคล่องมือ ใช้จ่ายไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังเหมือนแต่ก่อนที่ผู้คนต่างเก็บเงินไว้ เพราะกลัวว่าไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย เห็นได้ชัดว่าในภาวะปัจจุบัน ทั้งบ้าน ทั้งรถ ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จะบำรุงความสุข เช่น โทรทัศน์ เครื่องเสียง โทรศัพท์มือถือ ที่ยอดซื้อและยอดจองมากมาย
ถ้าใครยังไม่มีก็ต้องหามาครอบครอง และถ้ามีแล้วก็ต้องไปเปลี่ยนให้เป็นรุ่นใหม่ แบบใหม่ล่าสุด ทั้งๆ ที่ไม่ทันคิดว่า เราต้องการของแต่ละอย่างไว้เพื่ออะไร ดูๆ แล้วน่าจะมีความสุขไปด้วยกับภาวะที่ทำให้ทุกคนมีความกล้าใช้จ่ายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
ดังนั้น เรามาดูกันว่า จะมีวิธีที่จะจ่ายน้อย แต่ออมมากได้อย่างไร
ง่ายที่สุดคือ "ต้องเอาชนะใจตัวเอง" เนื่องจากการจะจ่ายเงินส่วนมากเป็นความอยากของตัวเองทั้งนั้น ดังนั้น ต้องคิดหน้าคิดหลัง ถามตัวเองว่า วัตถุประสงค์ของการจะจ่ายเงินนั้นเพื่ออะไร ได้ประโยชน์สูงสุดจริงหรือไม่ โดยมีขั้นตอนในการเอาชนะใจตัวเองเพื่อจะลดค่าใช้จ่ายดังนี้
1.ต้องไม่เห่อซื้อสินค้าตามแฟชั่นนำสมัยล่าสุด หรือตามเพื่อนฝูงโดยเฉพาะสินค้าต่างประเทศ เพราะสินค้าพวกนี้จะมีราคาแพงเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่ความจริงผู้ซื้ออาจตกเป็นเหยื่อของการตลาด หรือการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ที่สร้างจุดขายที่โดนใจ เพื่อจะให้เราจ่ายเงินเราออกไปซื้อของนั้นๆ
2.ลดการใช้บัตรเครดิตลง เพราะถือว่าเป็นการใช้เงินล่วงหน้า ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่า มีแต่เราจะต้องออมเงินไว้เพื่ออนาคต ไม่ใช่ว่าเงินปัจจุบันเราไม่มีหรือมี แต่ไม่พอ แต่กลับไปเอาเงินอนาคตมาใช้ในปัจจุบันเพื่อสนองความต้องการโดยไม่คิดให้ถี่ถ้วน โดยที่อาจหาเงินไปจ่ายคืนในอนาคตไม่ได้ จนต้องเป็นหนี้เป็นสิน
ดังนั้น คิดง่ายๆ ว่าวงเงินที่บัตรแต่ละบัตรให้เราใช้จ่าย เราก็ไม่ควรที่จะต้องจ่ายให้เต็มวงเงิน เก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นจริงๆ เท่านั้นน่าจะดีที่สุด
3.ต้องมีสติในการจ่ายเงินซื้อของอยู่ตลอดเวลา ต้องเลือกซื้อแต่ของที่จำเป็นเท่านั้น และมีราคาเหมาะสมกับคุณภาพ ไม่ตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาขายสินค้า เพราะหลายคนซื้อของอย่างเมามัน บางครั้งยังไม่รู้เลยว่า ซื้ออะไรมาบ้าง
4.ถ้ามีเวลาว่างหางานพิเศษทำเพิ่มเติม เพราะนอกจากจะไม่ต้องใช้เงินแล้ว ยังจะได้เงินเพิ่มอีก แถมได้ฝึกปรือฝีมือการทำธุรกิจเอาไว้ เผื่อไว้สำหรับอนาคตที่มีแต่การเปลี่ยนแปลงเช่นในโลกปัจจุบัน เราจะได้รับมือได้ทัน
ประการสุดท้าย เมื่อต้องเลือกซื้อของขวัญสำหรับเทศกาลต่างๆ ควรเลือกของขวัญที่มีคุณค่าและราคาประหยัด หรืออาจจะทำเองก็ได้ การฝึกทำเองได้เก่งๆ อาจกลายเป็นอาชีพเสริม หรือเป็นอาชีพหลักไปก็ได้ หลายคนประสบความสำเร็จมาแล้ว
เมื่อเราคิดอย่างมีสติอยู่เสมอ การเอาชนะใจตนเองเพื่อให้ใช้จ่ายน้อยแล้ว ก็จะมีเงินเพื่อให้ออมมากขึ้นได้โดยไม่ยาก แต่ก็อย่างที่บอกไว้ว่า ทั้งหลายทั้งแหล่อยู่ที่ว่า เราจะเอาชนะใจตัวเองเพื่อ "จ่ายน้อย แต่ออมมาก" ได้หรือไม่
ทั้งนี้ถ้าเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำเสียอย่าง อะไรๆ ก็ต้องสำเร็จเสมอ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน.
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม2546
คอลัมน์ Financial Planing โดยคุณอมฤดา สุวรรณจินดา.
หากท่านมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ :-
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิกโทร. 1179 กด 6 เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่โดยตรง
หรือ email: [email protected]
หรือฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์กบข. ตู้ปณ. 19 ปณฝ. กระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ 10411--จบ--
-รก-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit