ไทยฟูจิซีร็อกซ์คงความเป็นผู้นำมุ่งขยายตลาดดิจิตัลมัลติฟังก์ชั่นระดับล่างพร้อม ตั้งเป้ารายได้กว่า 8,000 ล้านบาทในปี 2547

21 Oct 2003

กรุงเทพฯ--21 ต.ค.--เดนท์สุ ยังก์ แอนด์ รูบิแคม

ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ ชลากรกุล ประธานและกรรมการ บริษัท ไทยฟูจิซีร็อกซ์ จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดธุรกิจเครื่องถ่ายเอกสารได้ 40% จากมูลค่าของทั้งธุรกิจที่ประมาณการรวม 7,500 ล้านบาทต่อปี โดยมีรายได้สุทธิกว่า 321 ล้านบาทเพียงแค่ช่วงเดือนกันยายนเพียงเดือนเดียวเท่านั้น นับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงเกินกว่าที่คาดหมายไว้

สำหรับในด้านนโยบายแผนการตลาดในช่วงที่ผ่านมาบริษัทไทยฟูจิซีร็อกซ์ได้มีการขยายตลาด HIGH VALUE PRODUCT อันได้แก่ เครื่อง High Performance Printer & Digital Copier (Xerox Document Centre 490), Production Publishing (DocuTech 6135) และ Digital Production Color Press (DocuColor 6060) ไปสู่กลุ่มสถาบันการศึกษาให้กว้างขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน (มสธ., ม.กรุงเทพฯ, ม.ธุรกิจบัณฑิต) หันมาใช้เครื่องดิจิตัลมัลติฟังก์ชั่นในการจัดพิมพ์ตำราเรียนมากขึ้น เพราะช่วยแก้ไขจัดพิมพ์ เปลี่ยนแปลงข้อมูลในการพิมพ์แต่ละครั้งได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และยังสามารถควบคุมจำนวนพิมพ์ และค่าใช้จ่ายได้อย่างลงตัวมากที่สุด

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเน้นย้ำความสามารถของเครื่องดิจิตัลมัลติฟังก์ชั่น Xerox Document Centre C400/C320 (IMARI) ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมสุดยอดของเครื่องมัลติฟังก์ชั่นที่สามารถทำยอดขายได้สูงถึงกว่า 200 ล้านบาท ในระยะเวลาไม่ถึงครึ่งปี และ Xerox Document Centre C240 (ARITA) ในตลาดอย่างต่อเนื่อง การเน้นผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ (DocuWorks , DocuShare , Xcounter , FlowPort) ให้ตรงกับความต้องการของตลาดในแต่ละธุรกิจ และการรุกตลาดในกลุ่มสินค้ามัลติฟังก์ชั่นที่มีอัตราการพิมพ์น้อยกว่า 20 แผ่น / นาที ด้วยการเสนอโปรโมชั่นใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องมาจากนับตั้งแต่บริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัว Xerox Work Centre Pro 420 (eGret) ออกมา บริษัทฯ สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้ถึง 15% ของตลาดล่างเพียงชั่วระยะเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถทำการขยายตลาดในกลุ่มนี้ต่อไปในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน

สำหรับในปีหน้าบริษัทฯ วางแผนระยะยาวโดยการขยายช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น โดยเน้นขยายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพและมีการพัฒนาระบบในการให้บริการในแผนก (ICT Department) ให้มีความพร้อมและรองรับกับลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต พร้อมเตรียมปรับเปลี่ยนโครงสร้างทีมงานและเตรียม WORKING TEAM ขึ้นใหม่เพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะนำมาทำตลาดในปีหน้า รวมทั้งการพัฒนาระบบการสื่อสารระหว่างคอลล์เซ็นเตอร์กับผู้ปฏิบัติงานให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ ยังกล่าวอีกว่าในปีนี้บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกจากคณะทำงานเฉพาะกิจเอเปค (APEC TASK FORCE) ในการให้บริการเครื่องถ่ายเอกสารและเครื่องส่งโทรสาร ในช่วงการประชุมระดับผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย - แปซิฟิก หรือเอเปก 2003 ซึ่งคิดเป็นจำนวนรวมกว่า 100 เครื่อง โดยบริษัทฯ จัดให้มีเจ้าหน้าที่เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เริ่มมีการประชุมไปจนตลอดระยะเวลาการจัดงานที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 - 21 ตุลาคม 2546 โดยคาดว่าช่วงการประชุมดังกล่าวจะมีงานถ่ายเอกสารประมาณ 2 - 3 ล้านแผ่น

"การได้รับเลือกในครั้งนี้บริษัทฯ ไม่ได้หวังเรื่องรายได้จากผลกำไรหรือว่ายอดขาย แต่บริษัทฯ คาดหวังว่าจะส่งเสริมให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีแก่ฟูจิซีร็อกซ์ในการเป็นอุปกรณ์สำนักงานที่มีส่วนร่วมในงานสำคัญระดับชาติ ซึ่งนอกเหนือจากงานประชุมเอเปกก่อนหน้านี้ฟูจิซีร็อกซ์ก็ได้รับคัดเลือกในการให้บริการถ่ายเอกสารในงานประชุมเวิล์ดแบงก์มาแล้ว ซึ่งผลงานดังกล่าวจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจและนึกถึงฟูจิซีร็อกซ์เป็นอันดับแรก ๆ เมื่อต้องการใช้บริการ"

ศาสตราจารย์ ดร.พิสุทธิ์ กล่าวสรุปว่า จากความพร้อมในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตลอดจนบริการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าในปี 2547 จะสามารถสร้างยอดขายได้เกินกว่า 8,000 ล้านบาท โดยจะคงความเป็นผู้นำในตลาดดิจิตัลมัลติฟังก์ชั่นได้อย่างแน่นอน

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

รัศมี นริศรานุกูล

บริษัท เดนท์สุ ยังก์ แอนด์ รูบิแคม จำกัด

โทร. 02-658-0999 ต่อ 540

โทรสาร 02-658-0969

email : [email protected]จบ--

-รก-