มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ มูลนิธิสันติภาพนานาชาติ จัดปาฐกถาพิเศษ โดย สาธุคุณแจสซี แอล แจ๊คสัน

22 Oct 2003

กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--ม.ธรรมศาสตร์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ มูลนิธิสันติภาพนานาชาติ (The International Peace Foundation) จัดปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "สหรัฐหลังสงครามอิรัก-สหรัฐอเมริกา จะเป็นผู้ผลักดันให้เกิดสันติภาพได้หรือไม่" โดย สาธุคุณแจสซี แอล แจ๊คสัน ในวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2546 เวลา 14.00 น. ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

รองศาสตราจารย์ ดร.นริศ ชัยสูตร อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ว่า กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งในโอกาสครบรอบ 70 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงาน "สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม" ของมูลนิธิสันติภาพนานาชาติ (The International Peace Foundation) ซึ่งเป็นมูลนิธิอิสระ ไม่ฝักใฝ่การเมือง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ "ทศวรรษ แห่งสันติธรรมและสันติวิธี" ตามมติของสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2543 โดยได้เลือกจัดงานดังกล่าวในประเทศไทย ซึ่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะร่วมมือกับมูลนิธิฯ ในการเปิดตัวการจัดงาน "สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม" ด้วยการจัดปาฐกถาพิเศษดังกล่าว

กิจกรรมในงาน "สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม" จะประกอบด้วยการจัดบรรยายทางวิชาการ การสัมมนา การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการแสดงกว่า 200 รายการ ทั้งที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และขอนแก่น ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2546 ถึงเดือนเมษายน 2547 และระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2547 ถึงเดือนเมษายน 2548 โดยในระหว่าง 1 ปีนี้ จะมีผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ฟิสิกส์ เคมี การแพทย์ และวรรณกรรม ตลอดจนผู้นำระหว่างประเทศในด้านรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และสื่อมวลชน ร่วมมือกับผู้นำของไทยจากแวดวงต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยน การเรียนรู้และ ความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ งาน "สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม" นี้ จึงนับเป็น งานแรกในประเทศไทยที่มีผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาต่างๆ มาร่วมงานมากที่สุด

ส่วนเหตุผลในการเลือกประเทศไทยเพื่อจัดงาน "สานสัมพันธ์สู่สันติวัฒนธรรม" ครั้งนี้นั้น มร.อูเวอ มอราเวทซ์ ประธานมูลนิธิสันติภาพนานาชาติ กล่าวว่า คนไทยและประเทศไทย มีศักยภาพในการสร้างสรรค์สันติภาพ และนำเสนอแบบอย่างในการป้องกัน ไกล่เกลี่ย และแก้ไขความขัดแย้ง เพราะคนไทยมีความมั่นใจ ใจกว้าง และขันติธรรม นอกจากนี้ ด้วยพระปรีชาสามารถและความเป็นผู้นำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงเป็นตัวอย่างแห่งสันติทั้งภายในและภายนอก ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพสูง ในการเชิดชูสันติภาพ และสร้างความมั่นคงให้แก่ภูมิภาค อีกทั้งประเทศไทย ยังมีเครือข่ายการทำงานที่ดีเยี่ยมขององค์กร ทั้งในและระหว่างประเทศ รวมถึงธุรกิจเอกชน การทูต สื่อมวลชน และองค์กรพัฒนาเอกชน ซึ่งเป็นฐาน ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างวัฒนธรรม

สาธุคุณแจสซี แอล แจ๊คสัน

ประธานและผู้ก่อตั้งสันนิบาตเรนโบว์/พุช (Rainbow/Push Coalition) เป็นบุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองที่สำคัญยิ่ง บุคคลหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ท่านสาธุคุณแจ๊คสัน เริ่มต้นจากการเป็นผู้ช่วย ดร.มาร์ติน ลูเธอร์ คิง และได้อุทิศตนเพื่อส่วนรวมมานาน ก่อนที่คนทั่วไปจะเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับประเด็นในด้านสุขภาพอนามัยของคนในประเทศ การทำสงครามกับยาเสพติด การเจรจาเพื่อสันติกับสหภาพ โซเวียต และการเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง การอุทิศตัวของท่าน ทำให้ปัญหาการแบ่งแยกสีผิวในประเทศอัฟริกาใต้ และการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในประเทศไฮติ กลายเป็นปัญหาที่ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจ ท่านได้ลงสมัครรับ เลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2527 และ 2531 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนโฉมทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา ทำให้พรรคเดโมแครตสามารถพลิกเกมขึ้นมาเป็นผู้นำในวุฒิสภา และกวาดที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรได้กว่า 100 ที่นั่ง และในปี 2533 ท่านได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกจากวอชิงตัน ดี.ซี ในฐานะผู้นำที่ได้รับยกย่องจากทั่วโลก สาธุคุณแจ๊คสันทำหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรียามเกิดสถานการณ์อันตึงเครียด เช่น ในปี 2527 ท่านช่วยดำเนินการให้มีการปล่อยเรือโทโรเบิร์ต กู๊ดแมน จากซีเรีย และปล่อยนักโทษชาวคิวบาและชาวอเมริกันเชื้อสายคิวบาอีก 48 ชีวิต นอกจากนี้ ท่านยังเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ช่วยนำตัวประกัน ออกจากคูเวต และประเทศอิรักในปี 2533 ผลงานสำคัญของท่าน คือ ส่งเสริมการศึกษาของเยาวชน และส่งเสริมให้เยาวชนใช้ชีวิตที่ปลอดจากยาเสพติดด้วย ท่านได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์กว่า 40 ใบ และได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 ชาวอเมริกันที่น่ายกย่องที่สุดในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา

ผู้สนใจสามารถเข้าฟังการปาฐกถาพิเศษครั้งนี้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

สำรองที่นั่งได้ที่

โทร. 0-2986-8555 ต่อ 115 หรือ 0-1618-4422

โทรสาร 0-2986-8553--จบ--

-สพ-