กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--มีเดีย ออฟ มีเดียส์
มีสุภาษิตอียิปต์โบราณกล่าวว่าทุกสิ่งล้วนเกรงกลัวกาลเวลาแต่เวลาเกรงกลัวปิรามิด ปิรามิดคือสิ่งสุดท้ายในสิ่งมหัสจรรย์ทั้งเจ็ดอย่างของโลกยุคโบราณที่ยังคงยืนหยัดอยู่ และจัดเป็นสิ่งก่อสร้างจากฝีมือมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้วย โดยมหาปิรามิดกิซ่ามีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ถึง10สนามฟุตบอล หินทั้งหมดที่ใช้ก่อสร้าง สามารถสร้างตึกเอ็มไพร์สเตทได้ถึง 35 ตึก แต่ถ้าหากมนุษย์เป็นผู้สร้างจริงๆกลับไม่มีใครรู้ว่าคำว่าปิรามิดมาจากไหนเพราะไม่ปรากฎรากศัพท์ของคำนี้ในภาษาใดในโลก ถึงแม้ว่าเราจะเคยเดินทางไปดวงจันทร์มาแล้วแต่ปริศนาและเรื่องราวที่ชัดเจนเกี่ยวกับปิรามิดกลับยังคงดำมืดอยู่ตลอดกาล บันทึกโลกสัปดาห์นี้ พบกับปริศนาอารยธรรมโบราณแห่งลุ่มแม่น้ำไนล์...มหาปิรามิดแห่งอียิปต์
เรื่องราวของปิรามิดและคำสาปฟาโรห์เริ่มขึ้นราวปี1920จากการค้นพบสุสานของกษัตริย์ตุตันคาเมน โดยช่วงนั้น นักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดี ซึ่งหลั่งไหลมายังปิรามิด ได้เปิดแผ่นหินซึ่งจารึกคำสาปที่น่ากลัวไว้ว่า"ใครก็ตามที่รบกวนการหลับใหลของฟาโรห์ ความตายจะโบยบินตามเขาไป" ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดคงจะถูกลืมไปถ้าหากผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ทุกคนไม่เสียชีวิตลงอย่างลึกลับและกระทันหัน จนถึงปัจจุบันก็ยังหาสาเหตุของการเสียชีวิตไม่ได้
จุดสำคัญที่น่าสนใจของปิรามิด คือรูปทรงที่เป็นผลึกนั้นสามารถรับคลื่นวิทยุ หรือแม้แต่คลื่นที่สูงกว่าคลื่นแสงได้ โดยแผ่นหินแกรนิต 5 แผ่น ที่อยู่เหนือห้องของกษัตริย์ในกิซ่าซึ่งชาวอียิปต์โบราณเรียกว่า แผ่นหินแห่งวิญญาณนั้น ปัจจุบันสันนิษฐานว่าเป็นจุดที่ใช้รับส่งคลื่นวิทยุที่อยู่ห่างไกลออกไป มีผู้เชี่ยวชาญบอกไว้ว่าการค้นพบดาวอังคารเมื่อไม่นานมานี้ อาจให้คำตอบที่ยังค้างอยู่ในใจได้ โดยนักวิทยาศาสตร์ของNASAได้ค้นพบอนุสาวรีย์บนดาวอังคาร มีลักษณะคล้ายใบหน้าคนมีความยาวประมาณ1ไมล์ สูงถึง1,500ฟุต ภายหลังพบว่าสิ่งนี้มีลักษณะเหมือนกับโครงสร้างของปิรามิดขนาดยักษ์ ซึ่งปัจจุบันนี้รู้จักกันในนาม D&M ปิรามิดแห่งไซค์บอกเนีย
ความประหลาดที่น่าขนลุกถูกค้นพบอีกครั้งเมื่อนักวิทยาศาสตร์ค้นพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
ไซค์บอกเนียซึ่งแสดงให้เห็นว่าโครงสร้างของไซค์บอกเนียเป็นการนำหลักคณิตศาสตร์ชั้นสูงมาใช้และพื้นฐานโครงสร้างนี้ได้ถอดแบบมาอยู่ที่มหาปิรามิดแห่งกิซ่า แม้แต่ตำแหน่งของเส้นละติจูดของปิรามิดยังตรงกันกับเส้นละติจูดของ D&M ปิรามิดแห่งไซค์บอกเนีย รวมถึงความคล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาด ของใบหน้าสฟิงค์กับภาพถ่ายที่มีลักษณะคล้ายหน้าคนบนดาวอังคาร ทั้งหมดนี้อาจเป็นคำตอบของประเด็นที่ยังคลุมเครือที่ว่าเราเป็นใครและมาจากไหน ติดตามได้ใน "บันทึกโลก" วันพฤหัสบดีที่6 พฤศจิกายนนี้ เวลา 21.00-22.00 ทางโมเดิรน์ไนน์ทีวี
ณัจยา ชาญกล (อ้อย) / นันทิดา ตุ้มเจริญ (ตุ้ม) แผนกประชาสัมพันธ์ โทร. 0-2376-0503 -10 ต่อ 651--จบ--
-สพ-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit