กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--กทม.
นายชาญชัย ภาวสุทธิการ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาชุมชน กทม. เปิดเผยว่า เนื่องในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า 2546 ต้อนรับปีใหม่ 2547 ที่กำลังใกล้เข้ามาถึง ซึ่งเป็นเทศกาลส่งความสุขด้วยการมอบของขวัญ ของที่ระลึกให้แก่กันและกัน จึงทำให้มีของขวัญของที่ระลึกให้เลือกอย่างมากมายหลากหลายประเภททั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) จากภูมิปัญญาท้องถิ่นอันมีเอกลักษณ์ความเป็นไทย ดังนั้นกรุงเทพมหานคร โดยสำนักพัฒนาชุมชน (สนช.) จึงร่วมกับห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส จัดงาน “มหกรรมของขวัญผลิตภัณฑ์ OTOP กทม.” ขึ้น ระหว่างวันที่ 23 ธ.ค. 46 - 18 ม.ค. 47 ณ ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส 3 สาขา ได้แก่ สาขาสุขาภิบาล 1, บางกะปิ และหลักสี่ เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่และส่งเสริมด้านการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นที่รู้จักและยอมรับถึงคุณภาพมาตรฐานอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 46 เวลา 10.00 น. ณ ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาสุขาภิบาล 1 นางณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร จะเป็นประธานในพิธีเปิด
ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากการจัดงานครั้งที่ 1 เมื่อปี 2545 ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก มีประชาชนทั่วไปจำนวนมากให้ความสนใจเข้าร่วมชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน จนทำให้มียอดจำหน่ายเป็นเงิน 3 ล้านกว่าบาทไหลเวียนสู่ประชาชนในชุมชนผู้ผลิตภัณฑ์ชุมชน จึงทำให้เกิดความร่วมมือขึ้นอีกครั้งในการจัดงานครั้งที่ 2 นี้ ซึ่ง สนช. ได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ชุมชนในพื้นที่ 50 เขตทั่วกทม. และสุดยอดผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ กทม. ระดับ 3-5 ดาว จำนวน 249 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย เครื่องใช้และเครื่องประดับตกแต่ง ศิลปะประดิษฐ์และของที่ระลึก และสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหารและยา อาทิ กระเป๋าและรองเท้าผ้าไหม ผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าบาติก กระเป๋าหนังปลากระเบน หัวโขน และหุ่นกระบอกจิ๋ว บ้านทรงไทยและเรือไม้จำลอง ผลิตภัณฑ์กะลา เรซิ่น เบญจรงค์ เซรามิค โคมไฟประดิษฐ์ เครื่องทองลงหิน เครื่องประดับเงินและพลอย ดอกไม้และต้นไม้ประดิษฐ์ บุหงาและเครื่องหอม ผลิตภัณฑ์สมุนไพร (สบู่ ยาสระผม ครีม และโลชั่น) กะปิ และน้ำพริกสำเร็จรูป ขนมไทย คุ้กกี้สมุนไพร น้ำสมุนไพร แจ่วและหมูยอ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกล้วยและมะขาม ซอสมะม่วง สุราแช่ และไวน์ เป็นต้น
“สำหรับงานในครั้งนี้ คาดว่าจะมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนเป็นเงินหลายล้านบาทและมากกว่างานเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะทำให้มีเงินสะพัดไหลเวียนสู่ประชาชนในชุมชนทั่วกทม. มากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกท่านเข้าร่วมชมและอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนจากภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อร่วมกันสร้างรายได้ให้กับชุมชน ส่งเสริมธุรกิจชุมชน ให้สามารถพึ่งตนเองได้” ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาชุมชน กล่าว--จบ--
-นห-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit