โฆษณาออเร้นจ์เปิดมุมใหม่ "ยิ่งให้...ยิ่งใกล้...ยิ่งผูกพัน"

11 Jul 2003

กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--สยามพีอาร์ คอนซัลแทนท์

ทีบีดับบลิวเอ\ไทยแลนด์ สร้างทัศนคติและบุคลิกภาพแบรนด์ออเร้นจ์ใหม่ภายใต้ภาพลักษณ์เดิม "Bright Human Future" มองอนาคตสดใส เผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาใหม่ ชุด Sharing สร้าง Awareness แก่กลุ่มลูกค้าเห็นถึงวิถีความเป็นไทย รู้จักให้ ร่วมแบ่งปันกันและกัน ภายใต้แนวคิด Sharing "ยิ่งให้...

ยิ่งใกล้...ยิ่งผูกพัน"

ภาพยนตร์โฆษณาเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรชุดใหม่ของบริษัท ทีเอ ออเร้นจ์ จำกัด ผู้ให้บริการระบบสื่อสาร wirefree TM ภายใต้แบรนด์ออเร้นจ์ ผลงานการสร้างสรรค์ของบริษัท ทีบีดับบลิวเอ\

ประเทศไทย จำกัด เอเจนซี่โฆษณาแนวหน้าของเมืองไทย เจ้าของแนวคิดดิสรัปชั่น (Disruption) ที่สร้างความโดดเด่น ฉีกแนวโฆษณาทั่วไป

นายต่อ สันติศิริ ประธานกรรมการและผู้อำนวยการฝ่าย

สร้างสรรค์ หนึ่งในทีมผู้ออกแบบภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ให้กับออเร้นจ์ กล่าวถึงภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ว่า การสร้างแบรนด์ออเร้นจ์ในปี พ.ศ. 2546 นี้ แบรนด์ออเร้นจ์ยังคงนำเสนอจุดยืนเดิมในการสร้าง

ภาพลักษณ์ที่มีแนวคิดเกี่ยวกับการมองโลกในแง่ดี มีความเชื่อว่าวันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ออเร้นจ์ที่ผู้บริโภครับรู้ โดยที่ผ่านมาออเร้นจ์เปิดตัวด้วยแคมเปญ "Get Closer" ภายใต้สโลแกน "พูดกันมากขึ้น ฟังกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น" ด้วยกลยุทธ์การสื่อสารแบบครบเครื่องสร้างการรับรู้ในแบรนด์อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนตร์โฆษณาที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักบุคลิภาพและทัศนคติของ

แบรนด์ออเร้นจ์ได้เป็นอย่างดี

"แนวคิดที่ถ่ายทอดผ่านโฆษณาออเร้นจ์ชุดใหม่นี้ เป็นการขยายผลการศึกษาผู้บริโภคซึ่งมีขึ้นเพื่อวิจัยตลาดสำหรับการเปิดตลาดเมืองไทยของแบรนด์ออเร้นจ์ตั้งแต่เริ่มแรก ปี 2544-2545 เชื่อว่าทุกคนคงจำได้กับ แคมเปญ Get Closer นั่นเป็นผลของการศึกษาผู้บริโภคที่ออเร้นจ์ได้นำมาเป็นแนวคิดในการสร้างแบรนด์ และสำหรับปีนี้ทางออเร้นจ์ได้นำผลการศึกษาผู้บริโภคชุดเดิมมาขยายผลและสร้างเป็นแคมเปญ Sharing ที่มีนัยสำคัญของการแบ่งปันซึ่งกันและกันในสังคม แต่ด้วยพลวัตของสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอทำให้คนไทยลืมวิถีไทย มองข้ามความสำคัญของการให้ การแบ่งปันกัน โฆษณาชุดใหม่นี้จึงถ่ายทอดให้ผู้ชมได้เห็นถึงการให้ การแบ่งปันที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง เห็นพัฒนาการของความสัมพันธ์ของผู้คนที่เริ่มให้ เริ่มแบ่งปันกันจนก่อเกิดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น" นายต่อ กล่าว

เรื่องราวภาพยนตร์โฆษณาออเร้นจ์ชุด Sharing ถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน 2 ครอบครัวที่มีบ้านอยู่ติดกันแต่ด้วยการดำเนินชีวิตบนจังหวะของสังคมสมัยใหม่จึงทำให้ทั้งสองครอบครัวรู้จักกันเพียงผิวเผิน ด้วย กรอบของเวลา กรอบของแนวคิดสมัยใหม่ทำให้ความเป็นปัจเจกชนเป็นยิ่งกว่ากำแพงที่ขวางกั้นบ้านทั้งสอง ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้สามารถนำเสนอจุดพลิกผันที่สำคัญคือ ความเป็นคนไทยที่แม้โลกจะเปลี่ยนไป อย่างไร คนไทยยังเป็นคนไทยที่มีจิตใจดีงาม กล้าที่จะแบ่งปันซึ่งกันและกัน ภาพที่พ่อบ้านหลังหนึ่งกำลังรดต้นไม้และบังเอิญรดน้ำข้ามรั้วไปยังต้นไม้ของบ้านอีกหลังอย่างไม่รู้ตัว แต่พ่อบ้านอีกหลังซึ่งกำลังนั่งถางหญ้าเห็นสายน้ำที่กำลังรินรดบนต้นไม้ของตัวเอง จึงรู้สึกถึงการเป็นผู้รับและนี่แหละคนไทยที่เมื่อเกิดความรู้สึกดีต่อกันแล้ว จึงเริ่มให้สิ่งดี ๆ ตอบแทน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการแบ่งปันจากสิ่งเล็ก ๆ เรียบง่าย ค่อย ๆ พัฒนาไปเป็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัว และพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

"ทีมออกแบบโฆษณาชุดนี้ได้วางแนวการโฆษณาที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้เกิดแก่ความรู้สึกของผู้ชม โดยที่หนังจะไม่ดูถูกผู้บริโภคเพราะเชื่อว่าผู้บริโภคมีความสามารถในการคิด ตัดสินใจด้วยตนเอง และหนังไม่ได้วางบทสรุปไว้เพราะเราต้องการให้ผู้บริโภคหรือผู้ชมได้คิดสรุปเองในแนวคิดที่หนังได้นำเสนอ สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือการถ่ายทอดเรื่องราวของหนังทั้งหมดมีความสมจริง ไม่มีดราม่ามากนักซึ่งจะแตกต่างจากหนังโฆษณาออเร้นจ์ในแนวคิด Get Closer ที่ผ่านมาซึ่งหนังจะหวือหวามากกว่า เล่นกับอารมณ์ผู้ชมตลอดเวลา แต่ยังคงมีกลิ่นอายความเป็นธุรกิจสื่อสารอยู่ในหนังและเชื่อแน่ว่าแนวคิดจากหนังโฆษณาชุดใหม่นี้จะค่อยซึมซับเข้าไปในสมองของผู้ชมและความรู้สึกที่ได้จากหนังจะใกล้ชิดกับชีวิตจริงผู้ชม รวมทั้งเข้าใจในแบรนด์ของออเร้นจ์อย่างลึกซึ้ง" นายต่อ กล่าวเสริม

สำหรับการเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาออเร้นจ์ ชุด Sharing นายต่อกล่าวปิดท้ายว่า ภาพยนตร์โฆษณาของแคมเปญนี้จะใช้สร้างแบรนด์ออเร้นจ์ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปีหน้า 2547 ซึ่งช่วงแรกของการเปิดตัว แคมเปญ Sharing ภาพยนตร์โฆษณาจะเผยแพร่ในความยาว 90 วินาที และหลังจากนั้นจะถูกตัดทอนเวลาลงให้เหลือ 30 วินาที โดยแบ่งเป็น 4 ชุด ซึ่งทุกชุดจะนำมาจากเรื่องราวของภาพยนตร์โฆษณา Sharing และเผยแพร่เพื่อความต่อเนื่อง ซึ่งถึงช่วงเวลานั้นผู้บริโภคสามารถจดจำแนวคิดของแคมเปญได้แล้ว

ภาพยนตร์โฆษณา

Client

: TA Orange

Product

:Orange

Title

:Sharing

Duration

:90 วินาที

Agency

:บริษัท ทีบีดับบลิวเอ\ไทยแลนด์ จำกัด

Creative Director

:นิกรม กูลโฆษะ , วสันต์ หวังไพฑูรย์

Art Director

:วรรณศักดิ์ บรรจงจิตต์ , ทิติยา ประวัติวงศ์วิไล

Copy Writer

: จันทิกา น้าสุนีย์ , วลิตา จามรจุรีกุล

Producer

: แสนคม แสงสอน

Production House

:Phenomena

Film Director

:ธนญชัย ศรศรีวิชัย

ที่มาของภาพยนตร์โฆษณา

จากแคมเปญแรกของออเร้นจ์ คือ Get Closer ที่ทำให้เราพูดกันมาขึ้น ฟังกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น มาสู่แคมเปญ ปัจจุบัน Sharing ที่พัฒนาขึ้นเพื่อสานต่อมิตรภาพระหว่างกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งอยู่ภายใต้แนวคิด ยิ่งให้ ยิ่งใกล้ ยิ่งผูกพัน ซึ่งจะต้องถ่ายทอดให้มีความต่อเนื่องและรักษา Orange Brand Essence ให้แข็งแรง พร้อมทั้งมีกลิ่นอายความเป็นโฆษณาของ Telecomm ไม่ใช่การรณรงค์ส่งเสริมสังคม

เนื้อเรื่องโฆษณา

เรื่องราวเล่าผ่านบ้าน 2 หลังซึ่งใช้เป็นตัวแทนของชีวิตที่ดำเนินกันอยู่ในปัจจุบัน ต่างคนต่างใช้ชีวิตของตัวเอง แม้จะอยู่ใกล้กันแต่กลับรู้จักกันอย่างผิวเผิน จุดพลิกของเรื่องราวยู่ที่เมื่อบ้านหลังหนึ่งได้แบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับบ้านอีกหลัง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ถูกพัฒนาให้ลึกซึ้ง

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

จิดาภา ประมวลทรัพย์, ประกาศิต นันป้อ

บริษัท สยามพีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด

โทรศัพท์. 0-2693-7835 ต่อ 37,32 โทรสาร: 0-2693-6919

Website:www.siampr.co.th--จบ--

-พห-