กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--สนพ.
กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน อนุมัติงบประมาณ 70 ล้านบาท สนับสนุนมหาวิทยาลัย 7 แห่ง ประหยัดพลังงานในโครงการมหาวิทยาลัยรวมพลังหาร 2
นายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ได้ให้การสนับสนุนสถาบันอุดมศึกษา 7 แห่ง จัดทำโครงการ “มหาวิทยาลัยรวมพลังหารสอง” เพื่อให้นักศึกษา ครู อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมมือกันลดการใช้พลังงานภายในสถาบัน ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้พลังงาน และการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้กับสถาบัน และเพื่อเป็นแบบอย่างในการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้กับหน่วยงานอื่นๆ ในวงเงิน 70 ล้านบาท และจะมีการประเมินผล ทุก 6 เดือน ภายในระยะเวลา 2 ปี
สำหรับสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการอนุมัติทั้ง 7 แห่ง จะได้รับเงินสนับสนุนในการ จัดกิจกรรมประหยัดพลังงานแห่งละไม่เกิน 10 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 2. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 3. มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี 4. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 5. มหาวิทยาลัยบูรพา 6. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ7.มหาวิทยาลัยขอนแก่น
โดยแต่ละสถาบันได้จัดกิจกรรมรณรงค์การปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ที่มีความแตกต่างกันไป อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดกิจกรรมประหยัดพลังงานด้วยการใช้เทคโนโลยีช่วยในการอนุรักษ์พลังงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เช่น ใช้อุปกรณ์เปิด-ปิด ระบบแสงสว่าง และใช้โซล่าเซลล์ สำหรับติดตั้งบนเสาไฟฟ้าบนถนนทางเดินภายในสถาบัน ส่วนมหาวิทยาลัยบูรพา ได้ใช้เครื่องวัดความต้องการพลังงานไฟฟ้าแบบกระเป๋าหิ้ว มาควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้าและเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าในแต่ละอาคาร รวมทั้งจัดอบรมวิธีการจัดทำระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมตามหลักการ ISO 14001 ให้คณะทำงานฯ ในแต่ละอาคารหรือหน่วยงาน เพื่อให้การบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นต้น
“จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มหาวิทยาลัยทั้ง 7 แห่ง มีการใช้ไฟฟ้ารวม 13 ล้านหน่วย / เดือน คิดเป็นเงินประมาณ 31 ล้านบาท ดังนั้น การสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมรณรงค์ประหยัดพลังงานนั้น ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยประหยัดพลังงานให้ประเทศได้ นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข่าวสารและถ่ายทอดความรู้ เทคนิค และวิธีการประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะกับการเป็นแบบอย่างให้กับสถาบันและหน่วยงานอื่นๆ ได้นำไปปฏิบัติต่อไปอีกด้วย” นายเมตตา กล่าว--จบ--
-รก-