ยู.เอส.สัมมิท มั่นใจ "เพียวรีน" หัวหอกสินค้าเด็ก

04 Aug 2003

กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--ยู.เอส. สัมมิท

ยู.เอส.สัมมิท ปรับแผนรุกตลาดอุปโภคบริโภคเต็มสูบ ใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์เด็กอ่อนแบรนด์ "เพียวรีน" เป็นเรือธง ฉีกแนวด้วยจุดขาย "Total Concept" มีสินค้าเด็กอ่อนครบไลน์ เร่งขยายจุดขายครบ 40 แห่งในปีนี้ ตั้งเป้าโต 40% ยอดขายรวม 1.5 พัน ล.เล็ง 3-5 ปี แตกไลน์สินค้าเด็กเล็ก-กลุ่มก่อนวัยทำงาน

นายธวัชชัย ธัญญเฉลิม ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค บริษัท ยู.เอส.สัมมิท (โอเวอร์ซีส์) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เด็กแบรนด์ "เพียวรีน" เผยว่า นโยบายจากนี้ไปบริษัทจะหันมารุกตลาดอุปโภคบริโภคมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเด็กอ่อนอายุไม่เกิน 3 ปี ทำตลาดด้วยแบรนด์ "เพียวรีน" ซึ่งกลุ่มอุปโภคบริโภคจะมีสินค้าทำตลาดใน 4 แบรนด์หลัก คือ เพียวรีน, จัสเฟอร์เมน เป็นครีมเปลี่ยนสีผม, เทรเซีย แชมพูสระผมสำหรับผู้ทำสีผม และแชปสติก เป็นลิปบาล์ม

โดยปัจจุบันสินค้าในหมวดนี้ทำรายได้รวมให้กับบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 10% และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มเป็น 12% ในปีนี้ ด้วยยอดขาย 150 ล้านบาท เป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 40% จากปีที่แล้วมียอดขาย 110 ล้านบาทปัจจุบันรายได้หลักของบริษัทมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ยา คิดเป็นสัดส่วน 75% และอุปกรณ์ทางการแพทย์กว่า 13%

กลยุทธ์ในการทำตลาดสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เด็ก จะใช้คอนเซ็ปท์การวางขายสินค้าครบทุกประเภทในกลุ่มสินค้าแม่และเด็ก "Total Concept" ในจุดขายเดียว ซึ่งเป็นแนวทางที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยอาศัยความได้เปรียบที่มีสินค้าในหมวดของเด็กอ่อนมีครบไลน์ ถึง 9 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผ้าอ้อมสำเร็จรูป, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและถนอมผิว,เครื่องใช้เด็กอ่อน ขวดนม จุกนม แปรงล้างขวดนมอ่างอาบน้ำ, แผ่นยาง, สินค้าเพื่อความปลอดภัย, เสื้อผ้าเด็ก, เครื่องนอน, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่หลังคลอด รวมกว่า 1,000 รายการ

นอกจากนี้ บริษัทได้เร่งขยายจุดจำหน่าย "เพียวรีน คอนเนอร์" จำหน่ายสินค้าครบทุกประเภทของกลุ่มสินค้าเด็กตอนนี้มีอยู่ 20 จุดใน กทม.และต่างจังหวัด จะเพิ่มเป็น 35-40 จุดภายในปีนี้ ปัจจุบันมีร้านค้าจำหน่ายสินค้าที่ไม่ครบไลน์อีกกว่า 600 จุดพร้อมกันนี้ มีแผนจะเปิดโชว์รูมในพื้นที่พลาซ่า จำนวน 5 โชว์รูม ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้จะเปิดโชว์รูมได้ 1 แห่ง

ตลาดผลิตภัณฑ์เด็กอ่อนมีมูลค่ารวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท มีมูลค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ราคาขายต่อหน่วยลดลง 5-8% เนื่องจากสภาพการแข่งขันรุนแรงโดยเฉพาะด้านราคาและกิจกรรมซื้อ 1 แถม 1 หรือการแจกสินค้าพรีเมียม

นายธวัชชัย กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สามารถทำได้แล้ว 70 ล้านบาท คาดว่าจะผลักดันยอดขายรวมบริษัทในปีนี้ เพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 1,300 ล้านบาท

นอกจากนี้ภายใน 3-5 ปี บริษัทมีแผนที่จะขยายฐานตลาดไปยังกลุ่มเด็กเล็กอายุ 4-9 ปีจนถึงกลุ่มก่อนวัยทำงานเพราะบริษัทแม่ที่อเมริกายังมีสินค้าในไลน์ของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นนมผง เสื้อผ้า ฯลฯ ที่บริษัทยังไม่ได้นำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอีกจำนวนมาก--จบ--

-สด/ขธ-