ฟิทช์ให้อันดับเครดิต หุ้นกู้มีหลักประกัน ของ บริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด (มหาชน) ที่ A-(tha)

09 Oct 2003

กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)

ฟิทช์ เรทติ้งส์-กรุงเทพฯ-ลอนดอน 9 ตุลาคม 2546: บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาว แก่หุ้นกู้มีหลักประกันชนิดทยอยคืนเงินต้น จำนวน 1 หมื่นล้านบาท ของบริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOC ที่ A-(tha) แนวโน้วเครดิตมีเสถียรภาพ โดยบริษัทได้ดำเนินการจดจำนองเครื่องจักรเพื่อเป็นหลักประกันให้กับผู้ถือหุ้นกู้ตามเงื่อนไข และได้นำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งไปชำระคืนเงินกู้เดิมกับธนาคารเรียบร้อยแล้ว

อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงโครงสร้างของผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่ง การได้รับการสนับสนุนจากปตท. การมีสัญญาซื้อวัตถุดิบระยะยาวและสัญญาขายโอเลฟินส์ระยะยาวรองรับ รวมถึงความยืดหยุ่นของการใช้วัตถุดิบ การได้เปรียบในการแข่งขันจากการที่เพิ่มสัดส่วนการใช้วัตถุดิบเป็นก๊าซธรรมชาติที่มีต้นทุนต่ำกว่า นอกจากนี้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ยังมีปัจจัยเสริมจาก หลักประกันที่เป็นโรงงานและเครื่องจักรของบริษัท โดยมีมูลค่าประเมินประมาณ 24.3พันล้านบาท ซึ่งหลักประกันนี้อาจใช้ร่วมกับเจ้าหนี้อื่นในอนาคต วงเงินไม่เกิน 1.7หมื่นล้านบาท (อัตราหนี้สินต่อมูลค่าหลักประกัน 70%) และวงเงินสนับสนุนด้านการค้าจาก ปตท. จำนวน 100ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ4.2 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามการบังคับเอาหลักประกันจากลูกหนี้ตามกฎหมายไทยอาจจะเกิดความล่าช้าได้

นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงฐานะทางการเงินที่ไม่แข็งแกร่งนักของ TOC ในอดีต และลักษณะความผันผวนของราคาผลิตภัณฑ์ตามวัฏจักรอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ระดับหนี้สินของ TOC อาจจะยังคงสูงอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เนื่องจาก TOC ต้องลงทุนเพิ่มในผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง คือ MEG (Mono Ethylene Glycol) เพื่อที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์เอทีลีนและลดความผันผวนของราคา กระแสเงินสดที่สะสมจากธุรกิจโอเลฟินส์ในปัจจุบันรวมกับกำลังการผลิตเอทีลีนที่จะเพิ่มขึ้น 78% ในปี 2548 และจากราคาผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นน่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้หากเกิดการล่าช้าในการผลิต MEG โครงการผลิต MEG ใช้เงินลงทุนประมาณ 210ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะใช้แหล่งเงินทุนจาก การขายหุ้นเพิ่มทุน50% และ จากเงินกู้50%

TOC จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2533 โดยการร่วมทุนระหว่าง ปตท. (ปัจจุบันถือหุ้นใน TOC 63%) และกลุ่มผู้ผลิตปิโตรเคมีขั้นปลาย เพื่อผลิตโอเลฟินส์ซึ่งเป็นโรงงานโอเลฟินส์แห่งที่สองของประเทศไทย TOC เริ่มดำเนินการปี 2538 ปัจจุบันมีกำลังการผลิต เอททีลีน 385,000 ตันต่อปีและโพรไพรีน 190,000 ตันต่อปี เมื่อรวมกับการขยายกำลังการผลิตเอททีลีนในปี 2548 อีกจำนวน 300,000 ตันต่อปี จะทำให้ TOC เป็นโรงงานผลิตโอเลฟินส์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของTOC มีสัญญาการขายระยะยาว และมีปตท.เป็นผู้รับซื้อในส่วนกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน TOC จะเป็นผู้ซื้อ ก๊าซอีเทน ซึ่งจะเป็นวัตถุดิบหลัก จากโรงแยกก๊าซโรงใหม่ของ ปตท.

หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่า 'AAA' ในระดับการจัดอันดับเครดิตแบบสากล (International Ratings) อันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับอันดับเครดิตแบบสากล เนื่องจากอันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย

สามารถขอรับรายงานฉบับสมบูรณ์ ที่ www.fitchratings.com หรือ

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ติดต่อ

ภิมลภา สิมะโรจน์, ผู้ช่วยกรรมการ, Corporates

+ 662 655 4761

เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, ผู้ช่วยกรรมการ, Corporates

+ 662 655 4760

Vincent Milton, กรรมการผู้จัดการ

+ 662 655 4759--จบ--

-พห-