(ต่อ2) ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ เสนอภาพยนตร์ เรื่อง GOOD BOY

06 Oct 2003

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์

นักแสดงสี่ขา :

ฟลินน์ แสดงเป็น ฮับเบิล สุนัขพันธ์ บอร์เดอร์ เทอร์เรีย (ให้เสียงโดย แมทธิว โบรเดอริค)

นับเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่มีในตำนานคลาสสิคของฮอลลิวู้ด: ฟลินน์ สุนัขพันธ์บอร์เดอร์ เทอร์เรีย ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าสัตว์เลี้ยงแสนรักของครอบครัว แต่เมื่อผู้เขียนบทและผู้กำกับฯ ฮอฟแมนได้พบมันในฐานะที่เป็น "ตัวแทนของพันธุ์เทอร์เรีย" ระหว่างการเตรียมงานของเรื่อง Good Boy! นั้น ไม่ว่าบอร์เดอร์ เทอร์เรียอีกกี่ตัวที่เขานำมาคัดตัวหลังจากนั้น ก็ไม่สามารถทำให้เขาลืมฟลินน์ได้ ในท้ายที่สุดครอบครัวของฟลินน์ ก็ยินยอมที่จะให้สัตว์เลี้ยงของพวกเขาได้แสดงในหนังโดยมีเงื่อนไขว่ามันต้องกลับมาบ้านอย่างมีความสุขและแข็งแรง และมันได้กลับสู่อ้อมอกของครอบครัวหลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำตามที่พวกเขาร้องขอ - เพียงแต่ในตอนนี้มันรู้จักแสดงกลเม็ดบางอย่างที่พวกเขาไม่เคยคิดที่จะสอนมันมาก่อน

จาก AKC: บอร์เดอร์เทอร์เรียมีขนที่หนาไว้ต่อต้านอากาศเย็น โดยขนด้านนอกจะแข็งแรงและเหนียว ส่วนขนอ่อนนุ่มที่อยู่ด้านในจะสามารถต้านทานสิ่งสกปรกแทบทุกชนิด บอร์เดอร์เทอร์เรียรักเด็กๆและเป็นมิตร, ใจดี, ว่องไว, ฉลาด แต่เป็นสมาชิกที่ขี้ใจน้อยของครอบครัว ขนของมันต้องได้รับการแปรงอย่างสม่ำเสมอเพื่อทำให้บอร์เดอร์ เทอร์เรียดูเรียบร้อยสวยงาม เวลาวิ่งเล่นในสนาม สุนัขพันธุ์นี้จะ "แข็งแรงมาก" เป็นเพื่อนที่อารมณ์ดี น่ารัก เชื่อฟัง และฝึกได้ง่าย สำหรับทุกครอบครัว บอร์เดอร์ เทอร์เรียไม่ดุร้ายและเข้ากับสุนัข สัตว์เลี้ยงอื่นๆ และม้า ได้ดี ถ้าถูกลงโทษทางกาย จะทำให้สูญเสียความเชื่อใจ

ลิต้า แสดงเป็น วิลสัน สุนัขพันธุ์บ๊อกเซอร์ (ให้เสียงโดย โดแนลด์ ไฟสัน)

สุนัขบ็อกเซอร์รูปงามชื่อลิต้ารับบทเป็นวิลสัน ซึ่งมีความสามารถและความคล่องแคล่วเป็นอย่างมากในเวลาเข้าฉากกับนักแสดง ทำให้เธอเป็นตัวโปรดของทั้งทีมดาราและทีมงาน ถึงแม้ว่าจะมีพรสวรรค์และรูปร่างที่เป็นเยี่ยมสำหรับการก้าวสู่เส้นทางการเป็นดาราก็ตาม แต่ทว่าตามสายพันธุ์แล้ว บ๊อกซ์เซอร์เป็น "สุนัขล่าสัตว์ที่มีสายตาดีเยี่ยม" ดังนั้นไม่ว่าเจ้าสุนัขจะพยายามอย่างหนักขนาดไหนที่จะตั้งใจทำงานในบทของมัน ความเคลื่อนไหวใดๆ ที่เข้ามาในสายตานั้น ก็จะเป็นสิ่งรบกวนสมาธิอย่างร้าย แต่หลังจากที่การถ่ายทำในฉากเสร็จสิ้นลงเป็นอย่างดี ลิต้านับได้ว่าเป็นตัวตลกซึ่งเป็นที่รักของทุกคนเลยทีเดียว

จาก AKC: บ๊อกเซอร์เป็นสุนัขทำงานที่ถูกผสมขึ้นในเยอรมันจากอีกหลากหลายสายพันธุ์ รวมทั้งบุลด็อกและเกรทเดน มันถูกเรียกว่าบ๊อกเซอร์เพราะว่ามันจู่โจมด้วยการตะปบไปข้างหน้าเวลาต่อสู้ การบันทึกใน AKC เป็นครั้งแรกของบ๊อกเซอร์มีขึ้นในปี 1904 และการแข่งขันครั้งแรก จบสิ้นลงในปี 1915 บ๊อกซ์เซอร์มีความว่องไว,มั่นใจในตัวเอง และกล้า มันขี้เล่น และรักสนุก มักถูกเรียกว่า "ปีเตอร์ แพน" ในโลกของพวกสุนัข ดูเหมือนว่าพวกมันจะรักษาความร่าเริงแบบเด็กๆ ไว้อยู่เสมอ บ๊อกซ์เซอร์เป็นสุนัขมีขนสั้น และต้องการการแปรงเร็วๆ ทุกสัปดาห์เท่านั้น

แบนเนอร์ แสดงเป็น บาร์บาร่า แอน สุนัขพันธ์สแตนด์ดาร์ด พุดเดิ้ล (ให้เสียงโดย เดลต้า เบิร์ก)

แบนเนอร์นำมาซึ่งความเป็นมืออาชีพอย่างสมบูรณ์แบบในการเข้าฉาก เมื่ออยู่ในจุดของมันและถูกสั่งให้ "นิ่ง" เจ้าสแตนด์ดาร์ดพุดเดิ้ลตัวนี้ มักจะถูกเข้าใจผิดจากผู้มาเยี่ยมกองถ่ายบางคน ว่ามันเป็นหุ่นสุนัข ความทุ่มเทในการทำงานของมันไม่มีที่สิ้นสุด แบนเนอร์จะตั้งใจเป็นอย่างยิ่งกับผู้กำกับฯ ฮอฟแมนและผู้ฝึกสอนของมัน และจะตรงต่อเวลาทุกครั้ง - แม้ว่าต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ในการแต่งขนและแต่งหน้า ในภาพยนตร์เรื่องนี้ "บาร์บ่าร่า แอน" ต้องพำนักอยู่ภายในบ้านสุนัข ซึ่งอาจไม่ได้ดูหรูหราเท่ากับสถานที่แสดงที่นิยมกันทั่วไป เนื่องจากรูปแบบการตัดขนของพวกมัน ทำให้ถูกคิดว่าเป็นสุนัขสวยงาม แต่ในความจริงพวกมันเป็นสุนัขใช้งาน ที่มีความฉลาดค่อนข้างสูงและง่ายที่จะฝึกสอน

จาก AKC: พุดเดิ้ลเป็นหมาประจำชาติของฝรั่งเศส สแตนด์ดาร์ดพุดเดิ้ลเป็นหมาที่เก่าแก่ที่สุดใน 3 ประเภท ชื่อที่ใช้เรียกว่า สแตนด์ดาร์ด มิเนเจอร์ และ ทอยนั้น ใช้เพียงเพื่อบ่งถึงขนาดเท่านั้น - แต่ทั้งหมดก็คือพันธุ์เดียวกัน พุดเดิ้ลมีชื่อทางความสามารถในการเก็บของในน้ำ ขนของพุดเดิ้ลทำให้มันสามารถแต่งผมได้หลากสไตล์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเนื่องมาจากหน้าที่ในการเก็บของ และจะช่วยในการป้องกันข้อเท้าจากความเย็นของน้ำ สุนัขพุดเดิ้ลมีความคล่องแคล่วมาก ฉลาด และสวยงาม

โมทีฟ แสดงเป็น เนลลี่ สุนัขพันธ์อิตาเลี่ยนเกรย์ฮาวน์ (ให้เสียงโดยบริตตานีย์ เมอร์ฟีย์)

"โม" สุนัขพันธ์อิตาเลี่ยนเกรย์ฮาวน์เป็นหมาที่เปราะบางที่สุดในบรรดานักแสดงสี่ขาทั้งหมด ไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ - เสียงดัง สายลมเย็นเฉียบ - ก็สามารถทำให้เจ้าตัวน้อยสั่นเทาได้ทั้งสิ้น ถึงแม้ว่ามันจะผิวบางไปนิด แต่สุนัขเกรย์ฮาวน์ก็เป็นมืออาชีพที่แท้จริง และคอยหาทางที่จะถ่ายทอดถึงความรู้สึกส่วนลึกของตัวละครเนลลี่

จาก AKC: สุนัขอิตาเลี่ยนเกรย์ฮาวน์เป็นสุนัขที่ตัวเล็กที่สุดในตระกูลของเกซฮาวน์ (สุนัขที่ล่าสัตว์ด้วยสายตา) เป็นพันธ์ที่เชื่อกันว่ามีมาดั้งเดิมกว่า 2,000 ปีมาแล้วในลุ่มแม่น้ำเมดิเตอร์เรเนี่ยน ซึ่งตอนนี้คาดว่าอยู่ในบริเวณที่รู้จักกันก็ในชื่อกรีซและตุรกี เป็นพันธุ์ที่เป็นที่นิยมในราชวงศ์ของยุโรป ได้แก่ รวมทั้งโดย เจ้าหญิงแอนแห่งเดนมาร์ค ซึ่งเป็นชายาของเจมส์ที1แห่งอังกฤษ ; Mary Beatrice d'Este of Modena, ชายาเชื้อสายอิตาลเลียนของเจมส์ที่ II; เฟร็ดเดอริค เดอะเกรท แห่งปรัสเซีย; แคทเทอรีน เดอะเกรท แห่งรัสเซีย ; และควีนวิกตอเรีย เป็นต้น ขนของมันต้องการการตกแต่งเพียงเล็กน้อย ไม่มีกลิ่นตัวและขนร่วงน้อยมาก แม้อาจดูเหมือนบอบบาง แต่สุนัขพันธ์อิตาเลี่ยนเกรย์ฮาวน์เป็นพันธุ์ที่แข็งแกร่งอดทนมาก พวกมันจะปรับตัวได้ดีกับทุกสภาพของบ้าน และสนุกกับการเล่นกับเด็กโตและสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ

โอดี้ แสดงเป็น เชพ สุนัขพันธุ์เบอร์นีส เมาน์เทน (ให้เสียงโดยคาร์ล ไรเนอร์)

สุนัขภูเขาตัวใหญ่ โอดี้ นำมาซึ่งบทที่ทำให้เชพมีชีวิต ผู้กำกับฯ ฮอฟแมนพบว่ามันเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าบางครั้งบรรดาดาราเด็กที่ร่วมแสดงจะบ่นเกี่ยวกับน้ำลายที่มีมากเกินไปนิด จนพวกเขาต้องเปียกโชกเวลาทำงานใกล้ชิดกันมากๆ โอดี้เข้าสังคมเก่ง และจะเป็นมิตรกับเพื่อนนักแสดงทุกคน ทั้งสองขาและสี่ขา

From AKC: สุนัขพันธ์เบอร์นีส เมาเทนด์เป็นที่รู้จักในถิ่นกำเนิดของมันที่ สวิตเซอร์แลนด์ ในชื่อ Berner Sennenhund, ซึ่งแปลตามตัวอักษรได้ว่า Bernese Alpine Herdsmen's Dog หมาพันธุ์ใหญ่ที่เป็นมิตรนี้ ในตอนแรกได้รับการฝึกให้ทำงานในสวิตเซอร์แลนด์เพื่อใช้ลากเกวียนที่บรรทุกชีสและนม กับต้อนวัว สุนัขพันธ์เบอร์นีส เมาเทนด์ เคยมีประวัติเป็นผู้ต้อนฝูงสัตว์ ลากเลื่อน และสุนัขเฝ้าบ้าน ในแถบทำฟาร์มของแคว้นเบิร์น บรรพบุรุษของพวกมันคาดว่าน่าจะถูกนำมายังสวิสเซอร์แลนด์เมื่อไม่นานกว่า 2,000 ปีที่แล้วโดยทหารโรมันที่มา และถูกนำไปยังสหรัฐอเมริกาเมื่อปี1926 และได้รับการบันทึกลงใน AKC "Stud Book" เมื่อปี 1937 สุนัขพันธุ์นี้ควรได้รับการดูแลขนอย่างน้อยทุกๆสองสัปดาห์ พวกมันต้องการออกกำลังกายปานกลาง และบ้านสุนัขที่ดีเยี่ยม และจะเต็มใจที่จะติดตามเจ้านายและครอบครัวไปทุกแห่งหน เป็นสุนัขพันธุ์ที่ซื่อสัตย์และเป็นเพื่อนที่ใส่ใจ

วาเลนติโน แสดงเป็น เดอะ เกรทเตอร์ เดน (ให้เสียงโดย แวนเนสซา เรดเกรฟ)

เช่นเดียวกับชื่อของมัน วาเลนติโน มีความรื่นเริงเป็นคุณสมบัติประจำตัว ซึ่งอยู่ภายใต้บุคลิกขี้อายจนเกือบจะเป็นขี้ขลาด เจ้าเกรทเดนตัวสีฟ้า มีขนาด อากัปกิริยา และหัวที่เหมาะเจาะกับการเป็นผู้ปกครองสุนัขทั้งจักรวาล แต่มันไม่เคยมีประสบการณ์กับงานบันเทิงมาก่อน และมีความรู้สึกว่ากองถ่ายเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเขย่าขวัญ แต่เมื่อใช้เวลาเพียงสองสามสัปดาห์กับครูฝึก ก็ทำให้ประสาทของวาเลนติโนกลับเข้าที่เข้าทางได้

จาก AKC: สุนัขพันธุ์เกรทเดนถูกเลี้ยงในเยอรมันเพื่อไว้ล่าหมูป่า บันทึกที่เกี่ยวกับสุนัขพันธุ์นี้ ที่ถูกบรรยายไว้เป็นลายลักษณ์อักษรอาจหาได้จากวรรณคดีของจีนเมื่อปี 1121 ก่อนคริสตกาล ชื่อพันธุ์ของสุนัข (ในภาษาอังกฤษ) คือคำแปลจากภาษาฝรั่งเศสโบราณ - grand Danois ซึ่งหมายถึง "big Danish" ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในบรรดาชื่อกว่าครึ่งโหลที่เคยถูกใช้เรียกพวกมันมาหลายศตวรรษในฝรั่งเศส เหตุใดชาวอังกฤษจึงเลือกใช้ชื่อ "เกรท เดน" ซึ่งมาจากภาษาฝรั่งเศสนั้นยังคงเป็นความลับจนทุกวันนี้ ในปี 1891 Great Dane Club of Germany ได้เป็นผู้ให้คำบรรยายที่เป็นมาตรฐานชัดเจน อย่างเป็นทางการแก่ลักษณะที่ถูกต้อง สุนัขเกรทเดนสามารถเป็นสุนัขที่ดีของครอบครัวได้ แต่ต้องการให้ดูแลเอาใจใส่และเป็นเพื่อนเล่นอย่างมาก

สปิริต แสดงเป็น เดอะ เฮนช์เมน สุนัขพันธุ์สิงโตจีน (ให้เสียงโดย ชีช มาริน)

เจ้าสี่ขาตัวนี้ รับสมุนบทมือขวาผู้กระตือรือล้นของ เดอะ เกรทเตอร์ เดน ความเฉลียวฉลาดของมัน นับเป็นรางวัลของครูฝึกและผู้กำกับฯ และความเต็มอกเต็มใจก็เป็นที่โดด ไม่มีอะไรที่จะทำให้นักแสดงผู้เอาใจใส่ตัวนี้คร้ามเกรงได้ - แม้แต่เวลาต้องนั่งติดกับเพื่อร่างยักษ์อย่างวาเลนติโน

จาก AKC: American Chinese Crested Club ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1979 การเข้ามาแสดงในสหรัฐฯ ของสุนัขพันธุ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปลายศตวรรษ 1800 และได้ลงทะเบียนอย่างถูกต้องกับ AKC เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์, 1991 ไม่เป็นอันตรายกับคนที่เป็นภูมิแพ้ ข้อมูลนี้อ้างอิงจากสุนัขพันธุ์ที่มีขนชั้นเดียว และจะสลัดขนน้อยกว่าสุนัขที่มีขนสองชั้น

AKC จะไม่แนะนำหรือระบุพันธุ์ใดเป็นการเฉพาะ หรือยอมรับว่าพันธุ์นี้จะไม่มีผลต่อผู้เป็นโรคภูมิแพ้ เป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะให้โลชั่นสำหรับพวกที่ไม่มีขน เพื่อป้องกันจากความแห้ง และควรใช้โลชั่นป้องกันแสงแดดเพื่อปกป้องผิวเมื่อออกนอกบ้าน สุนัขพันธุ์นี้รื่นเริงและตื่นตัว พวกมันซื่อสัตย์และน่าเอ็นดู และเป็นเพื่อนที่ดี ขี้เล่น และให้ความบันเทิง

ทีมงาน

จอห์น ฮอฟแมน (ผู้เขียนบทภาพยนตร์/กำกับการแสดง) ได้เขียนบทและกำกับการแสดงครั้งแรกของเขาในเรื่อง Good Boy! ฮอฟแมนเกิดที่บรุ๊คลิน และเติบโตในแถบนอกเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ ได้รับปริญญา BFA ในด้านละครจาก Hofstra University

ฮอฟแมนใช้เวลาหลายปีกับการเป็นนักแสดง ทำงานมากมายทั้งละครเวที และหนังโทรทัศน์ ผลงานการแสดงที่พิเศษของเขา (ซึ่งตรงข้ามกับความ "โดดเด่น") ได้แก่ ซีรีส์เรื่องสั้นของฟอกซ์เรื่อง Fortune Hunter, หนังคอมเมดี้ของโชว์ไทม์เรื่อง Attack of the 5'2" Women (แสดงโดย เจฟ กิลลูลี คู่กับ โทเนีย ฮาร์ดิง ของ จูลี่ บราวน์) และกับการใส่สูทสีม่วงและวิกสีแดงที่แสดงเป็น The Mad Hatter ใน 100 ตอนของ ซีรีส์คอมเมดี้เพลงทาง Disney Channel เรื่อง Adventures in Wonderland ในเวลาเดียวกัน การทำงานเขียนบทภาพยนตร์ของฮอฟแมน ก็เริ่มต้น ขึ้น และมันกลม กลืนกับอาชีพนักแสดงของเขา เมื่อเขาได้แสดงในภาพยนตร์ดัดแปลงในเคเบิ้ลทีวีในบทที่เขาประสบความสำเร็จในการแสดงเดี่ยวในเรื่อง Northern Lightsตั้งแต่นั้นมา ฮอฟแมนได้ทำธุรกิจการเขียนบทเรื่องต่างๆให้กับ วอร์เนอร์ บราเดอร์ส และดิสนีย์ และได้เขียนบทให้กับสตูดิโอที่มีชื่อเสียงเกือบทั้งหมด บางส่วนของบทที่เขากำลังเขียน ได้แก่ ภาพยนตร์ดัดแปลงของ ดัค แสตนตัน เรื่อง In Harm's Way: the Sinking of the USS Indianapolis and the Extraordinary Story of its Survivors, Queen of the Jews (เป็นเรื่องราวชีวิตของ เบส ไมเออสัน ซึ่งมีบิล คอนลอน ผู้เคยได้รับรางวัลออสการ์ ทำหน้าที่ผู้กำกับการแสดง) และการนำมาสร้างใหม่ของภาพยนตร์ลี้ลับระทึกขวัญในย้อนยุคของปี 70 เรื่อง The Last of Sheila

เซเก้ ริชาร์ดสัน (ผู้เขียนบทประพันธ์) เป็นนักเขียนผู้อาศัยอยู่ในลอสเองเจลิส เขาเคยผ่านการทำงานในวงการภาพยนตร์ กับการเป็นนักเขียนบทภาพยนตร์ให้กับหลายๆ สตูดิโอชื่อดัง ตั้งแต่ปี 1991 เขายังเคยเป็นรีเรคอร์ดิ้ง มิกเซอร์ ให้กับภาพยนตร์โรงใหญ่ หนังประจำสัปดาห์, และหนังทีวี

งานเขียนของริชาร์ดสันและการบันทึกเริ่มขึ้นตอนต้นปี 1980 ที่ University of California Santa Cruz ที่เขาได้เขียนและได้สร้างโครงการละครวิทยุเรื่อง "Rebels Without Applause" รายการล้อเลียนการเมืองครึ่งชั่งโมง เล่นติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี ก่อนที่จะย้ายมาที่ KFPA, เบิร์กลีย์ และต่อมาได้ออกอากาศทั่วประเทศ ในปี 1986 และตามมาด้วยการโอนสิทธิให้ NPR

ริชาร์ดมีความสุขในชีวิตแต่งงาน มีลูก 2 คน อายุ 2 ขวบและ 4 ขวบ เขากำลังทำงานหนังเรื่องราวของนักตุ๋น ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขิ้นในปี 1872 ที่ซานฟรานซิสโกและนิวยอร์ค

ลิซ่า เฮนสัน (ผู้อำนวยการสร้าง) เป็นหัวหน้าทีมงานสร้างให้กับบริษัท Jim Henson Company ในปี 2003 เฮนสันและพี่น้องของเธอ ไบรอัน, เชริล, จอห์น และฮีทเธอร์ ได้ซื้อบริษัทของครอบครัวของพวกเขากลับคืนมาจากบริษัทโทรทัศน์ ของเยอรมัน EM.tv.

ปัจจุบันเฮนสันดูแลการผลิตภาพยนตร์เรื่อง Five Children and It กำกับการแสดงโดย จอห์น สตีเฟนสัน และสร้างเทคนิคพิเศษโดย Creature Shop ของจิม เฮนสัน นอกเหนือจากนั้นเธอกำลังเตรียมงานสร้างภาพยนตร์ภาคต่อของ Muppet รวมทั้งยังควบคุมการทำงานในหนังเรื่อง Astroboy, King of the Elves, The Moon and the Sun, Neverwhere (เค้าโครงเรื่องจากนวนิยายแฟนตาซียอดนิยมของ นีล ไกแมน) และ Thumb ในเวอร์ชั่นโลกปัจจุบันของ Tom Thumb โดย MGM

ก่อนที่จะกลับมาร่วมงานอีกครั้งกับบริษัทของครอบครัวในปี 1999 เฮนสันได้ร่วมทุนในบริษัท Manifest Film Company กับผู้อำนวยการสร้างเจเน็ต แยง จากปี 1993 ถึงปี 1996 ซึ่งเฮนสันได้รับตำแหน่งประธานฝ่ายผลิตทั่วโลกให้กับ โคลัมเบีย พิกเจอร์ส ภายใต้การเป็นผู้นำการทำงานของเฮนสัน โคลัมเบียได้ผลิตผลงานภาพยนตร์ที่ได้รับทั้งคำชื่นชม และทำรายได้อย่างงดงาม ได้แก่เรื่อง Little Women, Immortal Beloved, Bad Boys, The Net, To Die For, Men in Black, Fly Away Home และ Sense and Sensibility

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับโคลัมเบีย เฮนสันเคยอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารเป็นเวลา 10 ปี ที่วอร์เนอร์ บราเดอร์ส ซึ่งเป็นที่ที่เธอได้ทำงานกับภาพยนตร์ชื่อดัง อย่างเช่นเรื่อง Lethal Weapon, Batman และ Batman Returns

เฮนสันจบการศึกษาในปี 1983 ปริญญาตรีทางด้านวัฒนธรรมและการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เป็นประธานของ Harvard Lampoon ที่ผ่านมาเธอได้รับตำแหน่ง Board of Overseers ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและ Jim Henson Foundation for Puppetry

คริสติน เบลสัน (ผู้อำนวยการสร้าง) ดูแลงานให้กับ Jim Henson Pictures ร่วมกับลิซ่า เฮนสัน เธอเป็นคุณแม่ลูกสอง และเคยร่วมงานกับ Henson Company เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ควบคุมดูแลงานผลิตหลายเรื่องให้กับ Muppet และเรื่องอื่นๆ ในปี 1999 เธออำนวยการบริหารภาพยนตร์เรื่อง Muppets from Space เบลสันเข้ามาอยู่ Henson หลังจากออกจาก Sony Pictures Entertainment ซึ่งเธอได้รับตำแหน่งรองประธานฝ่ายผลิต ก่อนทำงานที่โซนี่เธอได้รับตำแหน่งผู้บริหาร หลายตำแหน่งทั้ง Turner Pictures, Twentieth Century Fox, และ Wendy Finerman Productionsเบลสันย้ายจากนิวยอร์คมาอยู่ลอสแอนเจลิสในปี 1989 และกลายมาเป็น นักอ่านที่ Creative Artists Agency ในนิวยอร์คเธอทำงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายโปรดักชั่นประจำกองถ่าย ในหนังเรื่อง Awakenings หลังจาก 1 ปี ที่ได้ทำงานในแผนกภาพยนตร์ของเอเยนซี่อย่าง Sterling Lord Literistic เบลสันจบการศึกษาในปี 1986 จาก Trinity College ปริญญาตรี สาขา Creative Writing

ระหว่างชีวิตการทำงานของเธอ เบลสันได้ควบคุมงานให้กับภาพยนตร์ที่หลาก หลายกันมากมาย อย่างเช่นผลงานดราม่า เรื่อง Forrest Gump, Fallen, and City of Angels, และ คอมเมดี้เรื่อง Big Daddy, Airheads และ Spice World

สเตฟานี่ อัลเลน (ผู้อำนวยการบริหาร) ได้รับปริญญาตรี สาขา วรรณคดีและ Creative Writing จาก University of California ที่ Santa Cruz เมื่อไม่นานมานี้ได้ก่อตั้งบริษัทสร้างภาพยนตร์ Homegrown Pictures

ขณะที่อยู่ที่ Homegrown อัลเลนได้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Biker Boyz และหนังสั้นเรื่อง 40 ภาพยนตร์สั้นซึ่งตั๋วขายหมดทุกรอบ ในปี 2002 ที่ Los Angeles and Boston Film Festivals

ก่อนที่จะเริ่มงานที่ Homegrown Pictures อัลเลนได้เป็นผู้อำนวยการสร้างที่ 3 Arts Entertainment ที่เธอได้ทำงานสตูดิโอหลายโปรเจ็คให้กับลูกค้าต่างๆเช่น คริส ร็อค, แมธทิว โบรเดอริค, ออลันโด โจนส์ และ แอลแอล คูล เจ

จากปี 1995 ถึงปี 1999 อัลเลนได้รับตำแหน่งประธานของ Jim Henson Pictures ระหว่าง 4 ปีของเธอที่นั่น ได้อำนวยการบริหารภาพยนตร์เรื่อง Buddy, Muppets from Space, The Adventures of Elmo in Grouchland, และ Ratก่อนหน้านี้อัลเลนเป็นรองประธานอาวุโส ให้กับโคลัมเบีย พิกเจอร์ส ซึ่งเธอได้ช่วยปูเส้นทางอาชีพให้กับ John Singleton, Robert Rodriguez และ Darnell Martin เธอเข้าร่วมงานกับโคลัมเบีย พิกเจอร์สในตำแหน่งผู้วิเคราะห์บทประพันธ์และได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานในปีถัดมา ระหว่างที่เธออยู่ในตำแหน่งนี้เป็นเวลา 8 ปีเธอดูแลการสร้างภาพยนตร์มากกว่า 12 เรื่อง ได้แก่เรื่อง Boyz in the Hood, Poetic Justice, Higher Learning, El Mariachi, Desperado, I Like it Like That, Mo' Money และ The Craft

ก่อนที่มาอยู่โคลัมเบีย อัลเลนทำงาน วิเคราะห์บทประพันธ์ให้กับ ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟอกซ์, วอร์เนอร์ บราเนอร์ และ Creative Artists Agency เธอยังเคยเป็นบรรณาธิการหนังสือของ LA/House Editorial ด้วย

เจมส์ เกลนนอน (ผู้กำกับภาพ) เริ่มทำงานในวงการบันเทิงในปี 1963 เป็นตัวประกอบ SEG ก่อนที่จะมาทำงานที่วอร์เนอร์ บราเนอร์ เป็นพนักงานส่งเอกสาร เขาทำตามคำแนะนำของแจ๊ค วอร์เนอร์ ที่ให้ซื้อกล้อง หากว่าเขาอยากจะเป็นตากล้อง ซึ่งเขาได้ใช้ถ่ายในภาพยนตร์เรื่อง Jaws of Death

เกลนนอนเป็นผู้ช่วยตากล้องเป็นเวลา 10 ปี และเป็นผู้ควบคุมกล้องอีก 7 ปี เคยทำงานในภาพยนตร์อย่างเรื่อง Coming Home, Conversation, Altered States, Breaking Away, True Confessions, Electric Horseman, Taps, Poltergeist, Ordinary People, Robo-Cop และ Fast Times at Ridgemont High. สำหรับการเป็นตากล้อง ผลงานที่สร้างชื่อให้กับเกลนนอนได้แก่เรื่อง Return of the Jedi, El Norte, Smooth Talk, Lemon Sky, Flight of the Navigator, Citizen Ruth, Election และ About Schmidt ทั้งหมดได้รับรางวัลและเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลจากเทศกาลหนังหลายรางวัล ส่วนเรื่อง Madison, US of Leland, Carnivale และ Deadwood เป็นผลงานที่สร้างชื่อให้กับเขาเมื่อเร็วๆนี้และจะออกฉายในปี 2003

เกลนนอนเป็นสมาชิกของ Academy of Motion Picture Arts and Sciences, เป็นกรรมการตัดสินให้กับการประกวด Academy's Nichols Fellowship Screenwriting และเป็นสมาชิกของคณะกรรมการที่ปรึกษาในการพิจารณารางวัลตุ๊กตาทองด้านถ่ายภาพ รวมทั้งเป็นกรรมการบริหารของ UCLA Theater Arts Alumni Association และ Sun Valley Film Festival เขาได้เป็นวิทยากรให้กับ UCLA, USC, Pepperdine, American Film Institute และ Sundance Institute ในการเป็นสมาชิกของ American Society of Cinematographers เขาได้เป็นกรรมการของ Editorial Committee ของนิตยสาร ASC และได้รับการตีพิมพ์ไว้ในนิตยสาร รวมทั้งนิตยสาร International Photographers ด้วย

เจอรี่ แวเน็ก (ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์) ได้ทำงานอย่างมากมายในด้านออกแบบฝ่ายศิลป์ในวงการบันเทิง เป็นผู้ออกแบบฉากให้หนังประจำสัปดาห์หลายเรื่อง และในซีรีส์ทีวีที่ได้รับความนิยมอย่างสูงหลายเรื่องได้แก่ หนังของเจมส์ คาเมรอน เรื่อง Dark Angel เป็นเวลา 2 ปี (ซึ่งได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลด้านออกแบบฝ่ายศิลป์ยอดเยี่ยมจาก Society of Motion Picture และ Television Art Directors (SMPTAD) หนังของมีมี เลเดอร์ เรื่อง John Doe, The Breaking News, Midtown North, McShane และ Magnificent Seven (สำหรับเรื่องนี้เขาก็ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลด้านออกแบบฝ่ายศิลป์ยอดเยี่ยมจาก SMPTAD อีกด้วย)

ผลงานหนังประจำสัปดาห์ของแวเน็กได้แก่เรื่อง Lucky 7, Dodson's Journey, Black and Blue, The Simple Life of Noah Dearborn, Houdini (ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอื่นๆของ SMPTAD ด้วย) The Price of a Broken Heart, Everything That Rises, Rough Riders, Dead Man's Walk, Streets of Laredo, Gambler V และ Rio Diablo

เครก พี เฮอริ่ง (ผู้ลำดับภาพ) เคยตัดต่อภาพยนตร์มาก่อนหน้านี้อย่างเช่น ในเรื่อง The Tuxedo, Bedazzled, Analyze This, Multiplicity และ Groundhog Day

เครกเริ่มอาชีพการงานของเขาโดยเป็นผู้ช่วยให้กับผู้อำนวยการสร้างที่เป็นที่รู้จักและผู้กำกับการแสดง สแตนลี่ เครเมอร์ ก่อนที่เขาจะย้ายมาทำงานในห้องตัดต่อ ที่เขาทำงานในภาพยนตร์มากมายกับพ่อของเขา เพมโบรก เฮอริ่ง ผู้ที่เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 3 ครั้ง พวกเขาได้ร่วมกันทำงาน ให้กับหนังของ ซิดนีย์ โพแล็ค เรื่อง Out of Africa, หนังของ อิวาน ไรท์แมน เรื่อง Legal Eagles, หนังของเอมี่ แฮกเคอลิ่ง เรื่อง European Vacation และหนังของ โคลิน ฮิกกินส์ เรื่อง 9 to 5 ตลอดอาชีพการทำงานของเขา เครกได้ทำงานทางด้านภาพยนตร์มามากกว่า 30 เรื่องและเคยร่วมงานกับอีก 9 ผู้ลำดับภาพซึ่งเคยได้รับหรือถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองมาแล้ว

มาร์ค มาเธอร์สบาห์ (ผู้ประพันธ์เพลง) ก้าวเข้าสู่ความสนใจของสื่อมวลชน ตั้งแต่เมื่อกลางทศวรรษที่ 70 ในฐานะ นักร้อง/คีย์บอร์ด/ผู้สร้างสรรค์ ในโปรเจ็คมัลติมีเดียของวง DEVO จนถึงปัจจุบัน ในช่วงทศวรรษที่ตามมาวงนี้ได้ออกอัลบั้มมากมาย รวมทั้งซิงเกิลฮิต (ให้กับทั้ง Virgin และ Warner Brothers Records), ทัวร์รอบโลก, งานแสดงดนตรีซึ่งขจรขจายจากวงการดนตรีในถิ่นกำเนิดที่โอไฮโอ ทำให้เกิดความพยายามของพวกเขาในการเผยแพร่ The Truth About Devolution มาเธอร์สบาห์ และ DEVO ได้สร้างผลงานภาพยนตร์ และวิดีโอ วิชวลอาร์ต และงานสิ่งพิมพ์ต่างๆ - แม้กระทั่งสายแฟชั่นที่ทำตามเครื่องแต่งกายบนเวทีของวงนี้

ไม่นานก่อนที่วง DEVO จะสลายวงในช่วงกลางของทศวรรษที่ 80 มาเธอร์สบาห์ได้แต่งเพลงให้กับงานโฆษณาของ Hawaiian Punch ด้วยการใช้เสียงของโรงงานบรรเลงเป็นเพลง เพื่อสร้างจังหวะให้กับหุ่นยนตร์แอนิเมชั่นที่กำลังเต้น และอีกไม่นานหลังจากนั้น ด้วยเทคโนโลยีตัวอย่างเสียงซึ่งแพร่หลาย ทำให้เสียงเหล่านี้กลายเป็นที่ยอมรับว่าเป็น "ซาวนด์ดีไซน์" นวัตกรรมของมาเธอร์สบาห์ชิ้นนี้ทำให้เขาได้รับรางวัล Clio Award และคำเสนอจากงานโฆษณาอีกมากมาย นอกเหนือจากอาชีพใหม่ของเขา : แต่งเพลงให้กับภาพยนตร์และโทรทัศน์

มาเธอร์สบาห์เป็นผู้แต่งท่วงทำนองให้กับ Pee Wee Herman's Playhouse และสร้างเพลงประกอบให้กับอีกหลายตอนของซีรี่ส์ ไม่นาน ไม่นานต่อมาเขาได้ทำงานซาวน์ดแทร็ค รวมทั้งเพลงออริจินัลอีก 420 เพลง, ไปจนถึงงาน 100 ตอนทาง Disney Channel ในเรื่อง Adventures in Wonderland ต่อมาเขาได้รับการทาบทามให้แต่งเพลงประกอบให้กับ Rugrats ซึ่งเป็นรายการโชว์โทรทัศน์สำหรับเด็กที่เป็นที่นิยมมากที่สุดอีกด้วย

มาเธอร์สบาห์อยู่ในคณะกรรมการซึ่งทุ่มเทให้กับการอนุรักษ์มรดกทางดนตรี ของนักประพันธ์ผู้เป็นตำนานอย่าง เรย์มอนด์ สก็อต และเก็บรักษาคอลเล็คชั่นเครื่องประสานเสียงซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ทางดนตรี ในสตูดิโอของเขา เขายังได้ได้ก่อตั้งบริษัทภาพยนตร์หัวก้าวหน้าที่ชื่อว่า Atomika ร่วมกับแนนซี เฟอกูสัน

เมื่อสี่ปีที่แล้ว หลังจากช่วงที่สองของการบันทึกและเดินสายทัวร์ของวง DEVO ซึ่งยาวนานถึงต้นทศวรรษที่ 90 มาเธอร์สบาห์จึงทุ่มเทการใช้พลังงานด้านดนตรีของเขาให้กับงานเพลงในภาพยนตร์ ผลงานของเขา ได้แก่ Rugrats: The Movie, 200 Cigarettes, Rushmore, Drop Dead Gorgeous, และ The Mystery Men มาร์คยังได้เขียนเพลงและอีก 20 เพลงออริจินัลให้กับ A Rugrats Live Adventure ส่วนผลงานเรื่องอื่นๆ ได้แก่ A Guy Thing, Rugrats II, Dawson's Creek, Rocket Beach, It's the Rage, Sugar and Spice, Rocky and Bullwinkle, Welcome to Collinwood, Sorority Boys, The Royal Tenenbaums และ Cheaters

เอเยนซีโฆษณาทั้งหลายยังคงให้ความไว้วางใจในบริการของมาเธอร์สบาห์ รวมทั้ง Universal Studios, Miller Lite, JC Penney, Mattel, Cherry Coke, Toshiba, Toyota, The Learning Channel, และ Nestle ซึ่งเป็นรายชื่อลูกค้ารุ่นล่าสุดของเขา

บิล แบนเนอร์แมน (ผู้ร่วมอำนวยการสร้าง) ทำงานให้ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายยูนิตโปรดักชั่น ในหนังเรื่องฮิตของซัมเมอร์เรื่อง The Hulk นอกเหนือจากการทำงานของเขาในการเป็นไลน์ โปรดิวเซอร์ ในเรื่อง Chill Factor และ Dead Man on Campus แล้ว เขายังทำเป็นผู้ช่วยผู้กำกับที่ 1 ในเรื่อง Bridges of Madison County และ Absolute Powerประสบการณ์ทางโทรทัศน์ของแบนเนอร์แมนได้แก่ หนังประจำสัปดาห์ของ MTV เรื่อง Everybody's Doing it, Wasted, Anatomy of a Hate Crime และ 2Gether--จบ--

-รก-