บรุ๊คเคอร์ประกาศผลประกอบการรอบ 6 เดือนสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2546

22 Aug 2003

กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์

จุดเด่นด้านการดำเนินงาน

6 เดือน (สิ้นสุด 30 มิถุนายน)

เปลี่ยนแปลง

2546

2545

(คิดเป็นร้อยละ)

รายได้ (ล้านบาท)

20.38

17.13

18.97 ขาดทุนสุทธิ (ล้านบาท)

(11.59)

(47.41)

75.55 ขาดทุนต่อหุ้น:

คำนวนขั้นพื้นฐาน (บาท)

(0.08)

(0.24)

66.67

คำนวนปรัปลด (บาท)

(0.03)

(0.18)

83.33 มูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหุ้น (บาท)

0.18

0.48

62.50

จุดเด่นด้านต่างๆ ในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2546

เศรษฐกิจไทย:

  • ตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของรายได้มวลรวมประชาชาติลดลงเหลือ 3.8% จากตัวเลขเดิม ที่มีการคาดการณ์ไว้ที่ 4.5 % จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคซาร์สในช่วง ไตรมาสที่ 2 ของปี 2546
  • ตัวเลขการใช้จ่ายเงินของคนไทยจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นในครึ่งหลังของปี 2546 โดยมีแรงหนุน จากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่ สุดในประวัติศาสตร์
  • คาดการณ์การส่งออกของไทยในปี 2546 เพิ่มขึ้น 10.8% จากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากการ ส่งออกสินค้าเกษตร ชิ้นส่วนยานยนต์ และอิเลคทรอนิคส์
  • อัตราการนำเข้าของปี 2546 มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 10.5% จากปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจาก การนำเข้าสินค้าอุปโภค บริโภคที่มีมูลค่าถึง 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • เมื่อนับรวมรายจ่ายเพิ่มเติมของรัฐบาลกับการส่งออก และการบริโภคภายในประเทศน่าจะ ทำให้ รายได้มวลรวมประ ชาชาติของไทยยังอยู่ในระดับสูง และเพิ่มขึ้นต่อไป

การวางตำแหน่งในตลาด:

บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป ได้ปรับเปลี่ยนกิจกรรมทางการตลาด และการใช้จ่าย เพื่อให้สอดล้อง และเสริม ความเด่นชัดให้กับ สภาพปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคตของเศรษฐกิจไทยในปี 2546 โดยบริษัทฯ ได้จัดระบบโครงการด้านการตลาด การโฆษณา และการประชาสัมพันธ์ใหม่เพื่อสร้างความรับรู้ ในสินค้าและบริการของบริษัทฯ ในหมู่ลูกค้าปัจจุบันและกลุ่มลูกค้าในอนาคต ซึ่งการ ดำเนิน งานในขั้นต่อไปของบริษัทฯ จะมุ่งตอบสนองแนวทาง และตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการในกลุ่มงาน หลักของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มที่ปรึกษาด้านธุรกิจ กลุ่มวิจัยการตลาด และกลุ่มงานเอกสาร เผยแพร่ของบริษัท ซึ่งทวีความสำคัญขึ้นในปีที่ผ่านมาเมื่อเปรียบ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้สร้างความสัมพันธ์ทางการตลาดอันดีกับผู้ประกอบธุรกิจด้านสื่อสาร มวลชนทั้งภายในประเทศ และในกลุ่มภูมิภาค เพื่อกลุ่มงานเอกสารเผยแพร่ของบริษัท

บัญชีงบดุลของบริษัท:

เมื่อเปรียบเทียบกับบัญชีงบ ณ 30 มิถุนายน 2546 กับ ณ 31 ธันวาคม 2545 พบว่า

  • สินทรัพยหมุนเวียนโดยรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นจากเดิม 19.76 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2545 เป็น 21.47 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546
  • มูลค่าอุปกรณ์สุทธิลดลงจาก 10.72 ล้าน ณ. 31 ธันวาคม 2545 เหลือ 9.31 ล้านบาท ณ 30 มิถุนายน 2546
  • มูลค่าสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตน เช่น ค่าความนิยม และเครื่องหมายการค้าได้ถูกตัดบัญชี ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
  • หนี้สินรวมลดลงจาก 14.13 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2545 เหลือ 6.32 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546
  • ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 20.29 ล้านบาท ปลายปี 2545 เป็น 28.11 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546 เนื่องจากเพิ่มทุนของบริษัทตามใบจองสิทธิในเดือนมกราคม 2546 จำนวน 49,394,025 หุ้น จากใบจองสิทธิทั้งหมด 104,074,750 หุ้น

ทีมผู้บริหาร

  • มร.จอร์จ ฮูเคอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ซึ่งจะเกษียณอายุออกจากตำแหน่งในเดือนสิงหาคม 2543 ตกลงจะร่วมงานกับ บริษัทในฐานะที่ปรึกษาผู้บริหารของบริษัทต่อไป
  • บริษัทฯ ได้สรรหาผู้ดำรงในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง ได้แก่ ดร.ฟิลลิป บรอน และคุณจักริน สนั่นเครื่อง เพื่อเสริม ความสามารถให้กับทีมงานบริหารของ กลุ่มที่ปรึกษาทางธุรกิจ และกลุ่มวิจัยการตลาด ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2546

การเพิ่มทุน

  • จวบจนถึงเดือนมิถุนายน 2546 บริษัทประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุนจากการขายหุ้นให้แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจง จำนวน 122,262,975 หุ้น มูลค่า 50.99 ล้านบาท

บริษัทจะใช้เงินทุนที่เพิ่มขึ้นเพื่อการต่อไปนี้

1. ขยายทรัพยากรด้านห้องสมุดการวิจัย และเจ้าหน้าที่

2. ลงทุนด้านการเปลี่ยนแปลงโครงร่างภายนอกของฐานข้อมูลบริษัท และการเพิ่มเติม ซอฟท์แวร์การบริหารจัดการฐาน ข้อมูลใหม่ เพื่อทำให้ฐานข้อมูลที่มีและเนื้อหาอยู่ใน รูปแบบดิจิตอล

3. ลงทุนเพิ่มเติมและหาความร่วมมือด้านกลยุทธ์การพาณิชย์อิเลคทรอนิคส์ในสายผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น สินค้าด้านการเงิน ออนไลน์ใหม่ตามความเหมาะสม และการทำงานร่วมกัน

4. ลงทุนเพิ่มเติมในการใช้งานซอฟท์แวร์ร่วมกันสำหรับกลุ่มการวิจัยตลาด

5. ลงทุนเพื่อการรณรงค์ในด้านการโฆษณา การตลาดและการประชาสัมพันธ์ของสินค้า และ บริการของบริษัท--จบ--

-รก-

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit