กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ได้จัดอันดับเครดิตภายในประเทศ(National Rating) ให้กับธนาคารธนชาติ โดยอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอยู่ที่ 'A-(tha)'ระยะสั้นอยู่ที่ 'F2(tha)'แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ ฟิทช์ ยังได้จัดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ 'D' และอันดับเครดิตสนับสนุนระดับ 5 ให้กับธนาคาร อันดับเครดิตเหล่านี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเงินกองทุน และ ศักยภาพในการทำกำไรในอนาคต แต่ในขณะเดียวกันก็ได้พิจารณาถึงการที่ธนาคารเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจโดยเฉพาะการที่ธนาคารยังไม่มีเครือข่ายทางธุรกิจธนาคารที่แข็งแกร่ง, การที่ธนาคารต้องพึ่งพาการสนับสนุนทางด้านการดำเนินงานจากกลุ่มบริษัทเงินทุนธนชาติ และ ความสามารถในการทำกำไรในระดับที่ยังไม่น่าจะสูงนักในช่วง 3 ปีข้างหน้า เนื่องจาก การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงเพื่อที่จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของสินเชื่อและเงินฝาก, การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในช่วงเริ่มต้นของการประกอบธุรกิจ และ ความเสี่ยงในการที่ธนาคารอาจจะต้องกันสำรองเพิ่มเติมเมื่อพิจารณาถึงระดับสินเชื่อที่ได้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ที่ยังมีอยู่สูง
เมื่อพิจารณาเฉพาะปัจจัยบางตัว ธนาคารธนชาตินับว่าเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่แข็งแกร่งแห่งหนึ่งในประเทศไทยด้วยระดับหนี้เสียที่ต่ำ, ระดับสำรองหนี้เสียที่สมเหตุสมผล, เงินกองทุนที่แข็งแกร่ง และความสามารถในการทำกำไรที่ไม่ด้อยไปกว่าธนาคารอื่น ธนาคารธนชาติมีกำไรสุทธิ 393 ล้านบาทในปี 2545 เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 303 ล้านบาทในปีก่อน เนื่องจากการเติบโตที่สูงของสินทรัพย์ และการกันสำรองที่น้อยลง ผลการดำเนินงานของธนาคารในครึ่งปีแรกของ2546 ก็พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำไรสุทธิในครึ่งปีแรกของ 2546 เพิ่มขึ้น 6% เป็น 252 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลจากการลงทุน, กำไรจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น, การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและ การเพิ่มขึ้นของผลกำไรจากการขายสินทรัพย์รอการขาย
อย่างไรก็ตาม ธนาคารธนชาติยังเป็นธนาคารที่เพิ่งจะเริ่มดำเนินงานซึ่งธนาคารยังมีเครือข่ายทางธุรกิจที่ยังไม่แข็งแกร่งมากนักทั้งทางด้านลูกค้าสินเชื่อ, ลูกค้าเงินฝาก หรือ ชื่อเสียงของธนาคารที่ยังใหม่อยู่ถึงแม้ว่าทางธนาคารจะสามารถอาศัยพึ่งพาธุรกิจเงินทุนของบริษัทแม่ได้บ้าง ดังนั้นธนาคารคงจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการสร้างเครือข่ายธุรกิจธนาคาร ส่วนการทำกำไรธนาคารน่าจะพัฒนาได้รวดเร็วควบคู่ไปกับการสร้างธุรกิจด้วยเงื่อนไขที่ว่าคุณภาพของสินทรัพย์น่าที่จะไม่ถดถอยลงและการจัดการคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
จากการที่ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ และจากการที่ธนาคารได้โอนหนี้เสียไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์เอ็นเอ็ฟเอส และบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ของรัฐบาล (TAMC) สินทรัพย์ด้อยคุณภาพของธนาคารได้ลดลงเหลือเพียง 914 ล้านบาทหรือ 2.6% ของสินเชื่อรวม ณ สิ้นมิถุนายน 2546 อย่างไรก็ตามสินเชื่อที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ก็คงยังมีอยู่สูงถึง 15% ของสินเชื่อรวม แม้ว่าธนาคารธนชาติจะมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระดับต่ำ เเต่อัตราการปล่อยสินเชื่อที่สูง และระดับสินเชื่อที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ที่ยังมีอยู่มากที่ได้รับโอนมาจากบริษัทเงินทุนธนชาติ อาจทำให้ความเสี่ยงที่คุณภาพของสินทรัพย์ของธนาคารอาจถดถอยลงไปอีกได้ในอนาคต
ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2546 ธนาคารมีเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ที่ 8.4 พันล้านบาท และเงินกองทุนขั้นที่ 2 อยู่ที่ 3 พันล้านบาท หรือ อัตราเงินกองทุนขั้นที่ 1 อยู่ที่ 23.4% และอัตราเงินกองทุนทั้งหมดที่ 31.8 % แม้ว่าอัตราเงินกองทุนจะยังดูแข็งแรง แต่อัตราการเติบโตของสินเชื่อที่สูงและการกันสำรองเพิ่มเติมอาจจะทำให้อัตราเงินกองทุนลดลงได้ใน 2 ปี ข้างหน้า อย่างไรก็ตามอัตราเงินกองทุนที่ลดลงน่าจะยังคงแข็งแรงอยู่
สำหรับรายงานของธนาคารธนชาตินั้นหาได้จาก www.fitchresearch.com
ติดต่อ
ชัยพัฒน์ ไพฑูรย์,
Vincent Milton, กรุงเทพฯ
+662 655 4762/4759
David Marshall, ฮ่องกง
+852 2973 6293
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
หมายเหตุ : อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินและอันดับเครดิตสนับสนุนของฟิทช์อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของฟิทช์วิเคราะห์ถึงสถานะทางการเงินของธนาคารเมื่อไม่มีปัจจัยช่วยเหลือภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง อันดับเครดิตสนับสนุนวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ในการที่ทางธนาคารจะได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น หรือ จากรัฐบาลถ้าทางธนาคารประสบปัญหา อันดับเครดิตนี้ไม่ใช่อันดับเครดิตของหนี้ แต่เป็นอันดับความแข่งแกร่งของสถานะการเงินของธนาคาร และระดับการสนับสนุนจากภายนอกซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีให้ทางธนาคารก็ได้--จบ--
-รก-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit