สยามแฟมิลี่มาร์ทแต่งตั้ง ศ.ดร.กนก คุมบังเหียนบริหาร

11 Feb 2003

กรุงเทพฯ--11 ก.พ.--แฟมิลี่มาร์ท

แฟมิลี่มาร์ท ประกาศแต่งตั้ง ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน เป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท จำกัด เพื่อดูแลรับผิดชอบงานทั้งหมดของร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ทในประเทศไทย

มร.มินามิโมโต้ Director of Family Mart in Charge of International Operation เปิดเผยว่า

"ผมมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ ศ.ดร.กนก ได้ตัดสินใจเข้ามาบริหารงานที่แฟมิลี่มาร์ทประเทศไทย ซึ่งนับได้ว่าเป็นข่าวดีสำหรับปีใหม่นี้ของเรา โดยหลังจากที่ได้ติดต่อทาบทาม ศ.ดร.กนก มาเป็นเวลานาน จนเมื่อภารกิจการบริหารที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสันเสร็จสิ้น ท่านจึงพร้อมที่จะมาช่วยสร้างแฟมิลี่มาร์ทประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผมมีความมั่นใจในความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทางด้านธุรกิจค้าปลีกของ ศ.ดร.กนกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความสามารถในการปรับโครงสร้างหนี้ และการปรับปรุงระบบการดำเนินธุริกจของห้างสรรพสินค้าโรบินสันจนประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างเรียบร้อย"

มร.มินามิ โมโต้ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึง นโยบายและทิศทางของสยามแฟมิลี่มาร์ท ภายหลังการปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงว่า

"ในเรื่องของนโยบายนั้น เราจะพัฒนาและสร้างร้านค้าสะดวกซื้อในเครือแฟมิลี่มาร์ทให้แข็งแกร่ง โดยได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากสำนักงานใหญ่ เราจึงมุ่งหวังว่าจะสร้างบริการที่ดีแก่ตลาดในเมืองไทย เพื่อลูกค้าคนไทย โดยคนไทย และไม่เพียงเท่านั้นแฟมิลี่มาร์ทยังมีนโยบายที่ต้องการจะคืนประโยชน์กลับสู่สังคมไทยอีกด้วย"

สำหรับทิศทางและแนวทางในการดำเนินงานของสยามแฟมิลี่มาร์ท ศ.ดร.กนก ได้กล่าวว่า

1.เราจะพยายามสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่าสินค้าต่างๆ ที่วางขายในแฟมิลี่มาร์ทนั้น เป็นสินค้าจำเป็นและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า โดยเราจะลงทุนศึกษาวิจัยผู้บริโภคเพื่อที่จะได้ทราบถึงความต้องการที่แท้จริง ดังนั้นการวิจัยและการพัฒนาจึงเป็นกระบวนการที่จำเป็นและต้องดำเนินการในส่วนนี้ โดยเราจะให้ความสนใจในทุกประเภทสินค้า เพราะเราเชื่อมั่นว่าสินค้าแตะละประเภทนั้นสามารถสร้างให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ลูกค้าต้องการ และดึงดูดให้ลูกค้ากลับมายังร้านเราอีก

2.เราจะพัฒนาร้านให้มีความน่าใจและสร้างความสดใหม่ตลอดเวลา โดยเราจะสร้างร้านให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ไม่เฉพาะเพียงแต่การออกแบบและภาพรวมของร้านเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงการวางแผนกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ เพื่อสร้างความตื่นเต้นเร้าใจแก่ลูกค้าตลอดทั้งปี

3.เราจะปรับปรุงระบบสนับสนุนทั้งหมด ให้ได้มาตรฐานและแข็งแกร่งเช่นเดียวกันกับสำนักงานใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นระบบสินค้าคงคลัง ระบบสารสนเทศ ระบบ P.O.S. ระบบการสั่งซื้อขั้นตอนและวิธีการดำเนินงานที่มีมาตรฐาน ถูกต้องและรวดเร็ว โดยเราจะทำให้ระบบทุกอย่างมีความเข้าใจง่ายและดำเนินการได้ง่าย ทั้งนี้องค์กรเราควรจะต้องมีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ได้ผลการปฏิบัติงานที่ดีขึ้น

ส่วนกระแสข่าวต่างๆ ของแฟมิลี่มาร์ทนั้น มร.มินามิ โมโต้ ได้กล่าวว่า

"ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ได้มีกระแสข่าวต่างๆ เกี่ยวกับสยามแฟมิลี่มาร์ทหลายเรื่องที่สร้างความสับสนพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องที่แฟมิลี่มาร์ทมีปัญหาด้านการเงินจนต้องเจรจาหาผู้ร่วมทุน หรือกระแสข่าวที่ว่ามีนักลงทุนบางรายสนใจที่จะซื้อกิจการแฟมิลี่มาร์ทซึ่งในระหว่างนั้นเรายังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ทั้งๆ ที่เรารู้ดีว่ากระแสข่าวนั้นไม่เป็นความจริง ประกอบกับในขณะนั้นเราให้ความสำคัญในการเชิญ ศ.ดร.กนก ให้เข้ามาร่วมงานกับสยามแฟมิลี่มาร์ท เพื่อกำหนดกลยุทธศาสตร์และแผนธุรกิจในระยะยาวมากกว่าจนกระทั่งเมื่อ ศ.ดร.กนก ได้ตกลงใจที่จะมาช่วยสร้างความ แข็งแกร่งให้แก่แฟมิลี่มาร์ทแล้วจึงถึงเวลาที่จะให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระแสข่าวที่สับสนเหล่านั้นทั้งหมด"

ในเรื่องแรกเกี่ยวกับข่าวการขายกิจการสยามแฟมิลี่มาร์ท ไม่เคยมีนโยบายที่จะขายหุ้น 100% หรือหุ้นส่วนใหญ่ให้กับนักลงทุนรายใดทั้งสิ้น เพราะเราต้องการที่จะบริหารธุรกิจเองเนื่องด้วยเรามีความเชี่ยวชาญทางด้าน Convenient Store อย่างลึกซึ้ง และให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในเรื่องทีมงานที่จะเข้ามาบริหารระดับสูง ที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ด้านธุรกิจค้าปลีกอย่าง ศ.ดร.กนก เพื่อให้เข้ามาเป็นผู้บริหารระดับสูงสุดของสยามแฟมิลี่มาร์ทก็เป็นการยืนยันนโยบายและเจตนารมณ์ของเราได้อย่างชัดเจน ที่จะดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อในเมืองไทย เพื่อลูกค้าคนไทย ด้วยทีมงานมืออาชีพที่เป็นคนไทย และแน่นอนที่สุดด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังจากแฟมิลี่มาร์ท

ส่วนข่าวที่เกี่ยวกับปัญหาด้านการเงินนั้น ทางบริษัทมีความเชื่อมั่นและให้คำมั่นสัญญาที่จะขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างเต็มที่ โดยเรื่องเงินลงทุนสำหรับการขยายกิจการตลอดจนการขยายสาขานั้น ไม่ได้เป็นประเด็นปัญหาอย่างใดเลยสำหรับบริษัทเรา เพราะเราได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างเต็มที่จากบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นข่าวที่ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ในช่วงที่ผ่านมาว่า สยามแฟมิลี่มาร์ทมีปัญหาทางด้านการเงินนั้น จึงไม่เป็นความจริงแต่ในทางกลับกันมีนักลงทุนบางรายที่ให้ความสนใจ เนื่องจากมองเห็นศักยภาพของเราและได้พยายามติดต่อเพื่อขอเข้าร่วมลงทุนกับเรา

มร.มินามิโมโต้ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "ศ.ดร.กนก จะเริ่มงานในตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของบริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท จำกัด อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที 1 มีนาคม 2546 เป็นต้นไป ซึ่งก่อนที่ ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน จะมาร่วมงานที่สยามแฟมิลี่มาร์ทนั้น เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของห้างสรรพสินค้าโรบินสันมาเป็นเวลาประมาณ 5 ปี"

**ข้อมูลโดยสังเขปของแฟมิลี่มาร์ท และสยามแฟมิลี่มาร์ท**

ประเทศ

จำนวนร้านค้า

  • ญี่ปุ่น

5,956 ร้าน

  • ไต้หวัน

1,303 ร้าน

  • เกาหลี

1,430 ร้าน

  • ไทย

246 ร้าน

รวมทั้งสิ้น

8,935 ร้าน

มูลค่ายอดขายของสยามแฟมิลี่มาร์ท ในปี 2545 ทั้งหมด 2,500 ล้านบาท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์

โทร. 02-255-3620-22 ต่อ 114--จบ--

-สท-

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit