ไทยฟูจิซีร็อกซ์เดินหน้าความเป็นผู้นำ มุ่งเน้นตลาดดิจิตัลมัลติฟังก์ชั่นใช้ Imari เป็นหัวหอกปีนี้ตั้งเป้ารายได้กว่า 3,000 ล้านบาท

27 Feb 2003

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--เดนท์สุ ยังก์ แอนด์ รูบิแคม

นายชัยยันต์ เหวียนระวี ผู้จัดการฝ่ายสำนักงานวางแผนและพัฒนาการตลาดบริษัทไทยฟูจิซีร็อกซ์ เปิดเผยถึง ความสำเร็จของรายได้ปี 2545 บรรลุยอดขายรวม 2,700 ล้านบาทตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ นับเป็นอัตราการเติบโต 10% ส่วนแบ่งการตลาดกว่า 30% พร้อมมุ่งเดินหน้าความเป็นผู้นำตลาดออฟฟิศออโตเมชั่น ด้วยเป้าหมายรายได้รวมกว่า 3,000 ล้านบาทในปีนี้ มุ่งเน้นตลาดดิจิตัล มัลติฟังก์ชั่นมากขึ้น รวมทั้งขยายตลาดผลิตภัณฑ์ประเภท High Value และธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ พร้อมชูความพร้อมในด้านคุณภาพของบริการหลังการขายเพื่อความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

นายชัยยันต์ ได้เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัท ไทยฟูจิซีร็อกซ์ จำกัด ที่บรรลุเป้ายอดรายได้รวมถึง 2,700 ล้านบาทตามแผนงานที่ตั้งไว้

นับเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 10% เมื่อเทียบกับผลประกอบการในปี 2544 หรือคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 30% ทั้งนี้เป็นผลจากการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ดิจิตัล ทั้งสีและขาวดำ นับเป็นสัดส่วนถึงมากกว่า 40% ของรายได้รวม ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ดิจิตัลหลักที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในปีที่แล้วและมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ ได้แก่ Imari (Document Centre C400/C320) สามารถสร้างรายได้ถึง 200 ล้านบาท

Imari (Document Centre C400/C320) ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการทั้ง 2 รุ่นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีที่ผ่านมา จัดเป็นเป็นนวัตกรรมสุดยอดของเครื่องมัลติฟังก์ชั่นสมบูรณ์แบบรายแรกในประเทศไทยที่สามารถพิมพ์ได้ทั้งขาวดำและสี หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นโซลูชั่นจัดการเอกสารขาวดำที่ชำนาญเรื่องสี และได้มีการจัดโรดโชว์สาธิตความสามารถในการจัดการงานเอกสารของเครื่อง Imari ที่เหมาะสมกับความต้องการของสำนักงานในปัจจุบัน สำหรับผู้ที่สนใจและประชาชนทั่วไปตามอาคารสำนักงานหลัก ๆ ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งผลปรากฎว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก

โดยมีลูกค้าจำนวนมากได้ขอให้นำไปทดลองใช้กับเน็ตเวิร์คของบริษัทเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ และมากกว่า 80% ของลูกค้าดังกล่าวพอใจกับความประสิทธิภาพ และตัดสินใจเลือก Imari ให้เป็นส่วนหนึ่งในระบบการทำงานของบริษัท

ทางด้านนโยบายและแผนการตลาดของบริษัท ไทยฟูจิซีร็อกซ์ จำกัด ในปี 2546 บริษัท ฯ ได้ตั้งเป้ารายได้รวมสูงกว่า 3,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 15% ด้วยเป้าหมายดังกล่าว จะทำให้ยังคงความเป็นผู้นำในตลาด ในส่วนของแผนการตลาด จะมุ่งเน้นขยายตลาดดิจิตัลมัลติฟังก์ชั่นมากขึ้น โดยตั้งเป้าสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในปีนี้มากกว่า 70% จะเป็นเครื่องดิจิตัลมัลติฟังก์ชั่น และเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจจะมีการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ประเภท High value และธุรกิจใหม่ ๆ ได้แก่ Publishing, High End Printing System, Software Business และ Outsourcing Service อีกทั้ง มุ่งเน้นการขายผ่านบุคลากรของบริษัท ฯ ในการนำเสนอแบบ Task Team ที่ประกอบไปด้วย บุคลากรที่มีความชำนาญในด้านต่าง ๆ ทั้งผลิตภัณฑ์ ซอฟแวร์ และกระบวนการจัดการงานเอกสาร เพื่อให้คำปรึกษาให้แก่ลูกค้าและทำให้ลูกค้าได้รับโซลูชั่นที่เหมาะสมที่สุดกับลักษณะการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ในปีนี้บริษัท ฯ ได้มีนโยบายเน้นในการเสริมสร้างคุณภาพของการบริการหลังการขาย ที่เป็นรูปแบบที่มีการพัฒนาเพื่อให้เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละประเทศ

บริษัท ฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรด้านการบริการว่ามีความสำคัญต่อการรองรับเทคโนโลยีที่เป็นแนวโน้มใหม่ จึงได้วางรากฐานที่พร้อมสำหรับการบริการสำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ทุกปีบริษัทฯ จะสนับสนุนในการส่งพนักงานไปอบรมเทคโนโลยีใหม่ในต่างประเทศ และเชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาให้การฝึกอบรมแก่พนักงานในประเทศ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันภายในองค์กรเกี่ยวกับทักษะการบริการ (Skill Contest) เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านทักษะความชำนาญในการบริการอย่างต่อเนื่อง

นายชัยยันต์ กล่าวโดยสรุปถึงสภาพตลาดรวมของธุรกิจออฟฟิศออโตเมชั่นว่า จะยังคงมีอัตราการเติบโต 10% ต่อปี โดยมีแนวโน้มเป็นดิจิตัลมากขึ้นตามผู้ผลิตในต่างประเทศ และมีการขยายผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงทุกระดับทั้งการใช้งานในออฟฟิศขนาดเล็กจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ นอกจากนี้ธุรกิจเครื่องถ่ายเอกสาร อุปกรณ์พรินเตอร์ เครื่องมัลติฟังก์ชั่น เป็นธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีคล้าย ๆ กัน ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจดังกล่าวมีการขยายสายการผลิตให้ครอบคลุม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ยังผลให้เกิดภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และคาดว่าจะรุนแรงขึ้นในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า ดังนั้นเพื่อครองความเป็นผู้นำต่อไป ไทยฟูจิซีร็อกซ์ จะยังคงเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย และใช้นโยบายเชิงรุกทั้งโฆษณาประชาสัมพันธ์ ตลอดจนให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่าย การเน้นคุณภาพบริการหลังการขาย ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำนโยบายหลักในการดำเนินธุรกิจที่มี "คุณภาพเพื่อความพึงพอใจสูงสุด"

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

รัศมี นริศรานุกูล / วรารัตน์ ยิ่งสูง

ฝ่ายประชาสัมพันธ์

บริษัท เดนท์สุ ยังก์ แอนด์ รูบิแคม จำกัด

โทร. 02-658-0999 ต่อ 331 / 540

โทรสาร. 02-658-0995

email : [email protected]

[email protected] จบ--

-นห-

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit