กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะให้อันดับเครดิต ภายในประเทศ (Expected National Rating) ระยะยาวที่ระดับ "BBB+(tha)" แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ แก่หุ้นกู้ที่มีประกันชนิดทยอยชำระเงินต้นของบริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (VNG) ครั้งที่1/2546 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2551 มูลค่า 1.65 พันล้านบาท อันดับเครดิตของหุ้นกู้สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ของ VNG รวมถึงมูลค่าหลักประกันของตัวหุ้นกู้ โดย VNG จะดำเนินการจดจำนอง ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และเครื่องจักรของบริษัทย่อยคือ บริษัท วนชัย พาเนล อินดัสตรี จำกัด (VP) มูลค่าหลักประกันต่อจำนวนเงินกู้ยืมที่ 127% (เท่ากับ LVR ที่ 79%) เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ส่วนใหญ่จะนำไปใช้เพื่อไถ่ถอนเงินกู้ธนาคารของ VP และมีบางส่วนใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัท VNG
VNG มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 2 รายคือ ตระกูลสหวัฒน์ และตระกูลเจริญนวรัตน์ ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วน 70% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด VNG เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นเอ็มดีเอฟ (Medium Density Fiberboard) และแผ่นปาร์ติเกิ้ล (Particle Board) ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตของอุตสาหกรรมสินค้าตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ก่อสร้าง และการผลิตลำโพงเครื่องเสียง ในช่วงระยะ 3 ปีที่ผ่านมา VNG มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยมีส่วนสนับสนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทยและในเอเชียแปซิฟิก ในปี 2545 VNG มีรายได้จากการส่งออกประมาณ 53% ของรายได้รวม
อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำทางด้านส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศของ VNG ทั้งในธุรกิจแผ่นเอ็มดีเอฟ และแผ่นปาร์ติเกิ้ล รวมถึงฐานรายได้จากการส่งออกที่ยังคงแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบเนื่องจากมีโรงงานผลิตกาวซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลักของแผ่นเอ็มดีเอฟและแผ่นปาร์ติเกิ้ล อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงสถานะทางการเงินของVNG ที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540
VNG เข้าทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้เมื่อเดือนธันวาคม 2542 หลังจากนั้นสถานะทางการเงินของปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หนี้สินสุทธิได้ลดลงจากระดับ 6.9 พันล้านล้านในปี2541 มาที่ระดับ 2.4 พันล้านบาทในปี 2545 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (Net Debt/EBITDA) แข็งแกร่งขึ้นจากเดิม 13.6 เท่าในปี 2541 เป็น 1.3 เท่าในปี 2545 ในขณะที่อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย ต่อดอกเบี้ยจ่าย (EBITDA/interest expense) แข็งแกร่งขึ้นจากเดิม 0.6 เท่า ในปี 2541 เป็น 8.6 เท่า ในปี 2545
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งขึ้นเป็นปัจจัยบวกต่อแนวโน้มอันดับเครดิตของ VNG แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเสี่ยงทางด้านเครดิตจากลักษณะความผันผวนของวัฎจักรอุตสาหกรรมแผ่นเอ็มดีเอฟและแผ่นปาร์ติเกิ้ล รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในตลาดส่งออก นอกจากนี้อันดับเครดิตยังได้พิจารณาถึงการลงทุนในโรงงานปาร์ติเกิ้ล ที่จะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 450,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปีและรวมถึงการลงทุนเพิ่มในธุรกิจแผ่นเอ็มดีเอฟในระยะ 3 ปีข้างหน้า ระดับหนี้สินของ VNG คาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับสูงกว่า 5 พันล้านบาทในปี 2546 ซึ่งจะมีผลให้อัตราส่วน Net Debt/EBITDA สูงขึ้นในช่วง 2.0-2.5 เท่า ในขณะที่การขยายการผลิตของแผ่นปาร์ติเกิ้ลจะช่วยให้ระดับ Net Debt/EBITDA ดีขึ้นที่ระดับ 1.5 เท่า ภายในปี 2548
อันดับเครดิตสุดท้ายของหุ้นกู้ ขึ้นอยู่กับการได้รับเอกสารทางกฎหมายที่สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้รับจากบริษัท เช่นเอกสารการจดจำนองหลักทรัพย์
สำหรับรายงานฉบับสมบูรณ์ของบริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หาได้จาก www.fitchratings.com หรือ ติดต่อ
วสันต์ ผลเจริญ, นักวิเคราะห์ ภาคอุตสาหกรรม +662 655 4763
เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, ผู้ช่วยกรรมการ ภาคอุตสาหกรรม + 662 655 4760
Vincent Milton, กรรมการผู้จัดการ +662 655 4759
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตระดับเพื่อการลงทุน หรือมีอันดับเครดิตอยู่ในระดับต่ำแม้จะอยู่ในระดับเพื่อการลงทุน อันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศจะอยู่ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นถูกออกแบบมาเพื่อนักลงทุนภายในประเทศในแต่ละประเทศนั้นๆ และมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับแต่ละประเทศ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย อันดับเครดิตภายในประเทศนั้นไม่สามารถนำไปใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้--จบ--
-นห-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit