เมาน์เทน วิว, 3 ต.ค.-พีอาร์นิวส์ไวร์ เอเชีย/เอเชียเน็ท
เอควินิกซ์เตรียมควบกิจการของไอ-เอสทีที (I-STT) และพิฮาน่า แปซิฟิค (Pihana Pacific) เพื่อดำเนินธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ต เอ็กซ์เชงจ์ (Internet Exchange) หรือบริการแลกเปลี่ยนบนอินเทอร์เน็ต เอควินิกซ์ เตรียมชำระพันธบัตรที่ยังคงค้างอยู่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังได้รับเงินลงทุนซึ่งเป็นเงินสดจำนวน 30 ล้านเหรียญ
บริษัท เอควินิกซ์ อิงค์ (Equinix Inc.) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทำข้อตกลงเพื่อรวมกิจการเชิงกลยุทธ์ โดยเอควินิกซ์จะรวมทรัพย์สินของไอ-เอสทีทีเข้ากับธุรกิจบริการแลกเปลี่ยนบนอินเทอร์เน็ต เพื่อจัดตั้งบริษัทศูนย์กลางให้บริการแลกเปลี่ยนอินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายระดับโลกที่ใหญ่ที่สุด โดยบริษัทที่เกิดจากการรวมกิจการครั้งนี้ จะยังคงให้บริการต่อไปภายใต้ชื่อและการบริหารงานของเอควินิกซ์
ทั้งนี้ ไอ-เอสทีที เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจบริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตและเป็นบริษัทลูกของสิงคโปร์ เทคโนโลยีส์ เทเลมีเดีย (Singapore Technologies Telemedia Pte Ltd หรือ ST Telemedia) และบริษัท พิฮาน่า แปซิฟิค ผู้ให้บริการศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลอินเทอร์เน็ตชั้นนำและบริการโครงสร้างพื้นฐานระบบอิเลคทรอนิคส์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
ส่วนหนึ่งของการดำเนินการครั้งนี้ เอสที เทเลมีเดีย จะลงทุนเชิงกลยุทธ์ผ่านทางบริษัทลูกคือ เอสทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ (STT Communications Ltd.) ในเอควินิกซ์จำนวน 30 ล้านเหรียญ พร้อมๆไปกับการลงทุนครั้งนี้ เอควินิกซ์ยังได้ประกาศถึงแผนการปรับขนาดธุรกิจ ด้วยการจัดการหนี้จำนวนกว่า 130 ล้าน รวมทั้งหลักประกันในลำดับแรกประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ผ่านวิธีการรวมเงินสดและหุ้นทุน ตลอดจนการลดการให้เงินกู้
เอควินิกซ์ จะรวมธุรกิจของไอ-เอสทีทีและพิฮาน่าทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและสหรัฐอเมริกาเข้ากับธุรกิจของเอควินิกซ์ การเพิ่มธุรกิจของไอ-เอสทีทีและพิฮาน่านี้ จะทำให้เอควินิกซ์มีพื้นที่บริการศูนย์การแลกเปลี่ยนบนอินเทอร์เน็ต ทั้งหมดมากกว่า 1 ล้านตารางฟุต ใน 6 ประเทศ นอกจากนี้บริษัทยังจะมีลูกค้ามากกว่า 400 ราย เช่น เอทีแอนด์ที (AT&T), อีดีเอส (EDS), อิเลคทรอนิค อาร์ทส (Electronic Arts), โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs), ไอบีเอ็ม (IBM), เคียวเซร่า (Kyocera), เอ็มเอสเอ็น (MSN), รอยัล แอนด์ ซันอะไลแอนซ์ (Royal & SunAlliance), โซนี่ (Sony), และยาฮู (Yahoo) ที่สำคัญ บริษัทจะมีผู้ให้บริการเครือข่ายมากกว่า 100 ราย นอกเหนือไปจากการผสมผสานผู้ให้บริการที่มีอยู่ที่เอควินิกซ์ โดยบริษัทกำหนดระยะเวลาการซื้อขายว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลายปี โดยการปิดการซื้อขายและระยะเวลาในการซื้อขายนั้น ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นของเอควินิกซ์, ความชัดเจนและความพอใจหรือการยกเว้นเงื่อนไขในการปิดการซื้อขายประเด็นอื่นๆของคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา
โดยการซื้อขายครั้งนี้ จะทำให้เอควินิกซ์สามารถสรรหาโซลูชั่นแบบซิงเกิล ซอร์ส (single-source solution) ที่เกี่ยวกับความต้องการบริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตและบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อบริการที่มีคุณภาพ, กระทัดรัด และผสมผสาน ให้แก่กลุ่มลูกค้าทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาและเอเชียแปซิฟิค นอกจากนี้ยังทำให้เอควินิกซ์สามารถขยายธุรกิจไปยังเอเชียแปซิฟิค ซึ่งเป็นตลาดบริการโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลกตามการวิจัยของการ์ทเนอร์ (Gartner Research) โดยปราศจากค่าใช้จ่ายด้านเงินทุนในการส้างศูนย์บริการแลกเปลี่ยนบนอินเทอร์เน็ตไปยังประเทศต่างๆ และยังทำให้กลุ่มลูกค้าในเอเชียแปซิฟิคสามารถเข้าถึงบริการแลกเปลี่ยนบนอินเทอร์เน็ตและโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำในสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังทำให้เอควินิกซ์สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าของไอ-เอสทีทีและพิฮาน่ากลุ่มลูกค้าบริษัทข้ามชาติของเอเชีย
"การรวมกิจการครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนระหว่างบริษัทต่างๆ รวมถึงการสร้างบริษัทที่ให้บริการแลกเปลี่ยนบนอินเทอร์เน็ตบนเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก โดยการเพิ่มทรัพย์สินของไอ-เอสทีทีและพิฮาน่าเข้ามาในบริษัท เอควินิกซ์ เป็นการเพิ่มผลประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญจากการรวมธุรกิจ ที่สำคัญที่สุด เอควินิกซ์จะสามารถนำเสนอบริการเข้าถึงที่มีคุณภาพในตลาดที่มีความสำคัญที่สุดทั้ง 2 แห่งในโลกแก่ลูกค้าได้ ตลอดจนจัดหาบริการโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการแลกเปลี่ยนเครือข่ายที่เข้มข้นในระดับสากล" นายปีเตอร์ แวน แคมป์ (Peter Van Camp) ประธานกรรมการบริหาร เอควินิกซ์ กล่าว
โดยเอควินิกซ์ จะเริ่มดำเนินงานภายใต้ทีมผู้บริหารระดับอาวุโสที่มีอยู่เดิมของเอควินิกซ์โดยมีปีเตอร์ แวน แคมป์ เป็นประธานกรรมการบริหาร ส่วนผู้บริหารที่จะมาดูลธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคจะมีการแต่งตั้งในภายหลัง ทั้งนี้ เอควินิกซ์, ไอ-เอสทีที และพิฮาน่า จะรวมทีมงานที่จะมาดำเนินการในช่วงโยกย้าย ซึ่งจะประกอบด้วยกลุ่มผู้จัดการระดับอาวุโส เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการรวมบริษัทครั้งนี้จะเป็นไปอย่างกลมกลืน ทั้งนี้เอควินิกซ์เอง จะยังคงมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมาน์เทน วิว มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่วนสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค จะตั้งอยู่ที่ประเทศสิงค์โปร์เงื่อนไขด้านการเงินของการซื้อขาย
จากการซื้อขายในครั้งนี้ เอสที เทเลมีเดีย จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นเชิงกลยุทธ์รายใหญ่ที่สุดในเอควินิกซ์ ซึ่งรวมถึงการมีส่วนร่วมของธุรกิจไอ-เอสทีทีและการลงทุนเป็นเงินสดจำนวน 30 ล้าน ผ่านการซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพของเอควินิกซ์ โดยเงินจำนวนประมาณ 23 ล้านเหรียญของการซื้อขายครั้งนี้ จะนำไปชำระหนี้กว่า 130 ล้านเหรียญของเอควินิกซ์ ซึ่งประกอบด้วยหลักประกันในลำดับแรกของบริษัทประมาณ 80 เปอร์เซนต์ และการลดการชำระคืนเงินกู้ โดยเงินส่วนที่เหลือจะถูกนำมาใช้ตั้งกองทุนการดำเนินงานที่มีอยู่ บริษัทคาดว่าการจัดสัญญากู้ยืมใหม่เพื่อการชำระคืนเงินกู้จะสอดคล้องกับประสิทธิภาพการดำเนินงานในอนาคตของบริษัทใหม่
การขายหุ้นกู้แปลงสภาพและใบสำคัญแสดงสิทธิของเอสที เทเลมีเดีย ภายหลังการปิดและก่อนการแลกเปลี่ยนหุ้นกู้แปลงสภาพและใบสำคัญแสดงสิทธิ จะเป็นไปตามข้อมูลดังต่อไปนี้ คือ ผู้ถือหุ้นเอควินิกซ์ที่มีอยู่เดิม จะถือหุ้นประมาณ 33 เปอร์เซนต์ของบริษัท ส่วนเอสที เทเลมีเดีย จะถือประมาณ 28 เปอร์เซ็นต์, ผู้ถือหุ้นของพิฮาน่าเดิมจะถือหุ้นประมาณ 21 เปอร์เซ็นต์ และผู้ถือพันธบัตรระดับอาวุโสเดิมจะถือหุ้นของเอควินิกซ์ประมาณ 18 เปอร์เซ็นต์
นายแวน แคมป์ กล่าวว่า การประกาศในวันนี้เป็นการตอกย้ำถึงความสามารถของบริษัทในการขยายธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็เป็นการปรับขนาดธุรกิจ โดยข้อตกลงและการเพิ่มเอสที เทเลมีเดียให้เข้ามาเป็นฝ่ายลงทุนเชิงกลยุทธ์ ส่งผลให้ธุรกิจมีความมั่นคงทางการเงิน ด้วยการมีบัญชีที่มั่นคงสำหรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคตและฐานรายได้ที่มากขึ้น พร้อมๆกันกับการขยายตัวตาม EBITDA เมื่อการซื้อขายแล้วเสร็จ เอควินิกซ์จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะสร้างความแข็งแกร่งในแต่ละธุรกิจ, สร้างกำไรให้กับบริษัท และขยายคุณค่าให้กับนักลงทุนในระยะยาว
ทั้งนี้ เอควินิกซ์ จะจัดการประชุมทางไกลเพื่อนักลงทุน ในวันนี้ เวลา 9.00 น. ตามเวลาตะวันออก หรือเวลา 6.00 น. ตามเวลาแปซิฟิค เพื่อเจรจาถึงรายละเอียด สามารถรับฟังการประชุมครั้งนี้ได้ ด้วยการโทรศัพท์ที่เบอร์ (212) 547-0138 ภายในประเทศและระหว่างประเทศ เวลา 8.50 น.ตามเวลามาตรฐานฝั่งตะวันออก และรหัสสำหรับการอ้างอิง คือ EQIX การเผยแพร่การประชุมแบบสดผ่านทางอินเทอร์เน็ต จะมีให้บริการเว็บไซต์ http://www.quinix.com ภายใต้หัวข้อนักลงทุนสัมพันธ์เกี่ยวกับเอควินิกซ์
เอควินิกซ์ เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการแลกเปลี่ยนบนอินเทอร์เน็ตที่ทำให้บริษัทที่ทำธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต, องค์กรต่างๆ และผู้จัดหาคอนเทนท์ สามารถขยายตัว, บริหารและควบคุมเครือข่ายได้ ตลอดจนการดำเนินงานบนอินเทอร์เน็ตได้ด้วยประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบ จากศูนย์กลางบริการแลกเปลี่ยนบนอินเทอร์เน็ตทั้ง 7 แห่งของบริษัททำให้ลูกค้าสามารถติดต่อโดยตรงกับผู้ให้บริการที่ให้บริการแก่ผู้ใช้บริการและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของโลกมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ สำหรับความต้องการเรื่องการแลกเปลี่ยนปริมาณการรับ-ส่งข้อมูล จุดเชื่อมโยงเหล่านี้ช่วยสนับสนุนประสิทธิภาพการดำเนินงานและการขยายตัวของอินเทอร์เน็ตให้ได้สูงที่สุด ด้วยการตอบสนองตลาดบริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตแบบเปิดและเป็นกลาง ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถขยายธุรกิจได้ ในขณะเดียวกันก็ลดค่าใช้จ่ายได้
ลูกค้าของบริษัทประกอบด้วย แอสโซซิเอทเต็ด เพรส (Associated Press), เอที แอนด์ ที (AT&T), เคเบิล แอนด์ ไวร์เลส (Cable & Wireless), ชาร์ลส ชวาบ (Charles Schwab), เอิร์ธลิงค์ (Earthlink), อีดีเอส (EDS), อิเลคทรอนิค อาร์ทส (Electronic Arts), อีวายที (YET), จินิวตี้ (Genuity), กูเกิ้ล (Google), ไอบีเอ็ม (IBM), เลเวลทรี (Level3), เอ็มเอสเอ็น (MSN), เควสท์ (Qwest), ยูยูเน็ท/เวิลด์คอม (UUNET/WorldCom), วอชิงตันโพสต์ นิวสวีค อินเตอร์แอคทีฟ (Washingtonpost Newsweek Interactive), และยาฮู (Yahoo!) ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทที่ http://www.equinix.com เอควินิกซ์ และไอบีเอ็กซ์ เป็นเครื่องหมายทางการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นของบริษัท เอควินิกซ์ อิงค์ ส่วน อินเทอร์เน็ต บิสิเนส เอ็กซ์เชงจ์ เป็นเครื่องหมายทางการค้าของบริษัท เอควินิกซ์ อิงค์เกี่ยวกับไอ-เอสทีที
ไอ-เอสทีที เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านบริการโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถบริหารการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้เกิดประสิทธิภาพได้สูงที่สุด, การให้บริการอย่างต่อเนื่องและสามารถวัดผลได้ในทันที ด้วยการให้บริการศูนย์กลางข้อมูลเว็บเซ็นเตอร์บนอินเทอร์เน็ต โปรโตคอลระดับโลกที่ตั้งอยู่ในเมืองหลักๆทางธุรกิจในเอเชียทำให้ไอ-เอสทีทีสามารถนำเสนอโซลูชั่นการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่รวมปัจจัยที่จำเป็นด้านโทรคมนาคม, การเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ต และการเข้าถึงเครือข่าย เพื่อนำเสนอผ่านทางศูนย์กลางโทรคมนาคมด้วยบริการโครงสร้างพื้นฐานแอพพลิเคชั่น เช่น การสนับสนุนการดำเนินงาน, การติดตาม, ระบบความปลอดภัย, แพลทฟอร์ม และการรับ-ส่งข้อมูลขององค์กร เพื่อให้การสนับสนุนเซิร์ฟเวอร์ที่สำคัญของลูกค้า, แอพพลิเคชั่นอินเทอร์เน็ตและธุรกิจและข้อมูล
ความสามารถในการรองรับบริการโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ได้รับการบริหารแล้วของไอ-เอสทีทีและความได้เปรียบด้านเทคนิคนั้นได้ถูกนำมารวมไว้กับบริการเสริมอื่นๆภายใต้เป้าหมายทางธุรกิจ 2 รายการคือ บริการเว็บเซ็นเตอร์และบริการโกลบอล เน็ทเวิร์ค โดยบริษัทได้ทำตลาดและขายบริการไปทั่วโลกและปัจจุบันมีสาขาอยู่ในสิงคโปร์, กรุงเทพฯ และเซี่ยงไฮ้ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไอ-เอสทีทีและบริการ สามารถดูได้ที่ www.i-STT.com เกี่ยวกับพิฮาน่า แปซิฟิค
พิฮาน่า แปซิฟิค เป็นผู้จัดหาระดับชั้นนำด้านบริการโครงสร้างพื้นฐานแบบอิเลคทรอนิคและมีชื่อเสียงในการเป็นบริษัทแรกๆที่สร้าง, ทำตลาดและบริหารศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตแบบเป็นกลางในเอเชียแปซิฟิค พิฮาน่า แปซิฟิค ได้ให้บริการชุดการบริการที่ได้มีการบริหารแล้ว ประกอบด้วย การบริหารระบบเอ็นเตอร์ไพรส์, การจัดเก็บ, บริการกู้ภัยยามเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งทำให้องค์กรต่างๆและผู้ให้บริการสามารถขยายขอบเขตตลาดและมีประสิทธิภาพในการดำเนินการและค่าใช้จ่ายด้านการปฏิบัติการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการหลักของพิฮาน่าคือ ศูนย์บริการระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว, โซล,ฮ่องกง,สิงคโปร์,ซิดนีย์,ฮอนโนลูลู และลอสแองเจลิส ด้วยฐานที่กว้างขวางเช่นนี้ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคได้อย่างทั่วถึง
พิฮาน่า มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฮอนโนลูลู สาขาในเอเชียแปซิฟิคของบริษัทประกอบด้วยสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคที่ฮ่องกง, สำนักงานขายที่สิงคโปร์, โตเกียว, โซล, ซิดนีย์, ซานฟรานซิสโก, ลอสแองเจลิส, เดนเวอร์ และวอชิงตัน ดี.ซี. พิฮาน่า เป็นภาษาฮาวายแปลว่า ความสมบูรณ์หรือความสำเร็จ ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมที่เว็บไซต์ www.pihana.com เกี่ยวกับสิงคโปร์ เทคโนโลยีส์ เทเลมีเดีย
สิงคโปร์ เทคโนโลยีส์ เทเลมีเดีย ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2537 และเป็นกลุ่มสื่อสารข้อมูลชั้นนำในสิงคโปร์ บริษัทมีเป้าหมายหลักทางธุรกิจคือ ข้อมูลและเสียง, บรอดแบนด์และมัลติมีเดีย และบริการด้านอิเลคทรอนิคจากกลุ่มบริษัทสร้างสรรค์ชั้นนำของสิงคโปร์ เทคโนโลยีส์ เทเลมีเดีย บริษัทได้ให้บริการ เช่น บริการโทรคมนาคมแบบพื้นฐานและไร้สาย, บริการสื่อสารข้อมูลแบบไร้สาย, บริการอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย, บริการบริหารเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโปรโตคอล, บริการบริหารโฮสติ้ง, บริการดาวเทียม, บริการบรอดแบนด์และมัลติมีเดียที่ทันสมัย
สิงคโปร์ เทคโนโลยีส์ เทเลมีเดีย มีเป้าหมายในการเป็นกลุ่มสื่อสารที่เน้นด้านอินเทอร์เน็ต โปรโตคอลและข้อมูลรายสำคัญระดับโลก บริษัทเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มสิงคโปร์ เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่มีธุรกิจหลักคือ ระบบวิศวกรรม, เทคโนโลยี, โครงสร้างพื้นฐานและลอจิสติคส์, อสังหาริมทรัพย์ และบริการด้านการเงิน รายได้ของสิงคโปร์ เทคโนโลยีส์ ในปี 2544 จำนวน 9,000 ล้านและมีพนักงาน 54,000 รายทั่วโลก ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาดูที่ www.stt.st.com.sg
ข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้ประกอบด้วยข้อความเกี่ยวกับการมองไปในอนาคตภายใต้ความหมายของบทบัญญัติ Private Securities Litigation Reform Act of 1995 ในเรื่องของธุรกิจเอควินิกซ์, การปฏิบัติการและสภาพการเงิน โดยข้อความที่เกี่ยวกับการมองไปในอนาคตขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่หลากหลาย เอควินิกซ์ขอเตือนว่าข้อความเกี่ยวกับการมองไปในอนาคตที่ปรากฎอยู่ในข่าวนี้ไม่สามารถรับประกันได้ถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานในอนาคต ผลในทางปฏิบัติจริงอาจจะแตกต่างไปจากที่มีการคาดการณ์ไว้ในข้อความที่เกี่ยวกับการมองไปในอนาคต รวมทั้งแต่ไม่กำหนดถึงเรื่องความล้มเหลวของการรวมตัวกัน, ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการรวมกิจการ, ความเสี่ยงในธุรกิจของเอควินิกซ์, พิฮาน่า แปซิฟิค และไอ-เอสทีที จะไม่สามารถรวมได้อย่างสำเร็จหรือเอควินิกซ์จะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการรวม, ความท้าทายในการดำเนินศูนย์กลางไอบีเอ็กซ์ และการพัฒนา, การใช้และการให้บริการของเอควินิกซ์ การแข่งขันจากคู่แข่งเก่าและใหม่, ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดหมุนเวียน หรือการได้รับกองทุนเพื่อชำระหนี้ และการสูญเสียหรือการลดลงของธุรกิจจากลูกค้ารายหลักๆ โดยกลุ่มนักลงทุนและผู้ถือหุ้นยังคงพิจารณาถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนตามที่ได้มีการเจรจาไว้ในการยื่นข้อเสนอต่อคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์โดยเอควินิกซ์ โดยข้อความที่เกี่ยวกับการมองไปในอนาคตยังคงอยู่ในกระแสตามวันที่ข้อความได้ระบุไว้ เอควินิกซ์จะไม่รับรองถึงการกำหนดให้ปรับปรุงข้อความที่เกี่ยวกับการมองไปในอนาคตต่อสาธารณะ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเหตุการณ์และสถานการณ์หลังจากวันที่ที่ได้มีการระบุไว้ในข้อความดังกล่าว หรือเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ที่ไม่ได้มีการคาดการณ์ไว้แหล่งข้อมูลที่สามารถหารายละเอียดเพิ่มเติม
นักลงทุนและผู้ถือหุ้นของเอควินิกซ์ สามารถอ่านข้อเสนอที่หลากหลายที่บริษัทยื่นให้กับคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งเอกสารเกี่ยวกับตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจและเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนที่จำเป็นสำหรับการยื่นเสนอตามการซื้อขายที่ได้มีการอธิบายไว้ การยื่นเสนอนี้จะประกอบด้วยข้อมูลที่สำคัญ นักลงทุนและผู้ถือหุ้นอาจจะได้รับเอกสารดังกล่าวและเอกสารอื่นๆที่เอควินิกซ์ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ได้ที่เว็บไซต์ http://www.sec.gov เอกสารต่างๆเหล่านี้สามารถรับได้ที่เอควินิกซ์โดยไม่คิดค่าบริการนอกเหนือไปจากเอกสารเกี่ยวกับตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจและเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียน รายงานประจำปี, รายไตรมาสของเอควินิกซ์ และข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ ท่านสามารถอ่านและทำสำเนารายงานหรือข้อมูลอื่นๆที่เอควินิกซ์ยื่นเสนอต่อคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ได้ที่ห้องอ้างอิงสำหรับประชาชนที่ 450 ฟิฟธ์ สตรีท, เอ็น.ดับบลิว, วอชิงตัน, ดี.ซี. 20549 หรือห้องอ้างอิงของคณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์บริเวณสถานที่อื่นๆได้ในนิวยอร์ค, ชิคาโก, อิลินอยส์ กรุณาโทรไปที่คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ที่ http://www.sec.gov ผู้มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือ
เอควินิกซ์,พิฮาน่า แปซิฟิค, ไอ-เอสทีที และเอสทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ รวมทั้งกรรมการบริหาร, เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารและสมาชิกจากทีมบริหารและพนักงานอาจจะเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือเรื่องเอกสารเกี่ยวกับตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้ถือหุ้นของเอควินิกซ์ ในหลักประกันอันดับแรกจำนวน 13 เปอร์เซ็นต์ ตามที่ได้มีการเสนอไว้ในการซื้อขาย โดยข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ผู้บริหารของเอควินิกซ์, พิฮาน่า แปซิฟิค, ไอ-เอสทีที และเอสทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ถืออยู่ในการซื้อขายนี้ จะระบุไว้ในเอกสารเกี่ยวกับตัวแทนที่ได้รับมอบอำนาจและเอกสารการจดทะเบียน เอกสารทั้งสองเรื่องนี้มีให้บริการโดยไม่คิดค่าบริการที่เว็บไซต์ของคณะกรรมการกำกับและดูแลตลาดหลักทรัพย์ที่ http://www.sec.gov และจากเอควินิกซ์
แผนกนักลงทุนสัมพันธ์ ติดต่อ
เมลานี มอค (Melanie Mock)
โทร. (650) 316-6099 อีเมล์: [email protected]
สื่อในอเมริกา ติดต่อ
มอรีน โอ เบรียน (Maureen O'Brien) อีเมล์: [email protected]
โทร. (650) 316-6043
สื่อในเอเชีย ติดต่อ
โชว์ ยี (Chow Yi)
โทร. 65-6723-8938 อีเมล์: [email protected]
เดวิด ฟอนคาลส์รุด
โทร. (415) 255-6506 อีเมล์ [email protected]
ที่มา: เอควินิกซ์ อิงค์
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท (www.asianetnews.net)--
-สพ/รค-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit