บทความ: ตำรวจน้ำ จับมือ สมาคมประมงท้องถิ่น ต้านน้ำมันเถื่อน -พบเจอผู้ทำผิดตักเตือน ถึงลงโทษรุนแรง ฐานทำลายชาติ

20 Jan 2003

กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--สนพ.

โดย

โครงการประชาสัมพันธ์การป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อน

สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)

ตอนที่ 24

ตำรวจน้ำ จับมือ สมาคมประมงท้องถิ่น

ต้านน้ำมันเถื่อน -พบเจอผู้ทำผิดตักเตือน

ถึงลงโทษรุนแรง ฐานทำลายชาติ

การป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อน ซึ่งเป็นภัยร้าย บ่อนทำลายเศรษฐกิจของประเทศนั้น จะทำเพียงหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่ได้ เพราะปัญหาน้ำมันเถื่อนไม่ใช่ปัญหาส่วนบุคคล แต่เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคนทั้งประเทศ

ตำรวจน้ำ ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อนทางทะเล โดยการทำงานของตำรวจน้ำนั้น จะเริ่มตั้งแต่ การสืบสวนติดตาม การขอคืนภาษีหรือยกเว้นภาษี ในการส่งออกน้ำมันของผู้ค้า ว่ามีการส่งออกจริงตามที่แจ้งไว้หรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าหัวใสนำน้ำมันที่แจ้งว่าส่งออกแต่ไม่ได้ส่งจริงกลับเข้ามาขายในประเทศ ไปจนถึงการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันทางทะเลมาจำหน่ายในประเทศโดยผิดกฏหมาย รวมทั้งเรือที่ต้องสงสัยว่าบรรทุกน้ำมันเถื่อน ก็จะเข้าตรวจสอบ ซึ่งในบางครั้งต้องส่งเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวน หาข่าวจากบรรดา แพปลาของชาวบ้าน เรือประมงขนาดเล็ก ใหญ่ ประชาชนในพื้นที่ และเรือบรรทุกน้ำมันทั้งหลาย โดยนำน้ำมันตัวอย่างมาตรวจสอบคุณภาพ ตรวจสอบการเติมสารมาร์กเกอร์ เพื่อดูความแตกต่างของน้ำมัน หากพบว่าผู้ใดกระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที

ในช่วงที่น้ำมันราคาแพงเช่นปัจจุบัน ทำให้หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าจะมีการลับลอบนำเข้าน้ำมันจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีราคาถูกกว่าเข้ามาขายปนกับน้ำมันในโครงการ ทางตำรวจน้ำก็ได้ ให้ชุดปฏิบัติการสุ่มเก็บตัวอย่างน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถานีบริการน้ำมันบนฝั่ง ในเรือประมง ท่าเรือ แพปลา พื้นที่บริเวณแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย นำตัวอย่างน้ำมันมาวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อพิสูจน์ทราบถึงคุณภาพและแหล่งที่มา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสืบสวนปราบปรามต่อไป และยังได้นำมาตรการเข้มงวดมาใช้กับการขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง บริเวณโรงกลั่นน้ำมันและคลังน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อควบคุมการส่งออกและนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงให้ถูกต้องตรงกับเอกสารการขนส่ง อย่างรัดกุม โดยส่งเจ้าหน้าที่ประจำในเรือบรรทุกน้ำมันทุกลำ เมื่อมีการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ก็จะสอบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลังการกระทำผิด ตามฐานความผิดที่เกี่ยวข้อง เช่น เป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ความผิดฐานฟอกเงิน ฯลฯ เพื่อกวาดล้างขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนให้สิ้นซาก ตั้งแต่ต้นตอไปจนถึงปลายทาง แต่จากจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำที่มีจำกัด จุดนี้เอง การขอความร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่น โดยเฉพาะสมาคมประมงแห่งประเทศไทย และสมาคมประมงท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นคนในท้องที่ให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา และตรวจสอบ ไม่ให้ผู้ค้าทุจริตอาศัยช่องว่างของกฎหมายมาทำผิดได้ ปรากฏว่า ได้รับความร่วมมือจากสมาคมประมงท้องถิ่นเป็นอย่างดี แต่ละสมาคมได้จัดให้มีสหกรณ์และให้สมาชิกช่วยประสานกับตำรวจน้ำ เช่น สมาคมประมงท้องถิ่นปราณบุรี ได้จัดตั้งคณะกรรมการซึ่งมาจากชาวประมงในพื้นที่ให้ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาแทนสมาคมประมง ช่วยกันให้ความรู้และตรวจสอบสมาชิกกันเองไม่ให้ใครลักลอบทำผิดได้

นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีสมาชิกบางลำแอบลักลอบไปเติมน้ำมันเถื่อน แต่หลังจากที่สมาคมฯ เรียกมาตักเตือนและชี้แจงให้เห็นถึงความสำคัญของโครงการน้ำมันเขียว ซึ่งทำเพื่อชาวประมง ชาวประมงทุกคนควรร่วมมือกัน และช่วยกันรักษาโครงการนี้ไว้ เพราะนอกจากจะได้ใช้น้ำมันราคาถูกแล้วยังได้น้ำมันที่มีคุณภาพอีกด้วย ก็เลิกไปและช่วยเป็นหูเป็นตาตรวจสอบแทนสมาคมฯ ร่วมกับตำรวจน้ำ

นอกจากนั้นนายชิตชัย ออมทรัพย์สิน นายกสมาคมประมงจังหวัดสตูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางสมาคมฯ ยังเป็นเหมือนศูนย์ข้อมูลและรับเรื่องราวร้องทุกข์ของผู้ประกอบการประมงท้องถิ่น สำหรับเรื่องน้ำมันเถื่อนที่ว่าจะมีการแอบลักลอบเข้ามาใช้ ก็คงจะไม่มี เพราะคุณภาพก็ไม่ดี 100% แถมยังต้องเสียเวลาในการเดินทางไกล และไม่คุ้มค่ากับการถูกจับกุมดำเนินคดี อีกทั้งตอนนี้ทางรัฐบาลมีโครงการน้ำมันเขียว ซึ่งช่วยเหลือชาวประมงได้ใช้น้ำมันในราคาถูก และได้น้ำมันที่มีคุณภาพ

หลังจากที่ชาวประมงได้ตระหนักถึงความสำคัญของโครงการน้ำมันเขียวที่ทำให้ได้ใช้น้ำมันราคาถูก มีคุณภาพไม่ต้องกลัวเครื่องยนต์พังเร็ว และไม่ต้องเดินทางไกลไปซื้อน้ำมันเถื่อนซึ่งนอกจากเสียเวลา และค่าใช้จ่ายแล้วยังเสี่ยงต่อการถูกจับด้วย ทำให้ปัจจุบันมีเรือประมงเข้าร่วมโครงการนี้ถึง 8,764 ลำและตั้งแต่เริ่มโครงการมาในปี 2544 ถึงปัจจุบันขายน้ำมันไปแล้วกว่า 980 ล้านลิตร ส่งผลให้ปริมาณการค้าน้ำมันเถื่อนในทะเลลดลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตามการป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อนจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นหากประชาชนทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้ภาครัฐ สกัดกั้นการค้าที่เอาเปรียบคนในชาติและประเทศชาติให้หมดไป

พบเบาะแส น้ำมันเถื่อน ติดต่อ ตู้ ปณ.345 ปณ.จ.พระโขนง กรุงเทพ 10100

โทร. 0-2662-3288

www.eppo.go.th/petrol-- จบ--

-ศน-