กรุงเทพฯ--13 ธ.ค.--PR & Associates
ดรุณี เอ็ดเวิร์ดส รองผู้อำนวยการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ กล่าวว่า อาหารพืชจีเอ็มโอ เช่น ถั่วเหลืองหรือข้าวโพดที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและต่อผู้บริโภค ทั้งนี้การประเมินความปลอดภัยดำเนินการโดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องของประเทศต่างๆ และสรุปว่า พืชจีเอ็มโอมีความปลอดภัยเทียบเท่ากับพืชชนิดเดียวกันที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ ดังนั้นอาหารในกลุ่มนี้จึงสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย
สำหรับประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 251 พ.ศ. 2545 ระบุว่าอาหารจากถั่วเหลืองและข้าวโพดที่มีสารพันธุกรรมหรือโปรตีนจากการดัดแปรพันธุกรรมตั้งแต่ร้อยละ 5 ในแต่ละส่วนประกอบหลัก 3 อันดับแรก ที่มีปริมาณตั้งแต่ร้อยละ 5 ของน้ำหนักผลิตภัณฑ์ ให้ส่วนประกอบของอาหารนั้นระบุบนฉลากว่ามีส่วนผสมของจีเอ็มโอ ดังนั้นการติดฉลากไม่ใช่เป็นการบอกผู้บริโภคว่าอาหารนั้นไม่ปลอดภัยแต่อย่างไร
อาหารจากพืชจีเอ็มโอที่ผ่านการประเมินความปลอดภัยมีจำหน่ายแล้วในประเทศต่างๆ อาทิ อียู ญี่ปุ่น อเมริกา คานาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมทั้งประเทศไทย จึงบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าอาหารเหล่านี้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค แต่ประเด็นการติดฉลาก เป็นการให้ข้อมูลกับผู้บริโภคซึ่งเหมือนกับการติดฉลากแสดงส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อาหารทั่วไป
ข้อมูลที่ทางกลุ่มกรีนพีซเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ออกมารณรงค์ต่อต้านอาหารจาก จีเอ็มโอ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีเหตุผลด้านความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและไม่เกี่ยวข้องกับด้านวิทยาศาสตร์ แต่เป็นเพียงการสร้างภาพเพื่อให้ผู้บริโภคตื่นตระหนกและสับสน ซึ่งการดำเนินการในลักษณะนี้ไม่ได้มีผลดีต่อประเทศแต่อย่างไรเลย--จบ--
-ศน-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit