ไอบีเอ็มบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อเรชันนอลซอฟต์แวร์

20 Dec 2002

กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--ไอบีเอ็ม (ประเทศไทย)

เรชันนอลจะเป็นหน่วยงานใหม่ในกลุ่มซอฟต์แวร์ของไอบีเอ็ม ถือเป็นกลุ่มที่ห้าจากเดิมที่มีเว็บสเฟียร์ โลตัส ทิโวลี และดีบีทู

ไอบีเอ็มและเรชันนอลซอฟต์แวร์ประกาศข่าวข้อตกลงให้ไอบีเอ็มเข้าซื้อกิจการเรชันนอลในราคาประมาณ 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคือ 10.50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้น

เรชันนอลมีทั้งซอฟท์แวร์มาตรฐานและเป็นระบบเปิด หนทางการปฏิบัติและบริการสำหรับพัฒนาแอพพลิเคชันเชิงธุรกิจและสร้างผลิตภัฒฑ์ซอฟต์แวร์และระบบ รวมถึงซอฟต์แวร์แบบฝังตัวในอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ และเครื่องมือทางการแพทย์ เป็นต้น

นายสตีฟ มิลส์ รองประธานอาวุโสและกลุ่มผู้บริหาร ไอบีเอ็ม ซอฟต์แวร์กรุป กล่าวว่า “อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ลูกค้าหน่วยงานธุรกิจและนักพัฒนาล้วนปรารถนาซอฟต์แวร์ที่มีพื้นฐานบนมาตรฐานเปิดและเอื้อต่อการเชื่อมระบบงาน นั่นหมายถึง การเชื่อมโยงงานธุรกิจระหว่างในองค์กรและถึงยังลูกค้าและซัพพลายเออร์

กลยุทธ์ออนดีมานด์ของไอบีเอ็มเป็นเรื่องสำคัญ เรชันนอลช่วยเสริมในสิ่งไอบีเอ็มทำได้ดีซึ่งก็คือ การเสนอระบบพื้นฐานทางซอฟต์แวร์และเครื่องมือซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าให้สร้างสภาพแวดล้อมการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งยังขยายความสามารถของไอบีเอ็มให้นำลูกค้าสู่อนาคต'ออนดีมานด์' ด้วยเครื่องมือตามมาตรฐานอุตสาหกรรมในการพัฒนา เชื่อมระบบงาน และจัดการขั้นตอนต่างๆ ทางธุรกิจ”

เรชันนอลเสนอแพลตฟอร์มพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยปรับปรุงความเร็ว คุณภาพ และความสามารถในการคาดการณ์ในโครงการซอฟต์แวร์ให้ดียิ่งขึ้น มีองค์กรถึง 98 แห่งจาก Fortune 100 รวมถึงไอบีเอ็มเอง ที่ใช้เครื่องมือและบริการของเรชันนอล ไอดีซีคาดการณ์ว่า โอกาสของตลาดด้านซอฟต์แวร์สำหรับพัฒนาแอพพลิเคชันจะเติบโตจาก 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีนี้ เป็นหนึ่งหมื่นห้าพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2549

นายไมเคิล เดฟลิน ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง เรชันนอลซอฟต์แวร์ กล่าวว่า “เรชันนอลอำนวยความสะดวกแก่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วโลกให้เขียนซอฟต์แวร์ได้อย่างรวดเร็ว มีความเสี่ยงต่ำ และคืนผลการลงทุนไว ผลจากความร่วมมือครั้งนี้ระหว่างเรชันนอลและไอบีเอ็มเป็นการขยายตัวจากความสัมพันธ์อันยาวนานกว่า 20 ปี และเป็นการช่วยขยายฐานตลาดและกลุ่มลูกค้า”

สำนักงานใหญ่ของเรชันนอลอยู่ที่คูเปอร์นิโต แคลิฟอร์เนียและเลซิงตัน แมสซาชูเซต มีพนักงานกว่า 3,400 คนและลูกค้าใน 89 ประเทศทั่วโลก นักพัฒนาซอฟต์แวร์กว่า 600,000 คนใช้เครื่องมือของเรชันนอล ไอบีเอ็มเสนอการรวมกิจการโดยการดำเนินธุรกิจและพนักงานของเรชันนอลจะเป็นหน่วยงานใหม่ในกลุ่มซอฟต์แวร์ของไอบีเอ็ม ถือเป็นกลุ่มที่ห้า จากเดิมที่มีเว็บสเฟียร์ โลตัส ทิโวลี และดีบีทู เมื่อสิ้นสุดการรวมกิจการ นายไมเคิล เดฟลินจะดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในหน่วยงานดังกล่าวและรายงานตรงต่อนายสตีฟ มิลล์

เรชันนอลมีการสนับสนุนอย่างหลากหลายสำหรับการพัฒนาแอพพลิเคชันระดับองค์กรบน J2EE.NET ลีนุกซ์และแพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อรองรับการทำงานกับแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ต่างๆ ของลูกค้า เครื่องมือของเรชันนอลยังใช้เพื่อสร้างซอฟต์แวร์เชิงเทคนิค ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์และซอฟต์แวร์

สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ วิทยุติดตามตัว โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องมือทางการแพทย์ ระบบควบคุมจราจรทางอากาศและระบบป้องกันประเทศ

เมื่อการรวมกิจการเสร็จสิ้น ไอบีเอ็มมีแผนดังนี้

  • ทำตลาดและขายเครื่องมือพัฒนาแอพพลิเคชันของเรชันนอลทั่วโลกผ่านฝ่ายขายของเรชันนอล ซึ่งจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายขายของไอบีเอ็ม
  • รวมผลิตภัณฑ์ของเรชันนอลให้เข้ากันได้กับผลิตภัณฑ์ของไอบีเอ็ม
  • สนับสนุนการลงทุนแก่เรชันนอลในเรื่องมาตรฐานเปิด โดยสนับสนุนแพลตฟอร์มไม่ว่ายูนิกซ์ วินโดวส์ และอื่นๆ
  • เร่งลงทุนในผลิตภัณฑ์ของเรชันนอลเพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าปัจจุบัน ผู้รวมระบบ (SI) และผู้ผลิตซอฟต์แวร์อิสระ (ISV)

*** ขั้นตอนการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ระหว่างไอบีเอ็มและเรชันนอลจะสิ้นสุดภายในไตรมาสแรกของปี 2546

*********************

เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด

ติดต่อ ชูจิตต์ วัฒนล้ำเลิศ

โทร 02-273-4306 อีเมล์ [email protected] จบ--

-ศน-