กรุงเทพฯ--27 มิ.ย.--ธอมสัน พีอาร์
บริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ ผู้ให้บริการโทรศัพท์ 2.6 ล้านเลขหมาย ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ร่วมกับชมรมครูห้องเรียนธรรมชาติและมูลนิธิโกมล คีมทอง จัดกิจกรรมห้องเรียนธรรมชาติเทเลคอมเอเซีย ครั้งที่ 44 ตามโครงการห้องเรียนธรรมชาติเทเลคอมเอเซีย ตอน "เพาะพันธุ์ต้นกล้าแห่งอนาคต" ณ โรงเรียนวัดอินทราวาส เขตตลิ่งชัน ในวันที่ 28-30 มิถุนายน 2545 เพื่อส่งเสริมกิจกรรมด้านการศึกษาในรูปแบบกระบวนการเรียนรู้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่นำไปสู่การสร้างองค์ความรู้และภูมิปัญญาด้วยตัวเอง ภายใต้แนวคิด รัก เคารพ เรียนรู้ ที่ต้องการสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะทางความคิด โดยฝึกให้เด็กรู้จักคิดเป็นระบบ ทั้งเชิงสร้างสรรค์และเชิงวิเคราะห์ รวมทั้งพัฒนาทักษะทางสังคมควบคู่กันไป
นายเกษม ตั้งทรงศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ,หัวหน้าฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ ทีเอ เปิดเผยว่า กิจกรรมห้องเรียนธรรมชาติเทเลคอมเอเซียจัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 44 แล้ว การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการเน้นในเรื่องของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เยาวชนได้เรียนรู้กระบวนการการจัดกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษาในโรงเรียน และในชุมชน รวมทั้งยังทำให้เยาวชนได้รู้จักคิด วิเคราะห์อย่างมีเหตุผล ตลอดจนได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่นและกล้าแสดงออก และยังทำให้โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการมีแนวทางในการจัดกิจกรรมในโรงเรียนต่อไปด้วย
กิจกรรมห้องเรียนธรรมชาติในครั้งนี้มีเยาวชนที่เป็นสมาชิกชมรมห้องเรียนธรรมชาติเทเลคอมเอเซีย จากโรงเรียน 20 แห่ง เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 120 คน
สำหรับรายละเอียดและรูปแบบของกิจกรรมนั้น เป็นกิจกรรมการศึกษานอกห้องเรียน 2 วัน โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้และการสร้างประสบการณ์จากการได้สัมผัสจากสถานที่จริง ผ่านกิจกรรมต่างๆ ในชุมชนใกล้เคียงกับวัดอินทราวาส เขตตลิ่งชัน เพื่อเป็นตัวอย่างให้เด็กได้เห็น และสามารถนำไปใช้ในการศึกษาชุมชนของตนเองได้ ทั้งนี้ จะมีการแบ่งเด็กเข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 4 ฐานศึกษาอย่างทั่วถึง ได้แก่
ฐานที่ 1 วัดอินทราวาสกับสิ่งแวดล้อม เด็กๆจะได้เห็นการจัดการสิ่งแวดล้อมในวัด ซึ่งมีคลองบางพรมที่ไหลผ่านหลังวัด โดยเฉพาะชีวิตชาวบ้านริมคลองที่มีชุมชนอาศัยอยู่ริมคลองทั้งสองฝั่ง มีการใช้ประโยชน์จากคลองและความร่วมมือรักษาความสะอาดในคลอง ทำให้น้ำในคลองยังสะอาดและมีปลาอยู่ชุกชุม
ฐานที่ 2 สวนมะกรูด ภูมิปัญญาสิ่งแวดล้อมของไทย เด็กๆ จะได้เข้าไปในห้องเรียนสวนมะกรูด โดยนั่งเรียนกันบนคันดินในสวน และสำรวจพืชที่ปลูกหลากหลายชนิด ไม่ใช่เฉพาะมะกรูดเพียงอย่างเดียว แต่มีต้นไม้อื่นที่ปลูกแซมไว้ด้วยกัน เพื่อเป็นการศึกษาการเอื้อประโยชน์ของพืชต่างๆในสวน เช่น ประโยชน์ของจอกแหนที่ขึ้นอยู่เต็มร่องน้ำนั้นมีประโยชน์อย่างไร
ฐานที่ 3 บ้านขนมไทยกับวิถีการบริโภค เด็กจะได้ตื่นตาตื่นใจกับบ้านขนมไทยเพื่อเรียนรู้วิธีการทำขนมไทย ซึ่งส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบมาจากธรรมชาติโดยตรง เช่น มะพร้าว กล้วย ข้าวเหนียว ถั่วดำ ก็สามารถนำมาทำเป็นข้าวต้มมัดได้ แม้กระทั่งการบรรจุห่อยังใช้วัสดุธรรมชาติ เมื่อเปรียบเทียบกับขนมขบเคี้ยวที่ขายทั่วไป กว่าจะเป็นขนม ๑ ถุง จะต้องใช้พลังงานและสารเคมีหลายชนิด และผ่านขั้นตอนมากมาย ในฐานศึกษานี้ เด็กๆจะได้เรียนรู้ถึงทางเลือกในการบริโภคว่า ควรบริโภคอย่างไรไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ฐานที่ 4 สวนเกษตรธรรมชาติแบบผสมผสาน ภูมิปัญญาของเกษตรกรไทย เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เป็นการศึกษาวิธีการของชาวสวนที่ปลูกพืชหลายชนิดไว้กินตลอดปี ทั้งพืชผักสวนครัว ผลไม้ สมุนไพร ฯลฯ รวมถึงการใช้สมุนไพรไล่แมลงศัตรูพืชแทนการใช้สารเคมีปราบศัตรูพืช ซึ่งอาจทำลายสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ไปด้วย ทั้งนี้ โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ จากมูลนิธิโกมลคีมทอง มาร่วมกิจกรรมด้วย
นายเกษมกล่าวเพิ่มเติมว่า "ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมในชุมชนครั้งนี้ นอกเหนือจากการได้เข้าไปสัมผัสกับธรรมชาติ เรียนรู้การจัดการสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตตามแบบฉบับของคนไทยแล้ว เยาวชนเหล่านี้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์ อันนำไปสู่การสร้างแหล่งเรียนรู้
ในโรงเรียนและชุมชนของตนเองกับเพื่อนๆ โรงเรียนอื่น และวางแผนจัดกิจกรรมร่วมกับครูที่ปรึกษาชมรมและขยายผลสู่สมาชิกชมรม และเพื่อนๆ น้องๆ ในโรงเรียน รวมทั้งบรรลุถึงเป้าหมายของกิจกรรม คือ เยาวชนได้ฝึกการเป็นคนมีความคิดและเหตุผล สามารถที่จะรวมกลุ่มจัดกิจกรรมทางธรรมชาติในสถานศึกษาหรือชุมชนของตนเองได้อีกด้วย ซึ่งจะได้นำความรู้และทักษะที่ได้รับในครั้งนี้ไปเผยแพร่อย่างภาคภูมิใจ"
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ทีเอ 048 (24/06/2545)
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ คุณปาริชาต / คุณณวนุช / คุณวรภา
โทร. 0-2699-2052, 0-2699-2057
และคุณพรทิภา โทร. 0-2260-0820# 3142--จบ--
-อน-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit