(ต่อ1) ดาต้าแมท เข้าซื้อกิจการบริษัท แอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี ขยายฐานธุรกิจด้านเครือข่าย

25 Jun 2002

กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--124 คอมมิวนิเคชั่น

ข้อมูลเพิ่มเติม

บริษัท ดาต้าแมท จำกัด (มหาชน)

ดาต้าแมทกลับคืนสู่สังเวียนอีกครั้ง

ในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2544 หุ้นของบริษัท ดาต้าแมท จำกัด (DTM) ได้กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้ง ภายหลังถูกระงับการซื้อขายเป็นเวลานานเกือบ 44 เดือน การปรับโครงสร้างหนี้สินและการระดมทุนใหม่ ทำให้ดาต้าแมทสามารถฟื้นตัวจากภาวะสั่นคลอน และมีระบบระเบียบมากขึ้น โดยขณะนี้ Datamat กำลังพุ่งเป้าไปที่การกู้ตำแหน่งผู้นำในตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศไทยให้กลับคืนมา

วิวัฒนาการสู่ดาต้าแมทโฉมใหม่

ดาต้าแมท ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2511 โดยสามอดีตผู้บริหารบริษัท ไอบีเอ็ม (ประเทศไทย) คุณมนู อรดีดลเชษฐ์ คุณณรงค์ ศุภพิพัทฒน์ และคุณณรงค์ กลิ่นกุสุม กลุ่มผู้บริหารผู้ซึ่งยังคงมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทมาโดยตลอด คุณมนู ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาต้าแมท จำกัด และประธานกรรมาธิการ ด้านโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หอการค้านานาชาติ ประจำประเทศไทย ทั้งยังเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาล

บริษัท ดาต้าแมท จำกัด คร่ำหวอดในธุรกิจการให้บริการทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งรวมถึงการขายระบบพื้นฐาน โซลูชั่นฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ทั้งในลักษณะที่เป็นแบบชุดรวม และแยกชุด และขั้นตอนการดูแลรักษา โดยดาต้าแมทมีลูกค้ากระจายอยู่ในทุกกอุตสาหกรรมของประเทศ ดาต้าแมทเติบโตขึ้นจากการเป็นบริษัทจัดจำหน่าย และติดตั้งคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของเอ็นอีซี ตลอดจนพัฒนาโซลูชั่นซอฟต์แวร์ ที่สามารถทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ และระบบต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัท ดาต้าแมท จำกัด เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2526 และถูกระงับการซื้อขายในปี พ.ศ. 2541 การถูกระงับการซื้อขายเป็นผลกระทบมาจากการขาดทุนเนื่องจากภาวะค่าเงินบาทตก ทำให้บริษัทหลายแห่งต้องปิดกิจการลง ในขณะนั้น ดาต้าแมทได้รับผลกระทบ ทำให้การดำเนินธุรกิจขาดความยืดหยุ่น และสภาพคล่องความเสียหายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในธุรกิจการเงิน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของดาต้าแมท โดยที่บริษัทซื้อขายหุ้น และบริษัทการเงินในตลาดกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ เป็นลูกค้าขอลดาต้าแมท ภายในระยะเวลา 2 ปี - พ.ศ. 2540 และ พ.ศ. 2541 - มีบริษัทการเงินถึง 50 บริษัทที่ตกอยู่ในสภาพล้มละลาย

ในระหว่างที่บริษัทถูกระงับการซื้อขาย ดาต้าแมทประสบปัญหาในการระดมทุน และเพิ่มหุ้น เพื่อปลดหนี้ และด้วยเหตุนี้ดาต้าแมทจึงถูกบังคับให้รักษาและปฏิบัติตามวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด พร้อมกับลดค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆของบริษัท ดาต้าแมทได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของบริษัทในช่วงภาวะวิกฤต ด้วยการเดินหน้าทำการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าของบริษัท ในขณะที่ตัดสินใจพร้อมที่จะรับผลกระทบต่างๆ และพยายามทำทุกวิถีทางให้บริษัทยังคงดำเนินกิจการต่อไป เช่น การลดจำนวนพนักงานออกจาก 800 คน เหลือเพียง 295 คน

เป้าหมายสูงสุดของดาต้าแมทในรูปโฉมใหม่ คือการสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงให้กับผู้ถือหุ้น โดยยึดหลักการทำงานอย่างมีความรับผิดชอบ และมีความโปร่งใส ความสำเร็จทางธุรกิจของบริษัทคือการเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำในธุรกิจการบริการ ที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน และด้านการปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ ดาต้าแมทยังคงรักษามาตรการควบคุมค่าใช้จ่าย วินัยในการดำเนินงาน และยังคงรักษาจุดยืนในการเป็นจ้าวธุรกิจ System Integrator

ดาต้าแมทรูปโฉมใหม่เน้นการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร ตั้งแต่การเชื่อมโยงระบบ และเทคโนโลยีต่างๆ ไปจนถึงการออกแบบ และส่งมอบเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน และการให้คำปรึกษา และรับจัดการเกี่ยวกับโซลูชั่นแอปพลิเคชั่นขององค์กร บริการทั่วไปของดาต้าแมทครอบคลุมถึง การจัดการในระดับต่างๆ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่าย ระบบข้อมูล ระบบการประมวลผลข้อมูล และการบริหารธุรกิจ

นอกจากนี้ วัตถุประสงค์หลักอื่นๆของบริษัท ประกอบด้วย การปกป้องสิทธิของผู้ถือหุ้นของดาต้าแมทอย่างเต็มที่โดยการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายด้วยความยุติธรรมและจริงใจ; การตระหนักถึงสิทธิที่พนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพาร์ตเนอร์ของดาต้าแมทพึงจะได้รับ; การกระจายข้อมูลข่าวสารทางด้านการเงิน และการปฏิบัติงานขององค์กรอย่างสม่ำเสมอ; การปฏิบัติตนอย่างมืออาชีพ และมีความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท ดาต้าแมทยึดถือจรรยาบรรณของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานเป็นหลัก และพร้อมที่จะสนับสนุนความเปลี่ยนแปลงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นเพื่อรักษาไว้ซึ่งพันธะสัญญานี้

ในทางยุทธศาสตร์ ดาต้าแมทที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ จะให้ความสำคัญกับรายละเอียดทุกขั้นตอนของธุรกิจ และ ใช้ประสบการณ์อันยาวนานในธุรกิจเทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุด ทางบริษัทได้เริ่มสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทชั้นนำระดับโลกในด้านระบบโครงสร้างพื้นฐาน และโซลูชั่นต่างๆ หลายบริษัท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจของดาต้าแมท ในขณะที่เปิดรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญต่างๆ จากบริษัทต่างประเทศ นอกจากนี้ดาต้าแมทยังได้ร่วมมือกับบริษัทที่มีเทคโนโลยีสูงรายอื่นของประเทศไทย เพื่อสร้างโซลูชั่นระดับไฮเอนด์ สำหรับตลาดภายในประเทศ

การปรับโครงสร้างหนี้

การปรับโครงสร้างหนี้ของดาต้าแมทประสบความสำเร็จได้ ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากโครงการพัฒนาสภาพเศรษฐกิจต่างๆของรัฐบาลไทย และความมุ่งมั่นของบริษัทที่ต้องการจะเอาชนะอุปสรรค และก้าวผ่านภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจและการเงินที่ตกต่ำในช่วงปี พ.ศ. 2540 ดาต้าแมทได้ทำการตกลงกับเจ้าหนี้สถาบันการเงิน 12 รายเพื่อปรับลดหนี้ โดยให้มาอยู่ในระดับที่สามารถบริหารหนี้ได้ในขั้นแรก และชำระหนี้จนหมดได้ในขั้นต่อมา การปลดหนี้สินเดิมเป็นสิ่งที่ดาต้าแมทให้ความสำคัญเป็นอย่างแรก เพราะบริษัทเชื่อว่านี่คือการเริ่มต้นใหม่ของธุรกิจ

ภายหลังการเจรจา กลุ่มเจ้าหนี้สถาบันการเงินได้ตกลงลดหนี้ให้กับดาต้าแมท ถึงเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่า 1.8 พันล้านบาทในส่วนที่เป็นต้นทุน และดอกเบี้ย ทั้งยังทำการเปลี่ยน 424 ล้านบาทให้เป็นทุน ด้วยการขายหุ้นในราคาหุ้นละ 3 บาท ซึ่งจะมีมูลค่าเท่ากับ 22 เปอร์เซ็นต์ของทุนหลังการปรับโครงสร้าาง ข้อตกลงยังได้กำหนดให้มีการเพิ่มทุน เป็นเงินสดถึง 400 ล้านบาท ซึ่งดาต้าแมทได้รับจากการทำข้อตกลงกับบริษัทไซเบอร์ เวนเจอร์ จำกัด และขั้นตอนดังกล่าวเสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2544

ดาต้าแมทยังเดินหน้าลดหนี้ต่อไปให้อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุด ซึ่งหมายถึงผลประโยชน์อันมหาศาลที่จะตามมา อันได้แก่การปรับปรุงบัญชีงบดุลของบริษัท และขวัญและกำลังของพนักงานที่ดีขึ้น รวมถึงการที่ดาต้าแมทจะมีทุนที่เป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้ดาต้าแมทหลุดพ้นจากรายชื่อบริษัทที่ต้องเข้ารับการปรับโครงสร้างหนี้ของตลาดหลักทรัพย์ และสามารถกลับมาทำการซื้อขายได้อีกครั้ง หลังจากที่แสดงผลประกอบการที่เป็นกำไรในตลอดหนึ่งไตรมาส ในระหว่างการปรับโครงสร้างนี้ ดาต้าแมทได้รายงานผลความคืบหน้าแก่นักลงทุนภายในประเทศโดยตลอด

นับเป็นครั้งแรกในรอบ4ปีที่ดาต้าแมทได้เป็นผู้กำหนดทิศทาง และอนาคตของตัวเอง และท้าทายสิ่งใหม่ๆ มากกว่าที่จะดิ้นรนเพื่ออยู่รอด ดาต้าแมทมีมาตรการควบคุมรายรับรายจ่ายที่มีประสิทธิผล ทำให้บริษัทในปัจจุบันมีสภาพทางการเงินที่มั่นคงที่สุด ในรอบทศวรรษ

การคืนสภาพทางธุรกิจ

เมื่อการปรับโครงสร้างหนี้สินเริ่มเข้ารูปเข้ารอยแล้ว ดาต้าแมทได้เริ่มเดินกลับเข้าสู่ธุรกิจอีกครั้ง ด้วยรายได้เพียง 1 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นรายได้ต่อคนที่ต่ำกว่ารายได้ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม แต่ด้วยกระบวนการต่างๆที่มีประสิทธิภาพ และการจัดการด้านการจัดจำหน่าย การจัดส่ง และทรัพยากรทางด้านเทคโนโลยี ในทุกระดับของธุรกิจดาต้าแมทจะประสบความสำเร็จในการเพิ่มรายได้ต่อคน เป็น 3 ล้านบาท ภายในปี พ.ศ. 2545

การกลับมาสร้างรายได้จากโครงการระยะยาวที่มีขนาดใหญ่กว่าที่บริษัทเคยทำมา เป็นเป้าหมายสำคัญของดาต้าแมทในยุคหลังการปรับโครงสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่มีความละเอียดสูง ซึ่งดาต้าแมทมีความเชี่ยวชาญในโครงการลักษณะนี้ ความสัมพันธ์อันดีกับกระทรวง และหน่วยงานรัฐบาลทำให้ดาต้าแมทมีความมั่นใจที่จะสามารถชนะโครงการต่างๆของรัฐบาลได้โดยตลอด 5 ปีจากนี้ นอกจากนี้ดาต้าแมทยังสามารถอาศัยระบบการให้บริการทางการเงินที่มั่นคง สร้างความเด่นชัดใหักับโซลูชั่นด้านการธนาคาร การซื้อขายหุ้น และประกันของบริษัท

การเพิ่มทุนทำให้บริษัทสามารถเพิ่มเจ้าหน้าที่ และมีเวลาเพิ่มขึ้นมากพอที่จะดำเนินตามวัตถุประสงค์ที่ทางบริษัทกำหนดไว้ โครงการเปิดรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเองก็ได้รับการพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาด และเทคโนโลยี ในส่วนการสร้างแบรนด์หลังการปรับโครงสร้าง ก็อยู่ในขั้นตอนการเตรียมการเช่นกัน โดย ดาต้าแมทมุ่งที่จะสื่อสาร และยกระดับการรับรู้คุณค่าของตัวบริษัทในสายตาของพนังงานบริษัท พาร์ตเนอร์ ลูกค้า และนักลงทุนทั่วไป

ด้วยการฝึกอบรมชั้นยอด ทีมขายที่มีความสามารถสูง และเครือข่ายที่กว้างขวาง รวมถึงพาร์ตเนอร์ทางด้าน System Integrator ที่ยอดเยี่ยม ดาต้าแมทจึงมีความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถทิ้งห่างคู่แข่งรายอื่นได้อย่างไม่ยากเย็น ไม่ว่าจะเป็นในด้านคุณภาพของโซลูชั่นต่างๆ และรายได้ เมื่อเทียบกับสุดยอด System Integrator ที่เป็นบริษัทต่างชาติทั้ง 5 บริษัท ดาต้าแมทดำเนินงานด้วยราคาที่ต่ำกว่าบริษัทเหล่านี้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และเสียค่าใช้จ่ายต่ำกว่าถึง 30 เปอร์เซ็นต์ จึงเกิดคำอธิบายถึงบริษัทว่า ดาต้าแมทกำลังทิ้งห่างคู่แข่งระดับประเทศ และไล่ติดคู่แข่งระดับโลก

จากการศึกษาในอุตสาหกรรมพบว่า คู่แข่งของดาต้าแมทยังคงดำเนินธุรกิจไปได้ โดยพึ่งรายได้จากการขายฮาร์ดแวร์ที่มีกำไรต่ำ ยกตัวอย่างเช่น ซีดีจี ได้รับการคาดการณ์ว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวม 5 พันล้านบาทมาจากการขายฮาร์ดแวร์ ในขณะที่เมโทร ซิสเต็มส์ มี 60 เปอร์เซ็นต์ของรายได้รวม 3 พันล้านบาท

นอกจากนี้ การเติบโตทางธุรกิจของดาต้าแมทยังเป็นผลมาจากการเข้าซื้อกิจการ โดยดาต้าแมทได้เข้าซื้อบริษัทด้านแอปพลิเคชั่น ระบบเครือข่าย และ System Integrator เพื่อที่จะสร้างรายได้ และประสานความเชี่ยวชาญทางด้านต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน ดาต้าแมทคอยจับตาบริษัทที่แสดงถึงทิศทางที่ดี และมีเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญที่สามารถสนับสนุนธุรกิจหลักของดาต้าแมทได้

ดาต้าแมทกำลังอยู่ในช่วงของการเจรจากับพาร์ตเนอร์จากประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย กลุ่มประเทศอาเซียน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของดาต้าแมทให้สูงขึ้นไปอีก อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่ทางดาต้าแมทได้ก็คือโอกาสที่จะได้สร้างความสัมพันธ์กับพาร์ตเนอร์ เพื่อขยายขอบเขตของการลงทุนทางธุรกิจออกไปสู่ประเทศอื่นๆนอกประเทศไทย

ตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศ

ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ไอดีซี บริษัทวิจัยชั้นนำของโลกได้คาดการณ์ว่า ภายในครึ่งปีหลังของปี พ.ศ. 2545 ภาวะทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น โดยตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศในเอเชีย แปซิฟิกจะมีอัตราการเจริญเติบโตขึ้น 13.5% และขยายตัวอย่างต่อเนื่องจนถึงปี พ.ศ. 2546 และจะพุ่งขึ้นถึงขีดสุดในปี พ.ศ. 2547 โดยในปี พ.ศ. 2545 ตลาดที่ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ ธุรกิจภาครัฐ, อุตสาหกรรมโทรคมนาคม และวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต

ธุรกิจในภาครัฐ ในทุกประเทศของภูมิภาคจะเป็นส่วนที่สร้างรายได้อย่างมหาศาล จากรายงานของไอดีซี รัฐบาลในทวีปเอเชียจะทุ่มงบประมาณให้กับส่วนของโครงการ E-government โดยจะเห็นได้จากการที่รัฐบาลได้จัดสรรทรัพยากรให้กับงานด้านธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐ และเน้นการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น รายงานระบุว่า E-government เป็นกุญแจสำคัญของรัฐบาล และค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในส่วนนี้เองก็อยู่ในระดับที่ทรงตัว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งหมายถึงโอกาสอันสำคัญสำหรับผู้ขาย และผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ เมื่อค้นพบว่าภาครัฐกำลังต้องการคำแนะนำ, ผลิตภัณฑ์, บริการ และพาร์ตเนอร์ ในการเข้าร่วมโครงการ E-government ต่างๆ ให้มากขึ้น

เพื่อตอกย้ำถึงการเติบโตที่ได้คาดการณ์ไว้ ตลาดบริษัทเซิร์ฟเวอร์ในเอเชียได้มุ่งที่จะขยายตัวขึ้นเรื่อยๆในไตรมาสที่4 ของปี พ.ศ. 2544 ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงตกต่ำ ตามข้อมูลของการ์ทเนอร์ ดาต้าเควสต์ ปริมาณการส่งสินค้าภายในเอเชียเพิ่มสูงขึ้น 6.5 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2544 เมื่อเทียบกับไตรมา l ที่ 3 และรายได้เองก็เพิ่มขึ้นแม้ในอัตราที่ช้ากว่าถึง 5.7 เปอร์เซ็นต์ การ์ทเนอร์เชื่อว่าบริษัทต่างๆจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องต่อมาถึงปี พ.ศ. 2545

ภายหลังการเลือกตั้งในช่วงต้นปี พ.ศ. 2544 และภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยหลังเหตุการณ์วันที่ 11 เดือนกันยายน ค่าใช้จ่ายทางเทคโนโลยีสารสนเทศอยู่ต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้ คือ 6 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังโต้แย้งว่าโครงการต่างๆที่ถูกเก็บมานานที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล หรือถูกแขวนไว้เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังย่ำแย่นั้น ยังคงอยู่ในกระบวนการพิจารณาอยู่ ความจริงก็คือ รัฐบาลสมัยปัจจุบันพร้อมที่จะเริ่มพัฒนาระบบ E-government โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการใหญ่ๆของทางรัฐบาล ตั้งแต่โครงการ E-learning ของกระทรวงศึกษาธิการ ไปจนถึงโครงการเครือข่ายระหว่างหน่วยงานรัฐ

ไอดีซี คาดว่าอัตราค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2545 จะทะลุเพดาน 6 หมื่นล้านบาทซึ่งเป็นจำนวนที่เคยคาดการณ์ไว้สำหรับปี พ.ศ. 2544 โดยจะตกอยู่ที่ 6.3 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่าหน่วยงานที่กำลังเติบโตและขยายตัวเร็วที่สุดในตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่ ภาครัฐบาล, โทรคมนาคม, E-learning และบริการทางการเงิน

System Integration

การเชื่อมโยงระบบ หรือ System Integration ครอบคลุมงานหลายด้าน ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบข้อมูลที่มีความซับซ้อนสูง บนเทคโนโลยี หรือแพลตฟอร์มที่มีความหลายหลาก ทั้งด้านการออกแบบ การติดตั้ง การเชื่อมโยง และการสนับสนุนของเทคโนโลยี สารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างด้านโทรคมนาคม การวางระบบเครือข่ายของหน่วยงานรัฐบาล ชุดแอปพลิเคชั่นด้านการดำเนินธุรกิจของบริษัทขนาดใหญ่ การออกแบบ และการติดตั้งการเชื่อมโยงระบบที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจของผู้ใช้ประสบความสำเร็จได้

โครงสร้างพื้นฐานทางไอที

ดาต้าแมทเปิดให้บริการทางด้านเทคโนโลยี สารสนเทศ ที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยมีแผนงานที่ได้รับการออกแบบอย่างรอบคอบ และพาร์ตเนอร์ที่มีความสามารถสูง รวมทั้งสามารถให้โซลูชั่นด้านการเชื่อมต่อเครือข่าย บริการเกี่ยวกับระบบเครือข่าย และ E-business ซึ่งล้วนแต่มีมูลค่าสูงสำหรับธุรกิจในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจทางด้านการเงิน, โทรคมนาคม, ภาครัฐบาล และการจัดการการจัดส่งสินค้า

ดาต้าแมทในโฉมใหม่ให้บริการที่เรียกว่าการวินิจฉัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่การวางแผน การติดตั้ง และการบริหาร เพื่อให้มั่นใจว่าระบบจะยังคงทำงานอย่างมั่นคง ทนทาน น่าเชื่อถือ และใช้การได้อย่างต่อเนื่อง ดาต้าแมทมีความเชี่ยวชาญในด้านโซลูชั่น และการให้บริการแบบครบวงจร สำหรับระบบที่ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีจากผู้ผลิตหลายค่าย นอกจากนี้บริษัทยังมีประสบการณ์ในด้านการติดตั้ง และผสานระบบต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์การจัดการระบบเครือข่าย เพื่อให้ชบริการประเมินผล ตรวจสอบ และจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบเครือข่าย

บริการอย่างมืออาชีพ

ด้วยการเป็นผู้ให้บริการอย่างมืออาชีพมานาน ดาต้าแมทจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความเชี่ยวชาญในการติดตั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ซอลูชั่น และยึดถือถือการบริการลูกค้าไอทีอย่างสม่ำเสมอด้วยความจริงใจ ดาต้าแมทรูปโฉมใหม่จะยังคงไว้ซึ่งบริการอย่างมืออาชีพในการสนับสนุนลูกค้าจนถึงที่สุด

ดาต้าแมทเป็นบริษัทที่ตั้งมั่นด้วยความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดภาคอุตสาหกรรมหลายแห่ง โดยเฉพาะบริการด้านการเงินและการบริหารหน่วยงานที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และด้วยการมีหุ้นส่วนใหม่ๆ รวมกับหุ้นส่วนเดิมทำให้ดาต้าแมทมีบทบาทสำคัญและมีความโดดเด่นในด้านโทรคมนาคม และ ดาต้า คอมมิวนิเคชั่นส

บริการด้านแอพพลิเคชั่น

ความกดดันในด้านคู่แข่งผลักดันให้หลายหน่วยงานเพ่งไปที่ศักยภาพหลักของหน่วยงาน และพยายามจัดหาผู้เชี่ยวชาญในการช่วยติดตั้ง บำรุงรักษา และอัพเกรดเทคโนโลยี ขณะที่หลายบริษัทในโซนเอเชียเริ่มที่จะขยายแหล่งไอที ความต้องการด้านบริการแอพพลิเคชั่นเองก็เพิ่มขึ้นตาม ดาต้าแมทสามารถรับมือกับการผันเปลี่ยนนี้ได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งตั้งมั่นที่จะคว้าทุกโอกาสที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ดาต้าแมทโฉมใหม่ให้บริการซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นที่หลากหลาย เช่น บริการ hosting การให้บริการและบริหารเครือข่าย การบริหารฮาร์ดแวร์ และการบริการด้านซิสเต็มส์อินทริเกชั่น ผ่านทางพันธมิตรทางธุรกิจ ซี่งมีทั้งผู้ให้บริการระดับนานาชาติ และผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น

ระบบเชื่อมโยงในองค์กร

ด้วยการเป็นเจ้าของบริษัทสาขา OCT ดาต้าแมทเป็นผู้จำหน่าย Sun Microsystems การจัดจำหน่ายระบบเชื่อมโยงในองค์กรนั้นครอบคลุมตั้งแต่การจำหน่ายฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ ดาต้าแมทก้าวขึ้นเป็นผู้นำจากธุรกิจการจำหน่ายฮาร์ดแวร์ ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมาดาต้าแมทได้ให้การสนับสนุนบริษัทชั้นน้ำถึง 75%

ดาต้าแมทโฉมใหม่นี้จะมุ่งมั่นให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบ จุดมุ่งหมายสูงสุดคือการรวมการจัดจำหน่ายกับระบบติดตั้งเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้โซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่สุด

ซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นในองค์กร

ดาต้าแมทได้ออกแบบ และให้บริการแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์อย่างครบวงจรแก่ลูกค้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โซลูชั่นที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยดาต้าแมทมีใช้อยู่ในหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนชั้นนำ

ดาต้าแมทโฉมใหม่ร่วมกับหุ้นส่วนระดับนานาชาติมุ่งให้บริการชุดโซลูชั่นที่ล้ำยุคด้าน Enterprise Resource Panning (EPR), Supply Chain Management (SCM) and Customer Relationship Mangaement (CRM) แก่กลุ่มลูกค้าทั้งภาคการผลิต การจำหน่าย และธุรกิจแบบค้าแบบปลีกทั่วประเทศ ประสบการณ์ในการให้บริการโซลูชั่นที่ซับซ้อนจะเอื้ออำนวยให้ดาต้าแมทโฉมใหม่ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้าน state-of-the-art solutions ในภาคอุตสาหกรรมไทย

การบำรุงรักษาและการสนับสนุนระบบ

ดาต้าแมทมีฐานลูกค้าที่กว้างขวางในตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศในประเทศไทยมายาวนานถึง 32 ปี ลูกค้าเหล่านี้เชื่อมั่นในบริการและการซัพพอร์ตของดาต้าแมท และให้ค่าบำรุงรักษาระบบถึง 70ล้านบาทต่อปี

พันธมิตร และหุ้นส่วนที่สำคัญ

ด้วยการก้าวสู่การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว กำลังสำคัญของกลยุทธการดำเนินงานของดาต้าแมทรูปโฉมใหม่นี้คือการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจใหม่ๆและยืนยาวเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทยให้มีมากขึ้น

ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ในช่วงปรึกษาหารือกับผู้จำหน่ายเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่ง ซัพพลายเออร์สินค้า และผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งในและต่างประเทศ

ดาต้าแมทได้ทำงานร่วมกับ IBM ในด้านเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ และกำลังขยายศักยภาพในการพัฒนา Tools และบริการสนับสนุนต่างๆ ความร่วมมือระกว่างดาต้าแมทกับซันไมโครซิสเต็มส์ เองก็มีมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรเช่นกัน ดาต้าแมทเป็นผู้จำหน่ายเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ของซันอันดับที่สามในประเทศไทย และมุ่งมั่นที่จะขึ้นมาเป็นผู้จำหน่ายในระดับแนวหน้าต่อไป นอกจากนี้ดาต้าแมทยังคงเป็นศูนย์การฝึกของซันในประเทศไทย อีกด้วย

นอกจากนี้ ดาต้าแมทยังเป็นตัวแทนสินค้าของซอฟต์แวร์ของออราเคิล ซึ่งเป็นผู้จำหน่าย SAP โซลูชั่น และตกลงร่วมธุรกิจกับอินเทล คอร์ปอเรชั่นอีกด้วย ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่นในองค์กร ดาต้าแมทได้มีข้อตกลงในการบริหารการตลาด และให้การสนับสนุนการบริหารด้านโซลูชั่นในนามของ Infrontier และ a First Paific Corporation company และยังได้เข้าร่วมเป็นบริษัทร่วมกับ SBT Limited ผู้จัดจำหน่ายแอพพลิเคชั่นในองค์กรระหว่างประเทศ

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

อุรชา จักรธรานนท์

ชัยวัฒน์ สิมะวัฒนา

บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด

โทร 0-2662-2266(ยังมีต่อ)

-อน-