กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--กทม.
เมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.45) เวลา 13.30 น. ที่โรงเรียนวัดหลักสี่ ดร.ธารินทร์ สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการห้องเรียนดนตรีเทเลคอมเอเซีย โดยมี นายไพรัช อรรถกามานนท์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา นางอรุณี รัศมิทัต ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ผู้แทนสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 พระครูปิยะกิจ โกศล เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ อาจารย์วีระวัธน์ เทพโสธร นายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ น.ส.มณีนุช เสมรสุต และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี
โครงการห้องเรียนดนตรีเทเลคอมเอเซีย เป็นโครงการความร่วมมือของสามองค์กรใหญ่ คือ บริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ ให้การสนับสนุนด้านการดำเนินงานและงบประมาณ สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยใน พระบรมราชูปถัมภ์ ให้การส่งเสริมด้านความรู้และคุณค่าของเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ให้การสนับสนุนด้านการเผยแพร่ โดยมีทีมงานของน.ส.มณีนุช เสมรสุต จากโรงเรียนสอนศิลปะการใช้เสียงและลีลาให้การสนับสนุนด้านการเรียนการสอน ซึ่งการสนับสนุนส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชนในด้านดนตรีไม่ว่าจะเป็นการละเล่นหรือขับร้องเพลงทั้งเดี่ยวและประสานเสียงจะช่วยสร้างพื้นฐานการแสดงออก พัฒนาศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ เสริมสร้างจินตนาการ รวมทั้งการฝึกฝนด้านดนตรีจะทำให้เยาวชนมีสมาธิในการทำงานทั้งอารมณ์และจิตใจ มีความรัก ความสามัคคีในการทำงานเป็นหมู่คณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมุ่งสร้างเยาวชนให้ตระหนักและเห็นคุณค่าความสำคัญในการร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงพระราชนิพนธ์ให้ไพเราะออกอักขระอย่างถูกต้อง เข้าใจและซาบซึ้งในความหมายของบทเพลง ซึ่งจะนำไปสู่ความรัก ความเคารพ ความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจนช่วยกันดูแลและรักษาให้คุณค่านี้ คงอยู่อย่างยั่งยืนเป็นมรดกตกทอดแก่ลูกหลานไทยสืบไป
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.มีนโยบายส่งเสริมให้เด็กนักเรียนในสังกัดได้อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ่งโครงการนี้นับเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนนโยบายดังกล่าว เพราะการฝึกร้องเพลงจะมีส่วนช่วยให้เด็กนักเรียนได้ออกเสียงถูกต้อง ชัดเจน และการเปิดโครงการในวันนี้นับเป็นการเปิดโครงการในส่วนของโรงเรียนสังกัดกทม.อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ได้มีการเปิดโครงการนำร่องมาแล้วที่โรงเรียนวัดช่องนนทรี โดยกทม.และผู้ให้การสนับสนุนจะดำเนินโครงการดังกล่าวในโรงเรียนสังกัดกทม. รวมทั้งสิ้น 11 โรงเรียน ทั้งนี้กทม.ต้องขอขอบคุณหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนที่ได้ให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าว และขอให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จด้วยดีต่อไป--จบ--
-นห-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit