หุ้นกู้มีประกัน ของบริษัท จีที สตาร์ส ทู จำกัด คาดว่าจะได้รับการจัดอันดับเครดิต 'A(tha)' จากฟิทช์

17 Jul 2002

กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--ฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)

ฟิทช์-กรุงเทพฯ / ฮ่องกง- 17 กรกฎาคม 2545: บริษัท ฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะให้อันดับเครดิตระยะยาวในประเทศแก่ หุ้นกู้มีประกันของบริษัท จีที สตาร์ส ทู จำกัด ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2550 มูลค่าไม่เกิน 4,670 ล้านบาท ในระดับ A(tha) โดยมีหลักประกันเป็นสิทธิเรียกร้องและสิทธิประโยชน์ตามสัญญาเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย บริษัทจีที สตาร์ส ทู จำกัด เป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจที่จดทะเบียนในประเทศไทยโครงการนี้เป็นการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (securitisation) ของกลุ่มลูกหนี้ที่มีไม่ก่อให้เกิดรายได้เป็นส่วนใหญ่ และนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการจัดอันดับเครดิตให้กับหลักทรัพย์ที่มีหลักประกันประเภทนี้ และนับเป็นโครงการที่สองที่จัดทำโดย Lehman Brothers ในประเทศไทย อันดับเครดิตนี้จะสมบูรณ์ต่อเมื่อฟิทช์ได้รับเอกสารประกอบการวิเคราะห์ต่างๆฉบับจริงครบถ้วนแหล่งที่มาหลักของเงินในการชำระคืนหุ้นกู้ครั้งนี้มาจากเงินที่เรียกเก็บได้จากกลุ่มลูกหนี้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จากกองทุนรวมและบริษัทบริหารสินทรัพย์ของ Lehman Brothers (Global Thai Property Fund และ Palarp Asset Management ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกองทุนรวม Thai Opportunity Fund) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (non-performing loans) 81 % กลุ่มลูกหนี้ที่ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว (restructured loans) 16% และที่เหลือเป็นลูกหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ (performing loans) โดยกลุ่มลูกหนี้นี้ถูกซื้อมาจากองค์การเพื่อการปฏิรูปสถาบันการเงิน (ปรส.) และธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ จำกัด (มหาชน) ลูกหนี้เหล่านี้ส่วนใหญ่มีหลักประกันเป็นสินทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย รวมถึงอาคารพาณิชย์ (ตึกแถว) และที่ดินเปล่า ซึ่งมีอยู่มากกว่าหนึ่งในสามของลูกหนี้ทั้งหมด เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะถูกนำไปซื้อสิทธิที่จะได้รับกระแสเงินสดที่เกิดจากกองทุนดังกล่าว ในขณะเดียวกันนิติบุคคลเฉพาะกิจเทเนเร็ตจะนำเงินที่ได้จากการจัดหาเงินกู้ไปซื้อสิทธิที่จะได้รับกระแสเงินสดแบบเดียวกันนี้จำนวน 2,500 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นกู้และผู้ให้เงินกู้กับเทเนเร็ตจะมีสิทธิเท่าเทียมกันในทุกๆด้าน ทั้งสิทธิในการได้รับชำระเงินตามสัญญาและสิทธิเรียกร้องในสินทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกัน

สิทธิเรียกร้องในกระแสเงินสดและการชำระคืนหุ้นกู้นั้นมาจากการเก็บดอกเบี้ยและเงินต้นจากกลุ่มลูกหนี้ทั้งหมด จำนวน 14,818 บัญชี ที่มียอดหนี้คงค้างทั้งหมด 19.3 พันล้านบาท ณ วันที่ 30 เมษายน 2545

ฟิทช์ได้ทำการวิเคราะห์โครงการนี้ในระดับลูกหนี้เป็นรายๆไปและทำการประมาณการจำนวนเงินที่จะเรียกเก็บกลับมาได้ รวมถึงดูสภาพคล่องว่ามีเพียงพอที่จะรองรับในการชำระดอกเบี้ยตรงตามกำหนดและคืนเงินต้นได้ตามกำหนดอายุไถ่ถอนของหุ้นกู้ เพื่อให้สอดคล้องกับระดับเครดิต 'A(tha)' ที่จะให้ ส่วนความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของมูลค่าหลักประกัน ความล่าช้าในการขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม รวมถึงสภาพคล่องของตลาดที่อยู่อาศัยมือสองที่มีอยู่ไม่มาก ความเสี่ยงได้ถูกลดทอนลงโดยวิธีการของฟิทช์ (Stress Cash Flow Model) โดยการใช้สมมุติฐานด้านราคาตลาดที่ต่ำและระยะเวลาในการขายสินทรัพย์เป็นตัวทดสอบ

มูลค่าของหุ้นกู้และเงินกู้ของเทเนเร็ตรวมกันคิดเป็น 37.15% ของยอดหนี้คงค้างทั้งหมด 19.3 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 48.12% ของมูลค่าสินทรัพย์ที่ได้รับการปรับปรุงสุทธิ (Adjusted Net Asset Value) ของทั้งสองกองทุนรวมจำนวน 14.9 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการดำรงระดับเงินในบัญชีสำรองเพื่อการชำระหนี้ให้อยู่ในระดับเท่าดอกเบี้ยจ่ายหนึ่งปีเพื่อให้เกิดสภาพคล่องตลอดอายุของหุ้นกู้

บริษัท Capital Advisory Services (Thailand) Limited ของ Lehman Brothers เป็นผู้ดูแลการบริการเรียกเก็บหนี้ของ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พรีเมียร์ แอลเอ็มเอส จำกัด จากประวัติที่ผ่านมานั้น บริษัทสามารถเรียกเก็บหนี้ได้มากกว่ามูลค่าตามบัญชีของหลักประกันและยอดหนี้คงค้าง ฟิทช์จึงเชื่อว่า ระบบการจัดการบริหารที่เป็นอยู่นั้นสามารถจะสนองจุดมุ่งหมายของการทำ securitisation ครั้งนี้ได้

สำหรับรายงานฉบับเบื้องต้นนี้หาได้จาก www.fitchratings.com

ติดต่อ

Vincent Milton, ดุษฎี ศรีชีวะชาติ, ภิมลภา สิมะโรจน์, กรุงเทพฯ

+662 655 4755

Ben McCarthy, Hong Kong

+852 2263 9922

หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่า 'AAA' ในระดับการจัดอันดับเครดิตแบบสากล (International Ratings) อันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับอันดับเครดิตแบบสากล เนื่องจากอันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย--จบ--

-ศน-