กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
ซาโนฟี่-ซินเตลาโบ บริษัทเวชภัณฑ์ขนาดใหญ่ลำดับสองของฝรั่งเศสและเป็นลำดับเจ็ดของยุโรปกำลังขยายกิจการอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ได้แจ้งว่า กลุ่มบริษัทฯ ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค (NYSE) เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ นายสตีเฟน โอลด์ฟิลด์ ผู้จัดการทั่วไป ในประเทศไทยก็ได้รายงานว่า กิจการของบริษัทในไทยมีอัตราเติบโตร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับอัตราเติบโตเฉลี่ยของทั้งอุตสาหกรรมยาโดยรวม ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 5
บริษัทซาโนฟี่-ชินเตลาโบ ได้ก่อตั้งในประเทศไทยเมื่อ ปี พ.ศ. 2542 หลังจากการรวมกิจการของทั้งสองบริษัทที่กรุงปารีส แต่ผลิตภัณฑ์ของซาโนฟี่-ซินเตลาโบ เป็นที่รู้จักและแพร่หลายในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านเวชภัณฑ์ สำหรับป้องกันและรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตันจากการเกิดลิ่มเลือด โรคทางระบบประสาทส่วนกลาง เช่น โรคลมชักและอาการนอนไม่หลับ ยารักษาอาการไอ และยารักษาโรคมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์แลคตาซิด สำหรับทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นของสุภาพสตรี และยาสีฟันฟลูโอคาริล
"การเป็นผู้นำในเวชภัณฑ์ด้านต่างๆ รวมทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค มีส่วนช่วยให้เราเติบใหญ่และมีการขยายตัวเร็วที่สุดบริษัทหนึ่งในอุตสาหกรรมยาในประเทศไทย" นายสตีเฟน โอลด์ฟิลด์ กล่าว "เมื่อปีที่แล้ว เราเพิ่มจำนวนพนักงานถึงร้อยละ 20 และในปี 2545 นี้ ยอดขายของบริษัทยังจะคงเติบโตอย่างต่อเนื่องไปอีกร้อยละ 30 สูงกว่าอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยของอุตสาหกรรมยาซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 5"
นายโอลด์ฟิลด์ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะเพิ่มยอดขายจากเวชภัณฑ์กลุ่มใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจต่อไป และจะทำให้สถานภาพของซาโนฟี่-ซินเตลาโบ ในประเทศไทยมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในขณะที่ตลาดยากำลังปรับตัวรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง อันเนื่องมาจากนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรคของรัฐบาล
การนำกลุ่มบริษัทซาโนฟี่-ซินเตลาโบ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปารีส ไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค (NYSE) ก็เพื่อทำให้กลุ่มบริษัทเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่นักลงทุนทั่วโลกมากยิ่งขึ้น และเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่มีนัยสำคัญของกลุ่มบริษัทฯในตลาด
สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ โดยมียอดจำหน่ายถึงร้อยละ 36 จากยอดจำหน่ายรวมทั้งหมดของกลุ่มบริษัท ฯ และทำกำไรถึงร้อยละ 41 จากยอดกำไรทั้งหมด
นักสังเกตการณ์ในการลงทุนอาจมองว่า การเปิดตัวในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คของกลุ่มบริษัทซาโนฟี่-ซินเตลาโบในขณะนี้ เป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจะเหมาะสมนัก เนื่องจากตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกาอยู่ในช่วงตกต่ำ แต่ผู้บริหารกลุ่มบริษัทซาโนฟี่-ซินเตลาโบ กล่าวว่า "บรรยากาศของตลาดหุ้นในปัจจุบันอาจเป็นอุปสรรคสำหรับการนำหุ้นออกจำหน่ายอยู่บ้าง แต่เราเพียงแค่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนเท่านั้น ช่วงเวลาจึงไม่เป็นปัจจัยที่สำคัญนัก"
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจะเข้าใจว่า "ซาโนฟี่-ซินเตลาโบ มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และเป็นบริษัทเวชภัณฑ์แห่งหนึ่งที่มีผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีอนาคตดีจำนวนมากมายอยู่ในระหว่างการพัฒนาในธุรกิจนี้"
กลุ่มบริษัทซาโนฟี่-ซินเตลาโบ เน้นด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นพื้นฐาน มีสาขาทั่วโลกในกว่า 100 ประเทศ มีพนักงานทั่วโลกกว่า 30,000 คน ซึ่งรวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุน 6,000 คน ในศูนย์วิจัยและพัฒนา 15 แห่ง เป็นที่ยอมรับว่าบริษัท ฯ เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีกลุ่มเวชภัณฑ์ที่ดีที่สุดบริษัทหนึ่งในอุตสาหกรรมยา โดยผลิตภัณฑ์สำคัญแต่ละชนิดเป็นผู้นำในตลาดนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น ยาพลาวิกซ์สำหรับโรคหัวใจ และอัมพฤกษ์ อัมพาต ก็เป็นผู้นำในตลาดนั้น และใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมียอดจำหน่ายทั่วโลกมากกว่า 2 พัน ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 84,000 ล้านบาท) ต่อปี
กลุ่มบริษัทซาโนฟี่-ซินเตลาโบ ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2542 โดยเกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัทซาโนฟี่ และบริษัทซินเตลาโบ นับแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทก็ได้ขยายกิจการอย่างมั่นคงจนเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำของโลก ที่มีอัตราการขยายตัวเติบโตเร็วที่สุดบริษัทหนึ่งในอุตสาหกรรมนี้
หมายเหตุ
ในปี 2544 กลุ่มบริษัทซาโนฟี่-ซินเตลาโบ มียอดขายรวม 6,488 ล้าน ยูโร (ประมาณ 272,496 ล้านบาท) สูงขึ้น 15% เทียบกับปี 2543 และเมื่อคิดยอดขายรวมจากการพัฒนาร่วมกับบริษัทคู่สัญญาอื่นจะสูงถึง 8,746 ล้าน ยูโร (ประมาณ 367,332 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 21% เทียบกับปี 2543 (ยอดขายรวมจากการพัฒนาร่วมกับบริษัทคู่สัญญาอื่น หมายถึง ยอดจำหน่ายรวมของยา Plavix/Iscover และ Aprovel/Avapro/Karvea ทั้งจากซาโนฟี่-ซินเตลาโบ และบริสตอล ไมเยอร์ สควิบบ์ และยอดจำหน่ายยา Stilnox/Ambien ร่วมกับฟาร์มาเชีย)
ปัจจุบันซาโนฟี่-ซินเตลาโบ กำลังวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อีก 48 ชนิด ในจำนวนนี้มี 20 ชนิด ที่กำลังทดลองอยู่ในระยะที่ 2 หรือ 3
สำหรับปี 2544 บริษัทมีกำไรสุทธิ ก่อนหักรายการพิเศษและตัดค่าเสื่อมราคา 1,376 ล้านยูโร (ประมาณ 57,792 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 43% เทียบกับปี 2543
การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของซาโนฟี่-ซินเตลาโบ เกิดจากยอดจำหน่ายของเวชภัณฑ์
ยอดนิยมสามกลุ่มคือ :
เวชภัณฑ์ที่จะกลายเป็นที่ยอดนิยมทั่วโลกในเร็วๆ นี้ มี 2 ชนิด คือ Eloxatin สำหรับรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ซึ่งมีจำหน่ายแล้วในหลายประเทศ และที่กำลังอยู่ในระหว่างการวางตลาดในยุโรปและสหรัฐอเมริกา คือ Arixtra เป็นยากลุ่มใหม่สำหรับต้านการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดซึ่งมักเกิดขึ้นภายหลังการผ่าตัดใหญ่
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ :
คุณปองปรัชญ์ สุโรจนะเมธากุล
บริษัท พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด
โทร. 0-2651-8989 ต่อ 330
แฟกซ์ 0-2651-9649
e-mail : [email protected] จบ--
-ศน-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit