มูลนิธิญี่ปุ่น กรุงเทพฯ เสนอ FAKE ME นิทรรศการศิลปะสื่อผสม โดย มนตรี เติมสมบัติ

05 Sep 2002

กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--มูลนิธิญี่ปุ่น กรุงเทพฯ

สนับสนุนโดย บริษัท เจวีซี เซลซ์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด

พิธีเปิด และการแสดงเปิดงาน

19.00 น.

วันพฤหัสบดี ที่ 10 ตุลาคม 2545

ณ ห้อง อาร์ท แกลเลอรี่ ศูนย์วัฒนธรรมญี่ปุ่น กรุงเทพฯ

ระยะเวลาแสดง: วันศุกร์ที่ 11 – วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2545

วันธรรมดา

09.00 – 19.00 น.

วันเสาร์

09.00 – 17.00 น.

(ปิดวันอาทิตย์และวันพุธที่ 23 ตุลาคม )

สถานที่:

ห้อง อาร์ท แกลเลอรี่ ศูนย์วัฒนธรรมญี่ปุ่น กรุงเทพฯ

อาคารเสริมมิตร ทาวเวอร์ ชั้น10 เลขที่ 159 สุขุมวิท ซอย 21 กรุงเทพฯ 10110

โทรศัพท์ 0-2260-8560-4 โทรสาร 0-2260-8565

“ในผลงานสื่อการจัดวางและการแสดงสด ครั้งนี้จะเป็นการถ่ายทอดจากมุมมอง และความรู้สึกของฉันเองเหมือนเป็น บอนไซ ที่ถูกถอนรากถอนโคนจากโลก พันธนาการตนเองอยู่กันกระถางใบเล็ก ให้มีชีวิตอยู่ไปอีกนับพันปีกับโลกใหม่ ที่เหมือนถูกสมมุติขึ้นมา ให้โอบอุ้ม สงบ นิ่ง และเย็น มีเพียงความว่างเปล่าที่เป็นนิรันดร์....คงอยู่ในใจ....และเก็บกอดไว้ชั่วกาล ....”

(มนตรี เติมสมบัติ)

FAKE ME

นิทรรศการศิลปะสื่อผสม โดย มนตรี เติมสมบัติ

มูลนิธิญี่ปุ่น กรุงเทพฯ ภูมิใจเสนอ นิทรรศการศิลปะสื่อผสม “FAKE ME ” ซึ่งสร้างสรรค์โดย ศิลปินหนุ่มมากความสามารถ มนตรี เติมสมบัติ ณ ห้องอาร์ท แกลเลอรี่ ศูนย์วัฒนธรรมญี่ปุ่น กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม ถึงวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2545 โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท เจวีซี เซลซ์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด

มนตรี เติมสมบัติ ได้รับทุนจากมูลนิธิฯ เพื่อทำการวิจัยด้านศิลปะในญี่ปุ่นเป็นเวลา 6 เดือน ในปี 2000 ช่วงที่เขาอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นนั้น เขาได้ค้นคว้าและประสบความสำเร็จในการเพิ่มพูนประสบการณ์ทางด้านศิลปะของเขา เห็นได้จากนิทรรศการแสดงผลงานล่าสุดในญี่ปุ่นซึ่งได้รับคำชมเชยอย่างล้นหลามจากผู้ชมที่นั่น

ก่อนได้รับทุนนี้ เขาเคยได้รับรางวัล Young Designer Award จาก Bangkok International Fashion 1999 เรียกได้ว่าความคิดสร้างสรรค์ของเขาทำลายเส้นแบ่งระหว่างงานศิลปะและแฟชั่นเลยทีเดียว

แม้ว่างานของเขาอาจก้าวล้ำทั้งคำว่าศิลปะหรือแฟชั่น หากความรู้สึกที่เขามีต่อธรรมชาติดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากขึ้น จากการฝึกฝนการใช้เทคนิคที่ผสานกับวัสดุจากธรรมชาติ เช่น การสร้างสรรค์ผลงานขากข้าวหรือหนอนไหมแล้ว ครั้งนี้ เขาเบนความสนใจไปยัง “บอนไซ” ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งใน “ตัวแทน” ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นในสังคมโลก

นิทรรศการศิลปะสื่อผสมรูปแบบใหม่นี้ เอื้อให้เขาคิดค้นผลงานใหม่ๆ ที่ได้แรงดลใจจากแนวความคิดที่มีต่อธรรมชาติของเขา และบอนไซ รวมถึงประสบการณ์ที่เขาได้รับจากการอาศัยที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย

พิธีเปิด และการแสดงเปิดงานจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 10 ตุลาคม 2545 เวลา 19.00 น. ณ ห้องอาร์ท แกลเลอรี่ ศูนย์วัฒนธรรมญี่ปุ่น กรุงเทพฯ เข้าชมฟรี

____________________________

บทความ โดย มนตรี เติมสมบัติ

" ก้าวสู่ความว่างเปล่า "

อาจเป็นเพราะความจริงของการมีชีวิตอยู่นั้นดูช่างว่างเปล่า....เมื่อฉันมองออกไปรอบตัว.... บางครั้งฉันมองไม่เห็นอะไรเลย.... รอบตัวของฉันเต็มไปด้วยสิ่งลวงตาที่กดดัน....

ฉันรู้สึกถูกขึงตรึงให้ติดอยู่กับที่........

ฉันต้องการเดินทาง....การเดินทางจะช่วยทำให้ฉันเข้าใจตนเองและเติบโต ด้วยความหวังที่มีเพียงลมหายใจเข้าออกคอยเตือนใจ และมีช่องว่างภายในไว้คอยเป็นทาง....

ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่ฉันมีโอกาสเดินทางไปพำนัก ระหว่างการแสดงผลงานศิลปะ ณ เมืองฟูกูโอกะ เป็นเวลาร่วมเดือนที่ฉันได้สัมผัสกับรูปแบบชีวิต วัฒนธรรมบางอย่างที่ไม่ได้ห่างไกลกันจนสุดขั้ว ทำให้ฉันรู้สึกถึงการเดินทางที่ทอดยาวออกไป....

เผชิญหน้ากับตนเองในต่างแดน..........

ฉันต้องการเดินทางไปญี่ปุ่นอีกครั้ง

จากนั้นฉันได้รับทุนสนับสนุนทางศิลปะจากมูลนิธิญี่ปุ่นเป็นเวลาหกเดือน ฉันตั้งใจจะศึกษาการรับใช้ทางวัตถุของศิลปะและแฟชั่น แล้วสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ที่นั้นคือ สังคมอุตสาหกรรมที่ได้ให้ความสำคัญกับความเป็นวัตถุในชีวิตประจำวัน แฟชั่น ตลอดจนบางครั้งบางที ศิลปะ ก็อาจถูกตัดสินว่าเป็นสิ่งที่ว่างเปล่า

เหมือนบอนไซที่ฉันได้เห็น ซึ่งกลายเป็นกุญแจสำหรับฉันที่ใช้เปิดไข ความเข้าใจ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ อาจเป็นเพราะการที่ได้เคยร่วมทำงานกับ ข้าว และหนอนไหม ในผลงานก่อนหน้า ได้ช่วยลับมุมมองของฉันที่มีต่อธรรมชาติ และด้วยความซาบซึงใจนี้จึงได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการแสดงผลงานครั้งนี้

บอนไซ เป็นเสมือนตัวแทนความสัมพันธ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่งแพร่กระจายภาพลักษณ์จากตะวันออกไกลไปสู่

ยุโรปได้อย่างกว้างไกล จนกระทั่งมีการยกย่องให้บอนไซเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพของสังคมโลก บอนไซ ได้มีส่วนหล่อหลอมจิตใจผู้คนให้สำนึกตนสู่สันติ

ในผลงานสื่อการจัดวางและการแสดงสด ครั้งนี้จะเป็นการถ่ายทอดจากมุมมอง และความรู้สึกของฉันเองเหมือนเป็น บอนไซ ที่ถูกถอนรากถอนโคนจากโลก พันธนาการตนเองอยู่กันกระถางใบเล็ก ให้มีชีวิตอยู่ไปอีกนับพันปีกับโลกใหม่ ที่เหมือนถูกสมมุติขึ้นมา ให้โอบอุ้ม สงบ นิ่ง และเย็น

มีเพียงความว่างเปล่าที่เป็นนิรันดร์....คงอยู่ในใจ....และเก็บกอดไว้ชั่วกาล .....หมายเหตุ:

บอนไซเป็นไม้แคระที่เลี้ยงในกระถาง เพื่อชื่นชมความงามของธรรมชาติจากต้นไม้แคระที่จัดแต่งรูปทรงอย่างสวยงาม บอนไซถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของวัฒนธรรมญี่ปุ่น--จบ--

-ศน-