กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--สธ.
กระทรวงสาธารณสุขปรับบทบาทสำนักงานสาธารณสุขอำเภอให้สอดรับกับการปฏิรูประบบสุขภาพแนวใหม่และระบบกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น โดยทำหน้าที่คล้ายเป็นผู้ตรวจราชการประจำพื้นที่ในจังหวัด ติดตามกำกับนโยบายของรัฐบาลให้บรรลุทั้งเชิงรับและเชิงรุก เริ่ม 1 ตุลาคม 2545 นี้
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้บรรยายพิเศษเรื่องก้าวต่อไปของการกระจายอำนาจกับหลักประกันสุขภาพ ในการประชุมการพัฒนาหน่วยงานสาธารณสุขเพื่อยกระดับมาตรฐานด้านบริการและการบริหารประจำปี 2545 ที่ศูนย์ประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2545 ว่า ก้าวต่อไปของการกระจายอำนาจกับหลักประกันสุขภาพนั้น บทบาทใหม่ของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอภายใต้ระบบการปฏิรูประบบสุขภาพ ระบบราชการและการกระจายอำนาจ ซึ่งต่อไปนี้สถานีอนามัยจะยกระดับเป็นศูนย์สุขภาพชุมชน และอยู่ในเครือข่ายบริการของโรงพยาบาลแทนสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ โดยในส่วนของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอจะทำหน้าที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม คล้าย ๆ กับเป็นสำนักตรวจราชการประจำพื้นที่ระดับอำเภอ เป็นแกนประสานทั้งในด้านการบริหารงาน งบประมาณ สนับสนุนและติดตาม ควบคุมประเมินผลนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้การบริหารจัดการระบบสุขภาพแนวใหม่ที่เน้นการสร้างนำซ่อมประสบผลสำเร็จ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2545 เป็นต้นไป
นางสุดารัตน์กล่าวว่า ตามโครงการ 30 บาทได้มีการปรับระบบการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับมาตรการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น ซึ่งกำหนดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2549 โดยให้ทุกจังหวัดตั้งคณะกรรมการสุขภาพระดับพื้นที่หรือ กสพ.พื้นที่ มีคณะกรรมการ 24 คน ประกอบด้วยผู้แทนจากส่วนท้องถิ่น 9 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน ภาคประชาสังคม 3 คน จากหน่วยงานด้านสุขภาพ 4 คน และผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข 2 คนคือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและสาธารณสุขอำเภอ โดยมีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นประธานโดยตำแหน่ง ส่วนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจะทำหน้าที่เป็นเลขานุการในระยะแรก โดย กสพ.จะทำหน้าที่บริหารจัดการควบคุมมาตรฐานสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน ขณะนี้ได้ตั้งไปแล้วกว่า 40 จังหวัด ส่วนงานที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยังไม่ได้โอนให้หน่วยงานท้องถิ่นได้แก่ การขึ้นทะเบียน 30 บาท งานคุ้มครองผู้บริโภค การรับรองตรวจสอบสถานพยาบาลเอกชนและคลินิกต่าง ๆ งานป้องกันควบคุมโรคต่าง ๆ ในพื้นที่ งานอนามัยสิ่งแวดล้อม ซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขอำเภอก็จะต้องร่วมทำหน้าที่ดังกล่าวในระดับอำเภอด้วย
สำหรับการจัดสรรเงินในปีงบประมาณ 2546 นั้น แยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและอำเภอจะเป็นงบประมาณปกติทั่วไป แต่ในส่วนของสถานพยาบาลรวมทั้งสถานีอนามัยหรือศูนย์สุขภาพชุมชน จะใช้งบเหมาจ่ายรายหัวตามจำนวนประชาชนที่ขึ้นทะเบียน ซึ่งจะมีงบจากจังหวัดให้สถานีอนามัยบริหารโดยตรง 1 ก้อน เช่น งบเยี่ยมบ้าน งานอนามัยโรงเรียน การดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่บ้าน และก้อนที่ 2 มาจากการจัดสรรจากโรงพยาบาลชุมชนที่เป็นแม่ข่าย--จบ-- -ตม-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit